รีวิวหนัง Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า

รีวิวหนัง Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า เลดี้บั๊ก กับภารกิจครั้งสำคัญที่ทำให้เขา ต้องปะทะกับนักฆ่าจากทั่วโลก ทุกคนต่างมีเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกัน แต่ก็ต้องต่อกรกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ บนรถไฟที่เร็วที่สุดของญี่ปุ่น [ ไม่สปอยนะ ]


รีวิวหนัง Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า การปูเรื่องตัวละครหลายตัว คล้ายกับภาพยนตร์สไตล์ กาย ริชชี่ ผู้กำกับชื่อดัง กล่าวคือให้ความสำคัญกับตัวละคร ตัวรองๆทั้งหมด เพื่อให้เรื่องราวยุ่งเหยิงวุ่นวาย ก่อนจะไปคลายปมทุกอย่างในช่วงบทสรุปสุดท้าย แบบหนังอาชญกรรมตลกร้าย นอกจากนี้ ภาพยนตร์ BULLET TRAIN ยังมีความกวนประสาทในบทสนทนา ให้อารมณ์แบบดูหนังยียวนกวนอารมณ์ ในแบบเดียวกับ เควนติน ทาแรนติโน่

จุดเด่นของ BULLET TRAIN คือมุกตลกของนักแสดงที่มาพร้อมกันแบบรัวๆ แต่ละคนปล่อยออกมาฮาแบบไม่มียั้ง ซึ่งมุกนี่เกิดจากการที่ผู้กำกับ เปิดโอกาสให้นักแสดงแต่ละคนที่มาเข้าฉาก จะบทเยอะบทน้อย ก็ปล่อยให้ด้นสดบทพูดเองตามใจชอบ ไม่อิงไม่เน้นตามบทพูดมากจนเกินไป จุดนี้เองเป็นข้อดีที่ดึงศักยภาพนักแสดงออกมาได้แบบเต็มที่ การเล่าเรื่องนั้น DAVID LEITCH ผู้กำกับตั้งใจจะเล่าเรื่องหลัก ของภาพยนตร์ตัดสลับกับการเล่าเรื่องภูมิหลัง ของตัวละคร ที่เล่าออกมาได้ราบรื่น แบบไม่มีติดขัด มีส่วนผสมของความ ตลก ยียวน แบบลงตัว

BULLET TRAIN ถือเป็นหนังแอ็กชั่นชุลมุนที่เล่าเรื่องได้สนุก ฉากแอ็กชั่นทำออกมาได้ดี ฉากความวุ่นวายก็ทำออกมาได้ดี และตัวละครล้วนสร้างสีสันให้กับหนังได้อย่างมาก ถือว่าเป็นหนังฟอร์มใหญ่ส่งท้ายซัมเมอร์ 2022 ที่ค่อนข้างน่าพอใจ ถ้าเคยชอบผลงานชิ้นก่อนๆของ เดวิด ลีทช์ ทั้ง JOHN WICK ภาคแรก, DEADPOOL ภาคสอง และ FAST & FURIOUS ภาคแยก น่าจะเพลิดเพลินกับหนังเรื่องนี้ ท่ามกลางหนังภาคต่อหรือรีเมกมากมาย นานๆจะมีหนังออริจินัลโผล่เข้ามาให้ชมในช่วงนี้ รับชมได้แล้วบน NETFLIX


ภาพยนต์แนว : แอคชั่น, ระทึกขวัญ, คอมเมดี้
ผู้กำกับ : เดวิด ลิตช์
นักแสดงนำ : แบรด พิตต์, โจอี้ คิง, แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง Seoul Vibe  ซิ่งทะลุโซล

รีวิวหนัง Seoul Vibe  ซิ่งทะลุโซล ภาพยนตร์ย้อนยุคแนวแอ็คชันคอเมดี้ เรื่องใหม่จาก NETFLIX ที่ไม่เพียงแต่รวมนักแสดงเล็กใหญ่ ไปจนถึงไอดอลไว้อย่างคับคั่งเท่านั้น แต่ยังสามารถพาผู้ชมเจาะเวลาย้อนไปมองประวัติศาสตร์เกาหลีในยุคค.ศ. 1988 ที่นอกจากจะบันทึกช่วงเวลาแห่งการเติบโตของประเทศเกาหลีใต้ ในปีที่เป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวหนัง Seoul Vibe  ซิ่งทะลุโซล เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผู้คนในกรุงโซล ต่างทวีความตื่นเต้นในช่วงเวลาไม่กี่วัน ก่อนจะถึงพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 1988 นักซิ่งจากทีม ซางกเยดงซูพรีม ได้รับข้อเสนอที่มิอาจปฏิเสธ และต้องเข้าไปพัวพันกับการสืบสวนคดีเงินสินบนของบุคคลสำคัญ โดยมีสมาชิกประกอบด้วย ดงอุค นักดริฟต์มือหนึ่งผู้ยึดถือใน AMERICAN DREAM และอยากย้ายไปอยู่สหรัฐอเมริกา ดีเจจอห์น, บ๊กนัม ผู้นำทาง, ยุนฮี เจ้าแห่งการปลอมตัวบนมอเตอร์ไซค์ และ จุนกี แมคไกเวอร์แห่งซางกเยดง และทำหน้าที่เป็นสาย ซิ่งลอบเอาหลักฐานออกมาแฉให้ได้ เพื่อแลกกับการลบความผิดของพวกเขาเอง ปฏิบัติการของพวกเขาเริ่มต้นขึ้นแล้ว

