รีวิวหนัง THE VILLAGE หมู่บ้าน หมู่บ้านนี้มีความลับ

ยู คาตะยามะ ชายหนุ่มที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านคามนมุระ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อันห่างไกล แต่เต็มไปด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เขาเกิด และเติบโตอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ แต่ไม่สามารถออกไปที่ไหนได้ เนื่องจากเหตุการณ์ใดอดีต ของเกี่ยวข้องกับเขา และยังต้องอยู่เพื่อปลดหนี้ ให้แม่ที่ติดการพนัน

ชีวิตของ ยู ในแต่ละวันไม่มีอะไรมากเขาทำงานอยู่ที่โรงงานกำจัดขยะ ที่อยู่ละแวกหมู่บ้านใช้ชีวิตไปวันๆ แบบไม่มีความฝัน และความหวังใดๆในชีวิต กระทั่งวันหนึ่ง มิซากิ นางาอิ หญิงสาวที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของเขา กลับมาที่หมู่บ้าน หลังจากที่เธอปลึกตัวไปอยู่กรุงโตเกียว การกลับมาของเธอ ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตยูไปอีกทิศทาง

หนังญี่ปุ่นที่หน้าหนังชวนพิศวงมาก ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ หนังเข้าฉายที่ญี่ปุ่นไปแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และสร้างความฉงนให้กับคอหนังได้ไม่น้อย เป็นหนังดราม่าลึกลับระทึกขวัญ ที่จะพาคนดูค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปสำรวจหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล

แต่แอบซ่อนด้วยความลับ และปริศนาที่คาดไม่ถึง นี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับ หนุ่มไฟแรงแถวหน้าของวงการหนังญี่ปุ่น มิจิฮิโตะ ฟูจิอิ ที่ปีที่แล้วฝากผลงานไว้กับ THE LAST 10 YEARS ปีนี้ก็ปรับโหมดเข้ามาสู่ความลึกลับ น่าค้นหาครั้งใหม่ กับอีกหนึ่งแนวลึกลับ

ช่วงแรกของหนัง กับปมต่างๆถูกจับโยง เข้ามาเป็นเรื่องราวเดียวกันอย่างไร แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของหนัง เป็นไฮไลต์ และความดีงามที่สุดของหนังเรื่องนี้ ที่เหมือนเป็นการปลดล็อก และปลดแอกในหลายประเด็นที่สงสัยได้เป็นอย่างดี นี่อาจจะไม่ใช่หนังที่ดูง่ายเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ยากเกินกว่าที่คอหนังทั่วไป

ถือว่าเป็นหนังที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน และยุ่งเหยิงในหลายประเด็น แต่หากมองโดยภาพรวม จะพบว่านี่คือหนังที่มีบทหนัง ที่เต็มไปด้วยกิมมิกที่น่าพิศวงเรื่องหนึ่ง หนังอาจจะใช้วิธีเล่าที่ไม่ได้ตรงไปตรงมา อาศัยสัญลักษณ์ และพฤติกรรมต่างๆ เป็นตัวแทน แต่ก็นับว่าม้วนจบสรุปได้อย่างงดงาม

โดยรวมหนังมีประเด็นน่าสนใจ หลอมรวมเรื่องปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น เข้ากับผู้คนในหมู่บ้านชนบทห่างไกล ได้เสมือนเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นที่ไหนสักที่ [ โดนเฉพาะ บ้านเรานี้ละ ] แต่การเล่าเรื่องค่อนข้างไม่กระชับ ซักเท่าไหร่ แล้วยังทำให้เหมือนเป็นแนวลึกลับระทึกขวัญ ทั้งๆที่จริงแล้ว……. แต่ก็ขอบอกเลยว่า คอหนังแนวลึกลับซัพซ้อน ไม่ควรพลาดจริงๆขอบอก

ความยาว : 2 ชั่วโมง
ประเภท : ดราม่า, ระทึกขวัญ
ผู้กำกับโดย : มิจิฮิโตะ ฟูจิอิ
นำแสดงโดย : ริวเซย์ โยโกฮามะ, ฮารุ คูโระกิ, อาระตะ ฟูรุตะ
ช่องทางการรับชม : NETFLIX