เกาหลีใต้ในปี 1988 นำเสนอได้อย่างน่าสนใจมากๆ น่าสนใจตรงที่ไม่ได้แค่ เอาเนื้อเรื่องไปสวมใส่กับยุคสมัย และเหตุการณ์จริง แต่ตัวหนังเลือกที่จะหยิบเอาบรรยากาศ ของคนในกรุงโซลเวลานั้นมาใช้จริงๆ ทั้งบรรยากาศโอลิมปิกฟีเวอร์ ของคนเกาหลีใต้ที่เกิดขึ้น หลังการสิ้นสุดของรัฐบาลเผด็จการทหาร พอแนวคิดประชาธิปไตยเบ่งบานจากตะวันตก และแนวคิดเสรีนิยม AMERICAN DREAM ก็ติดสอยห้อยตามมา การหยิบเอาบรรยากาศ ทางการเมืองในช่วงเปลี่ยนผ่าน ผ่านการสะท้อน และเสียดสีบุคคลสำคัญที่คุณก็รู้ว่าใคร ซึ่งอันนี้ต้องชื่นชมว่าตัวหนังทำการบ้าน และเอามาเสนอได้ดี

โดยรวมหนังเรื่องนี้เป็นหนังขาซิ่งกรุงโซล จากเกาหลีใต้ ต้องยอมรับว่าช่วงฉากเปิดกับฉากปิดของหนังถือว่าทำได้น่าประทับใจและน่าสนใจไม่น้อย และเป็นจุดที่โอเคที่สุดของหนัง กับเนื้อหาที่ดูได้เพลินๆยังให้อารมณ์แบบ ทีเล่นทีจริงไปสักหน่อย นั่นจึงทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่สนุก แต่ยังค่อนข้างขาดเสน่ห์ที่ควรจะมีอยู่ไปสักหน่อย แต่กระนั้นทีมแคสติ้งนักแสดงของเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นแม่เหล็ก และไฮไลต์ของเรื่องนี้ ที่ช่วยทำให้ภาพรวมของหนัง สามารถประคับประคองไปตลอดทางได้อยู่ ฉากซิ่งและเชือดเฉือนต่างๆทำออกมาได้คมจริงๆ รับชมได้แล้วบน NETFLIX

ภาพยนต์แนว : แอ็คชั่น, คอมเมดี้, อาชญากรรม
ผู้กำกับ : มุนฮยอนซอง
นักแสดงนำ : ยูอาอิน, โกคยองพโย, อีกยูฮยอง, พัคจูฮยอน

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง Wrath of Man คนคลั่งแค้น ปล้นผ่านรก

รีวิวหนัง Wrath of Man คนคลั่งแค้น ปล้นผ่านรก หนังแนวแอคชั่นแนวตามล่าล้างแค้นที่ได้ผู้กำกับภาพยนตร์อย่าง Guy Ritchie ซึ่งเคยฝากผลงานดีๆ ไว้มากมายหลายเรื่อง จนกระทั่ง Wrath of man คนคลั่งแค้น ปล้นผ่านรก ซึ่งต้องบอกเลยว่าแค่นักแสดงก็ดึงดูดให้เราชมกันแล้ว [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวหนัง Wrath of Man คนคลั่งแค้น ปล้นผ่านรก เรื่องราวของ เอช ที่มาสมัครงาน ณ บริษัทรักษาความปลอดภัย และ การขนเงินทั่วลอสแอนเจลิส หลังจากผ่านการทดสอบร่างกายทดสอบการยิงปืน เขาก็ผ่านข้อสอบทุกอย่างมาได้แบบฉิวเฉียด เขาได้รับมอบหมายให้ร่วมงานกับ บูลเล็ต คนที่ทำงานนี้มาก่อน และ คอยแนะนำเขาในการทำงาน และ เดฟ หนุ่มที่ดูเหมือนจะเก่งแต่พอเจอเหตุการณ์คับขันเขากลับลุกลี้ลุกลนหลังจากที่ เอช ทำงานขนเงินไปได้ซักพักก็เกิดเหตุปล้นรถขนเงินส่วน เดฟ ที่พอรู้ว่ารถขนเงินของพวกเขากำลังโดนปล้น เขาก็สติแตกจนทำอะไรไม่ถูกจน เอช ต้องเตือนสะติเขา และ โชว์สกิลฆ่าโจรอย่างโหดเหี้ยม และ ชำนาญการอย่างมากจนทีมงานของเขาต้องตะลึง

เมื่อทุกคนในบริษัทของเขารู้ว่า เอช สามารถปลิดชีพโจรได้ทุกคนจากการใช้ปืนพกกระบอกเดียว โดยที่เขาไม่มีแม้รอยขีดข่วนมันทำให้เขาได้ยกระดับตัวเองในบริษัทนี้ทันที หลายเดือนผ่านไปรถขนเงินของ เอช และทีมงานก็โดนจี้ปล้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้มันต่างออกไป เอช เปิดประตูรถขนเงินและก้าวท้าวลงจากรถ ทันทีที่โจรได้เห็นหน้าตาของเขา พวกมันต่างพากันรีบกลับขึ้นรถ และขับหนีเขาไปทันที ด้วยอาการหวาดกลัวเอามากๆ มันทำให้ทีมงานของ เอช และคนในบริษัทเริ่มสงสัยว่า เอช เขาเป็นใครกันแน่ เขาเก่งเกินจะมาทำงานนี้

หนังเรื่องล่าสุดของ GUY RITCHIE ที่เคยจับมือกันดังกับ JASON STATHAM มาแล้วใน LOCK, STOCK AND TWO SMOKING BARRELS หนังระดับขึ้นหิ้งของ GUY RITCHIE เลยทีเดียว ทั้งสองคนไม่ได้ร่วมงานกันมานานมากจนมาเจอกันอีกทีคือในเรื่องนี้นี่แหละ เรื่องนี้เรียกว่าพลิกแนวหนังของ GUY RITCHIE เลย ปกติหนังเขาจะมีท่าทางยียวนปนตลกร้าย แต่เรื่องนี้เค้าทำหนังแนวจริงจังสุดๆซีเรียสทั้งเรื่อง เรียกว่าไม่มีมุกให้ฮาเลยก็ว่าได้และเขาทำได้ด้วย การถ่ายทอดฉากที่ต้องกดอารมณ์ให้ดูเลือดเย็นและน่าสะพรึงกลัวในเรื่องคือทำได้ดีมาก หนังเรื่องนี้ไม่ใช่แนวลุ้นระทึกฉับไว แต่เป็นหนังที่ค่อยๆ บ่มเพาะตัวละครผ่านแต่ละกลุ่มของเรื่อง เพื่อนำไปสู่ตอนจบที่ทรงพลังและสะใจสุดๆ

หนังทำออกมาได้ดีจริงๆ เป็นการเล่าเรื่องแบบ พาสใครพาสมัน พาสแรกจะทำให้เรารู้ว่ามีการปล้นรถขนเงิน พาสสองจะเป็นการเล่าพระเอกกับลูกอยู่ในเหตุการณ์ปล้น พาสสามเล่าเรื่องของกลุ่มโจรที่ไปปล้นรถขนเงิน หนังจะเล่าเหตุการณ์ต่างๆ กลับไปกลับมา เพื่อให้เราปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดเข้าด้วยกัน เราจะค่อยๆ รู้ปูมหลัง และเหตุจูงใจทั้งหมดที่ทำให้ พระเอกของเรามาทำงานนี้ ติดตามความมันสุดระห่ำได้แล้วที่ NETFLIX

ผู้กำกับภาพยนตร์: GUY RITCHIE
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: NICOLAS BOUKHRIEF, ÉRIC BESNARD
นักแสดง: JASON STATHAM, HOLT MCCALLANY, JOSH HARTNETT
ภาพยนต์แนว: แอ็คชั่น , THRILLER

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว หนัง แอ็คชั่น

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว หนัง ARMY OF THIEVES แผนปล้นยุโรปเดือด

รีวิว หนัง ARMY OF THIEVES แผนปล้นยุโรปเดือด อีกหนึ่งหนังในการขยายจักรวาล เรื่องราวภาคแยกของ Army of the Dead ที่ปรับทิศทางมาเป็นหนังโจรกรรมเต็มตัว เล่าเรื่องราวหลัก ออกมาเป็นหนังปล้นกระหน่ำที่อยู่ในโลกใบเดียวกันกับ Army of the Dead [ สปอยนิดๆ ]

รีวิว หนัง ARMY OF THIEVES แผนปล้นยุโรปเดือด ภาคก่อนเกิดเหตุการณ์ในกองทัพแห่งความตายซึ่งเน้นไปที่นักเซฟชาวเยอรมัน ลุดวิก ดีเทอร์ ที่นำกลุ่มโจรผู้ทะเยอทะยานในการปล้นลับสุดยอดในช่วงแรกของการเปิดเผย ซอมบี้ หญิงลึกลับจ้างพนักงานธนาคาร ลุดวิก ดีเตอร์ ให้มาเป็นผู้นำกลุ่มโจรหัวขโมยในการปล้น ลับสุดยอดในช่วงแรกของการล่มสลายของ ซอมบี้ ลุดวิก ดีเตอร์ ใช้ชีวิตธรรมดาในฐานะพนักงานธนาคารใน พอทสดัม และใช้ชื่อจริงว่า เซบาสเตียน ข่าวการระบาดของ ซอมบี้ ที่เพิ่มขึ้นในเนวาดา ครอบงำข่าวต่างประเทศ แต่ผลกระทบของมันยังไม่ถึงยุโรปแผ่นดินใหญ่แม้ว่าจะไม่ได้หยุด