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว NETFLIX

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง Blair Witch  แบลร์ วิทช์ ตำนานผีดุ ตำนานสยองครั้งใหม่

พบกับปรากฏการณ์สยองขวัญครั้งใหม่ ที่จะทำให้หลอนจนไม่มีวันลืม เรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ที่ไปเที่ยวตั้งแคมป์กันในป่า ที่มีบางสิ่งที่คืบคลาน เข้าใกล้ตัวขึ้นมาเรื่อยๆ

เรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ที่ไปเที่ยวตั้งแคมป์กันในป่า ช่วงเวลาพักร้อนครั้งนี้ ดูเหมือนจะเป็นเวลาที่ให้พวกเขาได้พักกายพักใจ ลืมเรื่องราวอันวุ่นวายในตัวเมืองไปเสียให้หมด แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขากลับเริ่มรู้สึกว่า มีบางสิ่งที่คืบคลานอยู่ในป่า เข้าใกล้ตัวขึ้นมาเรื่อยๆ และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ สิ่งที่คืบคลานอยู่ในความมืดนั้น จ้องจะเอาชีวิตของพวกเขาอย่างโหดเหี้ยม สร้างความสยองที่หลายสำนักต่างการันตีว่า นี่เป็นหนึ่งในหนังผีที่น่ากลัวที่สุดที่โลกเคยสัมผัส

พูดถึงความสยองกันบ้าง ด้วยความที่เป็นแนวถือกล้องถ่าย ในข้อเสียจากการเวียนหัวนิดหน่อย ก็จะมีข้อดีตรงที่มันดูสมจริงมาก แบบถ่ายดิบๆ ไม่มีเอฟเฟกซ์ ไม่มีอะไรมาแต่งเติมเจือปน ความสยองในป่าถือว่าทำออกมาได้น่ากลัวมาก การไปตั้งแคมป์ในป่าแล้วค่อยๆ ถูกรบกวน โดยเริ่มมีเสียงต่างๆยามดึก สัญลักษณ์ต่างๆ ที่อยู่ๆก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ และกลางวันที่หายไป เพื่อนที่หายไป ความสยองทุกอย่างค่อยๆ เพิ่มดีกรีของมันมากขึ้นๆ ดูแล้วก็คิดตามว่า ทำไมป่านี้มันเฮี้ยนจัง ถ้าต้องไปเจอเหตุการณ์แบบนั้นจริงๆ บ้างคงจะต้องกลัวจนเสียสติแน่

ถือว่าเป็นหนังสยองขวัญที่แปลกใหม่ และทำออกมาน่าสนใจไม่น้อย และมันไม่ได้มีให้ดูกันบ่อยๆ ถ้าใครไม่เคยได้สัมผัสหนังแนวนี้มาก่อน [ หนังเป็นภาคต่อของหนังเรื่อง สอดรู้ สอดเห็น สอดเป็น สอดตาย 1999 ] บอกได้เลยว่าคุณจะต้องรู้สึกกลัวหนังเรื่องนี้แน่ๆ ปรื๋อๆๆๆๆๆๆ

ภาพยนตร์แนว : สยองขวัญ
ผู้กำกับ : อดัม วิงการ์ด
นักแสดงนำ : คอร์บิน รี้ด แอชลี่ย์ ,เวส โรบินสัน เลน,วาโลรี่ เคอร์รี่ ตาเลีย,แคลลี่ เฮอร์นานเดซ ลิซ่า,เจมส์ อัลเลน แม็คคูน เจมส์

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว สยองขวัญ

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง Hidden Blade โค่นคมพยัคฆ์

เมื่อประเทศอยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการ คนธรรมดากลุ่มหนึ่ง ได้เสี่ยงชีวิตตั้งขบวนการใต้ดิน เพื่อปกป้องแผ่นดินเกิดของตัวเอง ปี 1937 – 1945 ที่ทหารญี่ปุ่นบุกโจมตีท่าเรือ เพิร์ลฮาร์เบอร์ และประกาศสงครามกับประเทศยักษ์ใหญ่อย่าง อังกฤษ สหรัฐฯ อีกทั้งยังเข้ายึด เซี่ยงไฮ้ ของจีน จากเหตุสงครามที่เกิดขึ้นส่งผลให้สถานการณ์สงครามในจีน ทวีความรุนแรงมากขึ้น สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่เป็นสายลับใต้ดิน จึงต้องเสี่ยงอันตราย ที่อาจถึงแก่ชีวิตเพื่อส่งข้อมูลลับ ออกไปขัดขวางการเจรจาระหว่าง ญี่ปุ่น กับ เจียงไคเช็ค ให้ได้เพื่อปกป้องมาตุภูมิของพวกเขา