ARMY OF THIEVES แผนปล้นยุโรปเดือด รีวิว 001

ลุดวิก จากการฝันร้ายเกี่ยวกับซอมบี้ก็ตาม ลุดวิก ยังผลิตวิดีโอยูทูปเกี่ยวกับ เซฟแคร็กกิ้ง ในเวลาว่างซึ่งไม่ได้รับความสนใจจนกว่าวิดีโอหนึ่ง จะได้รับความคิดเห็นจากบุคคลลึกลับที่เชิญเขาเข้าร่วมการแข่งขัน เซฟแคร็กกิ้ง ใต้ดินในเมือง ลุดวิก เข้าร่วมการแข่งขันและชนะการแข่งขัน ซึ่งเมื่อเขาได้รับการต้อนรับจาก เกวนโดลีน โจรขโมยอัญมณีผู้มีทักษะซึ่งเผยให้เห็นตัวเองว่าเป็นบุคคลลึกลับที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิดีโอยูทูปของ ลุดวิก เกวนโดลีน ชักชวน ลุดวิก ให้เข้าร่วมกลุ่มโจรกรรมซึ่งประกอบด้วยเธอเอง แฮ็กเกอร์ผู้เชี่ยวชาญ โคริน่า,โรลฟ์ นักขับรถหนีภัย และมือปืน แบรด เคจ

ด้วยความตั้งใจที่จะบุกเข้าไปในธนาคารสามแห่งที่มีตู้เซฟสามแห่งที่สร้างโดย ฮานส์ แว็กเนอร์ ช่างทำกุญแจในตำนานและปัจจุบันเป็นของมหาเศรษฐี บลาย ทานาคา ตู้เซฟจะถูกยกเลิกภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งหมายความว่าเวลาจะหมดลงแล้วสำหรับขโมยที่จะบุกเข้าไปในนั้น ลุดวิก ผู้เชี่ยวชาญทางทฤษฎีเกี่ยวกับงานของ แว็กเนอร์ และ เซฟแคร็กกิ้ง แต่ไม่มีประสบการณ์ในทางปฏิบัติ ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมหลังจากที่ เกวนโดลีน เชื่อมั่นเกี่ยวกับความท้าทายในการบุกเข้าไปในตู้เซฟของ แว็กเนอร์ ลูกเรือประสบความสำเร็จในการร่วมกันปล้นตู้เซฟแห่งแรกในปารีส แต่หลบหนีด้วยเงินเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินที่อยู่ในตู้เซฟ ซึ่งมีเหตุผลของ เกวนโดลีน ว่าความท้าทายและชื่อเสียงนั้นดีกว่าการได้มาซึ่งเงินก้อนใหญ่ใดๆ

ARMY OF THIEVES แผนปล้นยุโรปเดือด ถือว่าเป็นภาคแยกและเปิดจักรวาลของหนังซอมบี้ของ ZACK SNYDER ถือว่าหนังทำออกมาได้ประทับใจมาก และมันก็ถูกวางโครงเอาไว้เป็นจักรวาลหนังเอาไว้บทเข้มข้นมาก สำหรับใครที่ดู ARMY OF THE DEAD แล้วต้องชอบเรื่องนี้แน่นอนและก็ควรจะดูมากๆ แม้จะรู้ว่าจุดจบของตัวละครนี้เป็นยังไงในภาคเวกัสก็ตาม คอหนังแนวปล้นระทึกหักเหลียมเฉือนคมไม่ควรพลาดเด็ดขาด แอดรับประกันความมันดูได้แล้วบน NETFLIX เรื่องนี้มีภาคไทยด้วยนะ

ภาพยนต์แนว : ACTION, COMEDY, CRIME, HORROR, ROMANCE, THRILLER
ผู้กำกับภาพยนตร์ : MATTHIAS SCHWEIGHÖFER
ผู้เขียนบทภาพยนตร์ : SHAY HATTEN
นักแสดง : MATTHIAS SCHWEIGHÖFER, NATHALIE EMMANUEL, RUBY O. FEE, STUART MARTIN, GUZ KHAN

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว หนัง the commuter นรกใช้มาเกิด

รีวิว หนัง the commuter นรกใช้มาเกิด เรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ถูกคัดเลือกโดยไม่ได้ตั้งใจ ให้เข้าร่วมการสมรู้ร่วมคิดในคดีฆาตกรรมหลังจากได้พบกับหญิงลึกลับในระหว่างการเดินทางด้วยรถไฟทุกวัน [สปอยนิดๆ]

รีวิว หนัง the commuter นรกใช้มาเกิด หนังเล่าเรื่องของ ไมเคิล [เลียม นีสัน] อดีตตำรวจมาขายประกันที่เดินทางไปทำงานด้วยรถไฟขบวนเดิมมาตลอด 20 กว่าปีทำให้คุ้นหน้าผู้โดยสารเป็นอย่างดี ต้องมาเจอสถานการณ์บีบบังคับให้ทำภารกิจลับจากหญิงปริศนา โจอันนา [เวร่า ฟาร์มิกา] เพื่อแลกกับเงินที่ตนนั้นกำลังต้องการมันมากที่สุด รวมถึงมีครอบครัวเป็นเดิมพันอีก เขาจึงเริ่มเล่นตามเกมไล่ล่าหาคนชื่อ พรินซ์ ซึ่งเป็นตัวละครที่จะเฉลยต้นเหตุของการกระทำครั้งนี้ และเขาต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อไขปริศนา จนกระทั่งเขาค้นพบว่าแผนการร้ายแรงที่กลายเป็นอาชญากรรมกำลังเกิดขึ้น เขาต้องจัดการปัญหาทุกอย่างให้ได้โดยมีชีวิตของตัวเองและผู้โดยสารในขบวนเป็นเดิมพัน

the commuter นรกใช้มาเกิด รีวิว ฉาก 01

เป็นหนังที่เล่าเรื่องกระชับชับไวและไม่น่าเบื่อ อาจมีภาพตัดไปมาตัดมาอาจจะเวียนหัวนิดๆ แต่พอเริ่มเรื่องได้ไม่นานเท่านั้นละความสนุกความตื่นเต้นเริ่มมา เราก็เข้าไปอยู่ในขบวนรถไฟแล้ว ในช่วงต้นทำให้คนดูคิดตามอยากรู้อยากเห็นว่าใครคือคนที่ต้องตามหา และหาไปเพื่ออะไร อีกทั้งตัวเอกของเรื่องจะใช้วิธีไหนในการสืบหาความจริงครั้งนี้ ซึ่งทำออกมาได้ดีทั้งความลุ้นตื่นเต้น ท่าทีของคนร่วมทางที่ลุกลี้ลุกลนชวนสงสัย ภาพน่าสนใจแม้จะมีฉากหลักอยู่แค่ในรถไฟแคบๆ ถือว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่สะกดคนดูได้ตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบเรื่อง จะไปใหนไม่ได้เพราะกลัวจะพลาดชอตสำคัญ

the commuter นรกใช้มาเกิด รีวิว รถไฟ

หนังนำเสนอเรื่องราวให้เราต้องคิดตามตลอดเวลาว่าอะไรยังไง ใครคือ พริ๊น ใครคือคนดี ใครคือคนเลว และอีพวกตัวประกอบแต่ละตัวก็ทำตัวมีพิรุธน่าสงสัยเสียเหลือเกิน คือระหว่างดูนั่งเดาไปนะว่าใครคือ พริ๊น แต่บอกเลยว่าเดาไงก็เดาไม่ออกหรอก การที่หนังใช้โลเกชั่นแค่บนรถไฟขบวนเดียว แต่การเล่าเรื่องเหตุการณ์ได้ดีมาก[เหมือนเราได้ดูโคนันเลยละ] ในส่วนของบทบู๊ของ เลียม ก็ยังคงสะเด่าอย่างกับหนุ่มวัย 20 ต้นๆกระทุ้งหมัดแต่ละดอก ตุบๆ ตับๆ นี่มันช่างสะใจดีเหลือเกิน ความมันส์จัดให้อยู่ในระดับเดียวกับเจอนายก [คือใส่ไม่ยั้ง ตุ๊บๆตั๊บๆ] โดยเรื่องนี้เป็นการหวนกลับมาร่วมงานกันของ เลียม กับ โจเม่ คอลเลต-เซอร์ร่า หลังเคยร่วมงานกันมาแล้วเมื่อครั้ง UNKNOW , NON-STOP และ RUN ALL NIGHT หนังยังได้ เวร่า ฟาร์มิกา มาร่วมแสดงด้วย [นึกว่าจะมาตามหาผี อนาเบล] เพราะในเรื่องนี้ผัวนางอย่าง แพทริก วิลสัน ก็มาร่วมเล่นด้วยอีกคน

the commuter นรกใช้มาเกิด รีวิว ฉากแอ็คชั่น

ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายรอบปฐมทัศน์ในนครนิวยอร์กเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2018 และฉายจริงในวันที่ 12 มกราคม 2018 และภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้ไปทั่วโลก 119 ล้านดอลลาร์และได้รับการวิจารณ์ที่หลากหลายจากนักวิจารณ์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่ดีที่สุดของเลียมนีสันที่มันสนุกเหมือน เรื่อง NON-STOP เลยทีเดียวทั้งสนุกตื่นเต้น เอาเป็นว่าถ้าชอบหนังที่ทำให้คุณลุ้นสนุกไปกับมันได้ หนังเรื่องนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน เป็นหนังที่สมเหตุสมผลในพล็อตเรื่องของหนัง เอาเป็นว่าใครที่เบื่อๆกับโควิด การกักตัวการเมือง แอดแนะนำให้ดูเรื่องนี้ เพราะหนังจสนุกมาก แล้วคุณจะลุ้นจนไม่อยากลุกไปใน ดูได้แล้วบน NETFLIX

ภาพยนตร์แนว: แอ็คชั่นสุดระทึกขวัญ
ที่กำกับโดย: JAUME COLLET-SERRA
เขียนบทโดย: BYRON WILLINGER,PHILIP DE BLASI,RYAN ENGLE
นักแสดงนำ: เลียมนีสัน ,VERA FARMIGA,แพททริควิลสัน ,โจนาธานธนาคาร,แซมโอนีล

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว แอ็คชั่น

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว หนัง Saving Private Ryan เซฟวิ่ง ไพรเวท ไรอัน ฝ่าสมรภูมินรก