เป็นหนังที่ทำให้เราไม่อาจละสายตาได้เลย การดำเนินเรื่องราวนั้น มีการสลับช่วงเวลาไปมา พาให้เราได้สงสัยกันอยู่ตลอดเวลา มีการซ่อนเงื่อนอยู่ในทุกการกระทำ ฝังลึกเข้าไปในบทบาทของ 2 ตัวละครหลัก เหลียงเฉาเหว่ย และ หวังอี้ป๋อ พร้อมด้วยนักแสดงฝีมืออีกคับคั่ง เราได้จมดิ่งสู่ช่วงเวลาแห่งสงคราม และแผนการอันแยบยล ครั้งนี้ถือว่าเปิดประสบการณ์กับหนังสงครามจากจีน ที่ถูกทหารญี่ปุ่นสังหารด้วยการโบกปูนหมู่

เหลียงเฉาเหว่ย และ หวังอี้ป๋อ โชว์ทั้งความหล่อ เท่ บ้าดีเดือด ให้เราได้เลือดพุ่งพล่าน เพราะงานดีมาก ทั้งการต่อสู้บู๊แหลก แบกความเร่าร้อนไว้ในช่วงเวลานี้ นอกจากฉากแอ็คชั่นเสริมอารมณ์ และลุ้นระทึกแล้วนั้น ยังมีฉากหดหู่ใจให้เราได้เข้าถึงอารมณ์ การเอาชีวิตรอดในช่วงสงคราม และจากอำนาจเผด็จการอีกด้วย การแสดงผ่านสีหน้า แววตา ท่าทาง มันทำให้เรารู้สึกร่วมเข้าไปในหนัง การใช้แววตาเชือดเฉือนอารมณ์ จนเราจมดิ่งไปในความรู้สึกของตัวละคร อีกทั้งการถ่ายทอดคาแรคเตอร์ในฉากต่างๆ เป็นที่น่าจดจำได้ฝังใจ

และเป็นหนังที่ งานภาพที่สวยงาม ทั้งมุมกล้อง ทั้งแสง โทนสีของภาพ ทำออกมาได้ดีมาก โปรดักชั่นแบบจัดเต็ม มันจึงทำให้ภาพรวมออกมาดีมาก ฉากทุกฉากดูสมจริงเหมือนอยู่ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 จริงๆ แสดงให้เห็นเลยว่าหนังจีนเขาไปไกลแล้วจริงๆ [ หันมามองทางบ้านเรา มี ผี ตลก นักเรียน ตบตีแย่งผู้ชาย ]
ทั้งฉากสังหารหมู่ที่การฝังราดปูนซีเม็นใส่แบบเป็นๆ ไปจนถึงฉากแอ็คชั่นที่ทำออกมาได้น่าจดจำ นักแสดงนำในเรื่องแสดงได้ดีเอาอยู่จริงๆ เหลียงเฉาเหว่ย ยังคงทำได้ดีตามมาตรฐานส่วน หวังอี้ป๋อ ก็ทำได้ดีตามมาตรฐานเช่นกัน

ความยาว : 2 ชั่วโมง 8 นาที
ประเภท : ดราม่า, ระทึกขวัญ
ผู้กำกับโดย : เฉิงเอ๋อร์
นำแสดงโดย : เหลียงฉาเหว่ย, หวังอี้ป๋อ, โจวซวิ๋น, หวงเหล่ย

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง Unlocked แค่ทำโทรศัพท์มือถือหาย ทำไมต้องกลายเป็นศพ