รีวิว หนัง Saving Private Ryan เซฟวิ่ง ไพรเวท ไรอัน ฝ่าสมรภูมินรก หนังสงครามอาจเป็นหนังที่หลายคนไม่ชอบ เพราะส่วนใหญ่ก็จะรู้กันอยู่แล้วว่ามันมักจบแบบใหน คือถ้าไม่อยากดราม่า น้ำตาแตกก็คงไม่ดูกัน แต่สำหรับเรื่องนี้เป็นหนังสงคราม ที่ถึงแม้คนไม่ชอบหนังแนวนี้ก็ยังต้องดู แถมยังติดอันดับหนังดี ในใจของใครหลายคนด้วย [ สปอยนิดๆ ]

รีวิว หนัง Saving Private Ryan เซฟวิ่ง ไพรเวท ไรอัน ฝ่าสมรภูมินรก นี่เป็นหนังที่มีแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริง เป็นเรื่องราวของทหารกลุ่มหนึ่งในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากที่บุกขึ้นหาดได้เสร็จในวันดีเดย์ หลังจากนั้น 3 วัน ร้อยเอกจอห์น มิลเลอร์ได้ถูกมอบหมายภารกิจพิเศษโดยให้ไปตามหาและพาตัวพลทหารเจมส์ ไรอันกลับมาบ้านแบบมีชีวิต เนื่องจากพี่น้องของเขาทั้ง3คน ที่เป็นทหารเหมือนกัน ได้เสียชีวิตในสนามรบไปหมดแล้วในเวลาไล่เลี่ยกัน ( ในเรื่องจริง มีพี่น้องคนหนึ่งไม่ได้เสียชีวิต แต่ถูกทางกองทัพญี่ปุ่นจับตัวไป แต่มารู้ข่าวในภายหลัง ) นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของตระกูล

ทางกองทัพจึงอยากจะตอบแทน แม่ของไรอันโดยการตามตัวไรอัน ซึ่งเป็นลูกชายคนสุดท้องกลับคืนสู่ครอบครัวแบบเป็นๆ หลังจากที่โดดร่มแล้วหายตัวไปในสนามรบ ปฏิบัติการณ์นี้มีร้อยเอกจอห์นเป็นหัวหน้าทีม นี่เป็นภารกิจที่เสี่ยงอันตรายมาก มันจึงมาพร้อมกับคำถามอยู่ตลอดเวลาว่าคุ้มค่าแล้วหรือ ที่จะส่งกำลังทหารหลายนายเข้าไปเสี่ยงชีวิต เพื่อช่วยคนเพียงคนเดียว เพราะทหารคนอื่นก็มีครอบครัวที่ต้องกลับไปหาเช่นเดียวกัน จึงทำให้ปฏิบัติการณ์ครั้งนี้เหล่าทหารต้องสู้ทั้งศัตรูและสู้ทั้งความสับสนที่กัดกินจิตใจด้วย

หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่หลายคนยกขึ้นหิ้งว่าเป็นที่สุดของหนังสงคราม เพราะมีครบทุกรสชาติทั้งสนุก มันส์ เศร้า ซึ้งและดราม่า หนังสื่อสารกับผู้ชมถึงความโหดร้ายและความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากสงครามได้เป็นอย่างดี ฉากเปิดเรื่องประมาณ 15 นาทีแรกกับฉากตอนจบเป็นอะไรที่ประทับใจผู้ชมมานานหลายปี ฉากในเรื่องบอกเลยว่าฆ่าเป็นฆ่า เลือดเป็นเลือด ใครไม่ค่อยชอบเลือดอาจไม่เหมาะกับเรื่องนี้ แต่มันเป็นหนังดีที่ควรค่าแก่การชมจริงๆ สุดท้ายแล้วทหารมากมายได้สละชีวิตไปในปฏิบัติการณ์นี้ ไรอันได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยพร้อมกับความรู้สึกขอบคุณและคำถามที่เกิดขึ้นในใจไปตลอดชีวิตเช่นเดียวกัน

Saving Private Ryan เป็นภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่และได้รับการจับตาเป็นอย่างมากในปี ค.ศ. 1998 อีกทั้งเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดประจำปีนั้นด้วย โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับความสูญเสียของกำลังทหารและชีวิตผู้คนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฉากเปิดเรื่องที่ยาวกว่า 10 นาที ที่เป็นการบุกหาดโอมาฮ่า ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสมรภูมิที่สูญเสียที่สุดของกองทัพสหรัฐอเมริกา ได้รับคำวิจารณ์ว่าทำได้เสมือนจริงอย่างมาก และหลายคนได้นำไปเปรียบเทียบกับภาพยนตร์แนวเดียวกันในอดีต อย่าง The Longest Day ในปี ค.ศ. 1962

เมื่อเข้าฉายแล้ว ได้รับการจับตาอย่างยิ่งว่าจะคว้ารางวัลได้หลายรางวัล ทั้ง รางวัลออสการ์หรือรางวัลลูกโลกทองคำ รวมทั้ง รางวัลอื่น ๆ ด้วย ซึ่งภาพยนตร์ก็คว้าได้หลายรางวัลด้วยกัน โดยเฉพาะการแสดงที่โดดเด่นอย่างมากของ ทอม แฮงค์ และเจเรมี เดวีส์ ที่รับบทเป็นพลทหารอับฮัม ที่ตื่นตระหนกตลอดเวลา เป็นเหมือนลูกไล่และจุดอ่อนของกองกำลัง

ซึ่งในระหว่างที่เข้าฉายนั้น ก็มีภาพยนตร์ในแนวเดียวกัน คือ The Thin Red Line ของทเวนตี้ เซนจูรี ฟอกซ์ เข้าฉายในเวลาเดียวกัน เสมือนเป็นคู่แข่งและคู่เปรียบเทียบ ในรางวัลออสการ์มีชื่อเข้าชิงมากถึง 11 รางวัล ประกอบไปด้วย รางวัลใหญ่ ๆ ด้วยกัน เช่น ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม, บันทึกภาพยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม, บันทึกเสียงยอดเยี่ยม เป็นต้น คอหนังสงครามห้ามพราดเด็ดขาด มีให้ชมแล้วบน netflix

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวTheSleepover หนังครอบครัว แนวนักสืบจอมโจรที่ไปไม่สุดสักทาง

ก่อนอื่นขออธิบายให้ฟังก่อนว่าเรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้วทั้งตัวอย่างที่นำเสนอออกมาว่าเป็นหนังเด็ก หนังครอบครัว ที่ให้อารมณ์เหมือน Spy Kid ผสมกับหนังแนวโจรกรรมแบบฮาๆของฝรั่ง เพราะฉะนั้นเรื่องความสมจริงทุกอย่างนั้น ให้เตะทิ้งออกไปให้หมดต้องบอกตามตรงว่า เรื่องนี้จะดูสนุกได้

ถ้าคุณมีความเป็นเด็กสูง หรือถ้าเป็นเด็กที่ชอบดูหนังแนวนี้ เพราะนอกจากหนังจะยัดองค์ประกอบที่เด็กๆน่าจะชอบ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่ฉากหน้าเป็ครอบครัวธรรมดาที่เข้าขั้นน่าเบื่อและมีความเพี้ยนสุดๆ แต่กลับมีความลับเหลือเชื่อซ่อนเอาไว้ฐานทัพลับที่มีไอเท็มไฮเทคเจ๋งๆไว้สำหรับทำภารกิจ ให้อารมณ์เหมือน Spy Kidการวางปริศนาที่เชื่อมโยงเอาไว้ ให้เด็กๆตามรอยไปการใส่ประเด็นเรื่อง ความไม่เข้าใจกันระหว่างวัยรุ่นและพ่อแม่

แต่แน่นอนว่า นี่คือหนังเด็ก เพราะฉะนั้นอย่าไปใส่ใจกับความสมจริงอะไรมากนัก เพราะทั้งเรื่องมีพลอตโฮลเต็มไปหมดที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่า แม่ของครอบครัวนี้ ไปฝึกวิชาการต่อสู้ระดับทหารมาจากไหน แล้วเธอไปได้พวกอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆที่ถึงระดับสายลับข้ามชาติมาได้ยังไง ถึงแม้ตัวเรื่องจะใส่พลาตมาว่า เธอเคยทำงานให้องค์กรมาเฟียมาก็ตาม แต่ก็ยังไม่พอที่จะอธิบายความเว่อร์ของตัวแม่อยู่ดี

ตัวเรื่องจะมีการแยกเล่าเป็นสองเส้นเรื่องหลักคือ ฝั่งเด็กที่มีก๊วนเด็กสี่คนเป็นตัวนำ ซึ่งนักแสดงเด็กทั้งสี่คนทำได้ไม่เลว การแสดงยังดูล้นๆขาดๆเกินๆไปบ้าง ยังพอให้อภัยได้ มีบางซีนที่ทำได้ดีมากๆด้วยซ้ำอีกเส้นเรื่องจะเป็นการเดินเรื่องทางฝั่งผู้ใหญ่ ที่มีการแทรกเรื่องตัวตนปลอมๆทีต้องสร้างขึ้นมา ว่าแท้จริงแล้วแบบไหนกันแน่ที่เป็นตัวตนแท้จริง

ขอสรุปเลยนะครับว่าน่าเสียดายว่า ทั้งสองเส้นเรื่องแม้จะดูน่าสนใจ แต่หนังมันไปไม่สุด จะเลือกเน้นโทนสายลับแนวไฮเทค ก็ไม่ได้ใช้ของหรืออุปกรณ์อะไรเลย จะมาแนวสายลับแนวบู๊แบบก็ทำไม่ถึง มีการสืบสวนตามรอยในแบบดาวินชีโค้ด ก็ไม่ได้เจ๋งอะไรนัก คือทุกอย่างมันดูครึ่งๆกลางๆไปหมด แล้วหนังพยายามหยิบทุกอย่างมารวมกัน

มันเลยดูเหมือนเป็นการยำใหญ่สารพัดพลอตเรื่องแนวนี้เข้ามา แต่ไม่กลมกล่อม บทพูดหรือไดอาล็อคก็เป็นแนวเชยๆ ที่ไม่ได้มีการพัฒนาอะไรมากนัก ตัวร้ายที่มีการหักมุมอาจจะร้องว้าวบ้าง แต่ก็ให้อารมณ์เฉยๆ ไม่น่าแปลกใจอะไรนักหนา