รีวิวหนัง Unlocked แค่ทำโทรศัพท์มือถือหาย ทำไมต้องกลายเป็นศพ แนวเกาหลีระทึกขวัญ ฆาตกรผ่านโทรศัพท์มือถือ สุดโหด โรคจิต มื่อฆาตกรสุดโฉด มองเห็นทุกอย่างในโทรศัพของเรา ถือว่าดูแล้วจนไม่กล้าจับโทรศัพท์อีกเลย ปรื้อๆๆ [ สปอยนิดๆ ]

รีวิวหนัง Unlocked แค่ทำโทรศัพท์มือถือหาย ทำไมต้องกลายเป็นศพ อีนามี เป็นพนักงานการตลาดของบริษัทสตาร์ตอัปแห่งหนึ่ง เธอมักแวะเวียนไปช่วยงานที่ร้าน ขายเครื่องดื่มของพ่อบ้างยามที่ว่าง ชีวิตก็ไม่ต่างจากคนทั่วไปที่ขยันตั้งใจทำงาน สนุกสังสรรค์กับเพื่อนฝูงหลังงาน เอ็นจอยบนโลกโซเชียล เป็นคนติดมือถือเหมือนที่เราเห็น [ เป็นที่เราเห็น ทุกวันนี้ แอดเองก็เหมือนกัน ] แล้วคืนหนึ่งเธอก็ทำโทรศัพท์หาย บนรถเมล์ระหว่างเมากลับบ้าน มารู้ตัวอีกทีพร้อมการสร่างเมาในวันรุ่งขึ้น

ต่อมาก็พบว่ามีคนที่เก็บโทรศัพท์ได้นั้นเป็นเสียงผู้หญิง คนในสายแจ้งเธอให้ไปรับได้ที่ร้านซ่อม เพราะเกิดพลาดทำเครื่องตก หน้าจอเลยแตก โดยได้จัดการค่าใช้จ่ายให้เสร็จสรรพแล้ว ที่ร้านซ่อมโทรศัพท์ เธอต้องให้รหัสปลดล็อคเครื่องกับช่างเพื่อทำงาน ใช้เวลารอไม่นาน เธอก็ได้รับโทรศัพท์ของเธอกลับคืนไป แต่นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปิดประตูให้มิจฉาชีพ เข้าสู่เซิร์ฟเวอร์ข้อมูลชีวิตของเธอ และกลายเป็นสตอล์คเกอร์ตามส่องเธอทุกฝีก้าวผ่านกล้องหน้าของเครื่องตั้งแต่นั้นมา

ตัวหนังเปิดมาได้ดีมาก ค่อยๆเล่า และนำพาผู้ชมเข้าสู่ความวุ่นวาย ในชีวิตของผู้คนกับการใช้โทรศัพท์ในแต่ละวัน ได้อย่างน่าสนใจ และถ่ายทอดออกมาได้สมูทมาก เล่าได้สนุก แถมมุมกล้องก็มีความน่าตื่นเต้นเร้าอารมณ์ รวมกับเพลงประกอบที่ใส่มาได้ลงตัว และช่วยปรับอารมรณ์ก่อนเข้าสู่เรื่องราวหลักได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ตัวหนังเองก็มีแก่นหลักที่แข็งแรง และร่วมสมัยมาก อย่างในเรื่องของการใช้สมาร์ทโฟน มันไม่ใช่แค่ใช้เพียงติดต่อสื่อสารแต่เพียงเท่านั้น แต่สมาทร์ทโฟนได้กลายเป็นส่วนสำคัญ ของชีวิตคนในยุคปัจจุบัน [ ยุคนี้ทำอะไร กินข้าว เข้าห้องน้ำ หรือทำอะไร ก็ต้องเล่นมือถือไปด้วย ]

เป็นหนังระทึกขวัญ ที่สะท้อนมุมมองปัญหาของอาชญากรรม ไซเบอร์ในสังคมปัจจุบัน การเล่าเรื่องค่อนข้างไหลลื่น และสามารถบีบคั้นอารมณ์ผู้ชมได้ดี งานกราฟฟิคเล่าไลฟ์สไตล์ของชีวิตบนโทรศัพท์ และเทคนิคการใช้ภาพสมจริงบนจอโทรศัพท์ แทนสายตาสตอล์คเกอร์ก็ทำได้น่าสนใจ แปลกตาไปจากแบบเดิมๆที่เคยเห็นมา ยิ่งเมื่อบอกว่านี่เป็นงานเดบิวท์ของผู้กำกับก็ถือว่าทำออกมาได้ดีจริงๆ คอหนังเกาหลีห้ามพลากเด็ดขาด ดูจบแล้วคุณอาจไม่กล้าเล่นโทรศัพท์อีกเลย