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

รีวิวหนังTENET หากกำลังหาหนังแนวแอคชั่นมันส์ๆเราแนะนำ

รีวิวหนังTENET ก่อนจะเข้าไปอ่านเนื้อเรื่องมาดูแนะนำสำหรับหนังเรื่องนี้กันก่อน Christopher Nolan เป็นผู้กำกับที่ต้องบอกว่าทำหนังออกมามีอะไรให้น่าสนใจเสมอ แม้จะดูจบไปแล้วก็ตาม เป็นผู้กำกับที่ทำหนังให้ดูยากมากๆ สำหรับใครหลายคนและมีอะไรซับซ้อนเยอะแยะไปหมด จนขึ้นชื่อว่าเป็น ผกก ที่ทำหนังดูรอบเดียวไม่เคยพอ ถ้าใครที่คุ้นเคยกันในหนังของ ผกก คนนี้นั้นทั้ง Batman 3 ภาค Begin / Dark Knight / Dark Knight Rise

รวมถึงหนัง สงครามอย่าง Dunkirk หรือจะเป็นหนัง Intersellar ก็น่าจะพอจับแนวทางหนังได้อยู่พอสมควร หรือจะเป็นหนังอย่าง INCEPTION ด้วยถือว่าถ้าใครดูหนังพวกนี้รู้เรื่องแล้ว แต่ถ้ามาดู TENET เรื่องนี้บอกเลยว่าเป็นหนังที่คิดอะไรค่อนข้างเยอะ ตัวหนังเนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้ยาก แต่การดูการตัดต่อ การเล่าเรื่อง การหาเหตุผลว่าทำไมตัวละครถึงทำแบบนี้ มาจากอะไร อันนี้มาจากไหน แล้วทำไมเป็นแบบนั้นจะมาเต็มหัวไปทั้งหมด ตั้งแต่ต้นเรื่องจนหนังจบ

รีวิวหนังTENET

ตัวละครนั้นจริงๆจุดที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นจุดอ่อนของหนังของ โนแลนหลายๆเรื่องคือมิติของตัวละคร การผูกพันหรือว่าการทำให้เราเป็นส่วนนึงของหนังนั้นค่อนข้างดรอปครับ และเรื่องนี้ก็ยังคงเจออยู่บ้างเพราะตัวละครนั้นการเล่าเรื่องทำให้เราเป็นเหมือนคนดูจริงๆที่อยู่ไกลๆไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรกับหนังเท่าที่ควร แต่ก็อาจจะเป็นการตั้งใจและการเล่าเรื่องในแนวนี้อีกส่วนที่ทำให้เป็นแบบนั้น ตัวละครหลักๆนั้นเราได้ นักแสดงผิวสี John David Washington ที่เป็นลูกของ Dezel Washington นั้นเองที่ได้พิสูจน์ฝีมือเน้นๆในหลายๆเรื่องก่อนหน้านี้ แต่น้อยคนจะรู้จัก แต่พอมาเล่นเรื่องนี้ทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นแน่นอน

และการแสดงนั้นบอกเลยว่าไม่ธรรมดาครับ สามารถเอาหนังได้อยู่แบบสบายๆในการเล่น การแสดงถือว่าโอเคอย่างมาก แสดงร่วมกันกับ Robert Pattinson ที่เราคุ้นเคยกันดีแน่นอน และหนังของโนแลนมักจะดึงนักแสดงหลายๆคนที่เคยทำงานร่วมกันมาก่อนเข้ามาแจมเยอะแยะมากๆครับ ถือว่าในส่วนนักแสดงนั้นทำได้ดีอย่างมากทั้งการเล่นในแต่ละซีนความรู้สึกของแต่ละช่วงเวลาต่างๆนั้นถือว่าแตกต่างกันชัดเจน

สรุปให้เลยนะครับภาพรวมหนังเรื่องนี้ต้องบอกกันตรงๆว่าเป็นหนังที่ดูยากมากที่สุดในบรรดาหนังของ Nolan เองด้วยเช่นกัน และก็เป็นหนังที่มีเรื่องราว การเล่าเรื่องที่แปลกใหม่ด้วยเช่นเดียวกันทำให้ค่อนข้างดูสนุกในแง่ของ เนื้อหาถ้าพอเข้าใจอยู่รวมถึง การดูภาพรวมของหนังฉากต่างๆก็ถือว่าเป็นหนังที่ดูแล้วสนุกแต่มีเรื่องให้คิดเยอะมาก มีอะไรแทรกเข้ามาตลอดเวลาให้สมองได้ทำงานตลอดจริงๆครับ ถ้าใครดูแล้วไม่ทันก็จะงงจนหนังจบได้เลย

แนะนำว่าก่อนดูควรทำหัวโล่งๆไม่ต้องคิดอะไรเยอะแล้วเก็บรายละเอียดของหนังให้ได้ก็จะพอตามทัน และสนุกไปกับการเล่นเวลา สภาพแวดล้อมต่างๆของหนังได้ดีเลยทีเดียวครับ แต่รอบเดียวไม่พอสำหรับเรื่องนี้จริงๆสำหรับ TENET พูดเยอะมากไม่ได้ลองไปหาดูกันเลยยยครับ

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ Blusterfilms