ประเภท : ระทึกขวัญ, อาชญากรรม
กำกับโดย : คิมแทจุน
นำแสดงโดย : อิมชีวาน, ชอนอูฮี, คิมฮีวอน
ช่องทางการรับชม : NETFLIX

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว NETFLIX

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง The Hypnosis สั่งจิตสยอง หนังเขย่าขวัญ ที่คนดู จะต้องขนหัวลุก

รีวิวหนัง The Hypnosis สั่งจิตสยอง หนังเขย่าขวัญ สั่นประสาท จากเกาหลีใต้ ที่สร้างความหวาดผวามาแล้วทั่วประเทศ ที่หยิบเอาเรื่องราวน่าขนลุก เหนือธรรมชาติมาเล่าผสมผสาน กับแนวคิดวิทยาศาสตร์ล้ำสมัย จนถูกขนานนามให้เป็น หนึ่งในผลงานที่น่าขนหัวลุกที่สุด [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวหนัง The Hypnosis สั่งจิตสยอง เรื่องราวของ โดฮยอน นักศึกษามหาวิทยาลัย ที่สูญเสียความทรงจำวัยเด็กไปหลังจากจากเกิดอุบัติเหตุ วันหนึ่งเขาได้รู้จักกับ จินโฮ ซึ่งเสียพ่อแม่ไปจากอุบัติเหตุ และต้องเข้ารับการบำบัดด้วยการสะกดจิต ด้วยความที่ทั้งคู่มีอะไรคล้ายกัน จึงทำให้กลายเป็นเพื่อนสนิทกันอย่างรวดเร็ว โดฮยอน รู้ว่า จินโฮ ได้รับการรักษาด้วยวิธีการสะกดจิตจึงสนใจลองบ้าง แต่ทว่าหลังจากถูกสะกดจิตครั้งแรก เขาเริ่มเห็นภาพหลอนไม่มีที่มา ที่น่ากลัวคือภาพที่เห็นเป็นภาพเดียวกัน ที่เป็นความทรงจำที่ขาดหายไปของพวกเขา เหมือนกับว่าการสะกดจิตครั้งนั้น เป็นการเปิดลิ้นชักที่ปิดกั้นความทรงใจ แต่มันอาจไม่ใช่ความทรงจำของเขาแต่เป็นความทรงจำของคนตาย

หนังเขย่าขวัญสะท้านจิตจากเกาหลีใต้ ที่มีมาพร้อมกับปมปริศนาซ่อนเงื่อน เรื่องราวของหญิงสาวที่จิตใจแตกสลายจากปัญหาครอบครัว และหันไปพึ่งการบำบัดด้วยการสะกดจิตให้ผ่อนคลาย แต่กลับกลายเป็นหายนะมาสู่ตัวเธอเอง และคนรอบข้าง บนพื้นฐานการวังวนแห่งการสะกดจิต และดำดิ่งไปสู่ห้วงลึกของความลับที่ดำหม่น หนังแนวจิตวิทยาสยองขวัญ ที่ต้องมีกึ๋นเท่านั้นถึงจะทำออกมาแล้วรอด แต่ในเรื่องนี้ถือว่าบิวท์อารมณ์ และโทนหนังได้หลอนจัดจ้าน

สั่งจิตหลอน เป็นหนังที่มีความพยายามสร้างบรรยากาศ และโทนหนังให้ออกมาชวนหลอนสะพรึง ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะยังสามารถหลอนได้มากกว่านี้อีก แต่เมื่อมีประเด็นเกี่ยวกับจิตวิทยา เข้ามาเป็นโครงเรื่องหลักของเรื่องแล้ว แน่นอนว่าผู้ชมจะต้องใช้สติในการรับชมอย่างสูง เพราะต้องมาแยกแยะว่า ตรงไหนเป็นเรื่องจริง ตรงไหนเป็นจินตนาการ หนังเรื่องนี้มีเสน่ห์มากๆ บทหนังทำออกมาได้ดี หนังสร้างความสดใหม่ และดึงดูดความสนใจได้ดี

ประเภท : สยองขวัญ, ระทึกขวัญ, ดราม่า
กำกับโดย : ชเวแจฮุน
นำแสดงโดย : อีเดวิด, โจฮยอน, คิมโดฮุน

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว หนัง สยองขวัญ

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวซีรีส์ Big Mouth ซีรี่ส์อาชญากรรม สุดมัน ลุ้นระทึก จากเกาหลี

รีวิวซีรีส์ Big Mouth ซีรี่ส์อาชญากรรม สุดมัน ลุ้นระทึก จากเกาหลี ทนายดวงซวย ที่ชะตาพลิกผัน กลายมาเป็นนักต้มตุ๋น อัจริยะในชั่วข้ามคืน แต่โทษทัณฑ์ ที่โดนยัดเยียด มีหรือที่ใครจะยอมรับ ชะตาไม่ใช่เรื่องที่ควรกระทำ หนทางเดียว ที่เหลืออยู่ คือต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อเอาชีวิตรอด และเปิดโปงความจริงให้ได้ [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวซีรีส์ Big Mouth ซีรี่ส์อาชญากรรม สุดมัน ลุ้นระทึก จากเกาหลี

พัคชองโฮ ทนายความที่เก่งแต่ปาก แต่อัตราการชนะมีเพียงน้อยนิด จนคนต่างตั้งฉายาให้เขามา BIG MOUTH วันหนึ่งเขาได้รับ ให้ว่าความกับคดีใหญ่คดีหนึ่ง แต่เขานั้นไปลูกความลับของลูกความเข้า เขาจึงพยายามเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง กับสาธารณชนแต่เขากับประสบอุบัติเหตุเสียก่อน ระหว่างที่เขาฟื้นขึ้นมา เข้าก็ถูกตำรวจจับตัวข้อหาเสพสารเสพติด และเมื่อตำรวจเข้าไปตรวจค้น ที่สำนักความทนายความของเขา ก็ไปพบว่าที่สำนักทนายความซุกซนทรัพย์สินไว้มากมาย เมื่อตำรวจสืบต่อไปก็พบว่า ทรัพย์สินพวกนั้นเป็นของ อาชญากรข้ามชาติที่ถูกขนานนามว่า BIG MOUTH และตำรวจก็เลยเชื่อว่าอาชญากรนามว่า BIG MOUTH ที่จริงก็คือ พัคชองโฮ ทนายความที่เก่งแต่ปากคนนี้นี่เอง [ คนอะไรจะดวงซวยขนาดนี้ ]

ด้านเทคนิคการสร้าง งานภาพ และโปรดักชั่นต่างๆ ส่วนนี้ก็ถือว่าจัดหนักจัดเต็ม ทำได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว โทนสีภาพที่ใช้ก็ช่วยสร้างบรรยากาศให้ซีรีส์ดูมืดหม่น และจริงจังมากขึ้น เพราะเรื่องนี้จะย้อมด้วยสีโทนเย็นแทบตลอดทั้งเรื่อง มันทำให้ดูจริงจังมากขึ้น แถมตอนท้ายที่ทำภาพเป็นขาวดำ ก็เหมือนกับการสื่อว่าพระเอกได้เปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งหากใครจำตอนต้นได้ว่าภาพก็ขาวดำเหมือนกัน นั่นก็อาจจะสื่อว่าเสียงพระเอกที่เล่าตอนต้นเรื่องนั้น คือพระเอกที่กลายเป็น BIG MOUSE ไปแล้ว

ส่วนในด้านเสื้อผ้าหน้าผม โลเคชั่นในการถ่ายทำ ทุกอย่างทำออกมาได้ดีเยี่ยมหมด ต้องยอมรับเลยว่าทุกวันนี้เกาหลีเขาเก่งจริงๆ ผลงานภาพยนตร์ และซีรีส์ของเขานี่จริงจังและไปไกลมากๆ [ หันมาที่ไทย วนหลูปอยู่กับ ตลก รัก นักเรียน ผี ]
สรุปโดยรวมก็คือเป็นซีรีส์ที่สนุกเรื่องหนึ่ง โดยส่วนตัวแอดชอบมาก เพราะมีหารหักมุมไปมา เกมพลิงตลอด ถือว่าดูได้สนุกเพลินๆ ซึ่งหากใครที่ชอบซีรีส์แนวสืบหาความจริง แอดแนะนำเลยว่าน่าจะชอบซีรีส์เรื่องนี้ได้ไม่ยาก

ซีรี่ส์แนว : ระทึกขวัญ , ลึกลับ , ดราม่า
กำกับโดย : โอชุงฮวัน
นักแสดงนำ : อีจงซอก , อิมยุนอา , คิมจูฮอน

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ซีรี่ส์ เกาหลี

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวซีรีส์ REMEMBER 15 ซี่รี่ส์ สยองขวัญ ไล่เชือด สัญชาติไทย

รีวิวซีรีส์ REMEMBER 15 ซี่รี่ส์ สยองขวัญ ไล่เชือด สัญชาติไทย จู่ๆทุกคนก็ได้รับข้อความปริศนาจาก ไลลา หญิงสาวที่ตายไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ลิลลี่ น้องสาวของ ไลลา ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนส่งข้อความนี้ แต่เธอก็ปฏิเสธ ทุกคนจึงจำใจกลับไปยังเกาะ ที่ทุกคนเคยไปด้วยกัน [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวซีรีส์ REMEMBER 15 ซี่รี่ส์ สยองขวัญ ไล่เชือด สัญชาติไทย

เรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่น 12 คน ที่ไปรำลึกความหลังครบรอบ 5 ปี การเสียชีวิตของเพื่อนผู้หญิงที่ชื่อ ไลลา เธอเสียชีวิตจากการจมน้ำ เมื่อตอนมาแคมปิ้งบนเกาะร้างแห่งหนึ่งกับเพื่อนๆ ของเธอตอนอายุ 15 ปี ซึ่งการมารำลึกความหลังครั้งนี้ กลับทำให้ทุกคนต้องมาติดเกาะอยู่ด้วยกัน พร้อมกับเรื่องราวการตายอย่างปริศนา ของหนึ่งในสมาชิก ทำให้ความสัมพันธ์อันซับซ้อน ของพวกเขาทุกคนที่มีส่วนเชื่อมโยง และเกี่ยวข้องกับการตายของ ไลลา และเกี่ยวข้องกับการตายที่จะเกิดขึ้นของแต่ละคนบนเกาะแห่งนี้ ซึ่งทุกคนต้องช่วยกันเพื่อหยุดยั้งการฆาตกรรมต่อเนื่องนี้ ก่อนที่จะไม่เหลือใครมีชีวิตรอดอีก

เรื่องราวการมาติดเกาะแล้วต้องฆ่ากันเอง กับมีฆาตกรที่เป็นใครไม่รู้มาไล่ฆ่า เอาจริงๆก็ไม่ได้ใหม่มาก เป็นการวางไอเดียหนังแนวนี้ได้ดี การนำแนวไล่เชือดมาเป็นจุดขาย การไล่ล่า ฉากระทึก ฉากฆ่าโหด ซึ่งก็ต้องมีการครีเอทฉากฆาตกรรม ให้ได้อารมณ์แบบนั้นโดยไม่ลืม เรื่องความเป็นไปได้จริงประกอบด้วย ซึ่งตรงนี้ที่เป็นจุดขายของเรื่อง ส่วนที่ต้องชมจริงๆ ก็คือการดำเนินเรื่องรวมได้น่าติดตาม มีการกระตุ้นความอยากรู้ของผู้ชมว่า เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ บทสามารถต่อจิ๊กซอว์ทั้งหมด รวมกับฉากฆ่าได้อย่างดี นี่คือซีรี่ส์ที่ดีเรื่องหนึ่งเลยละ [ แอดชอบมากๆ ]

ใครที่กำลังมองหาซีรี่ส์ไทยแนวใหม่ๆ พล็อตน่าสนใจ มีความเป็นสากลเหมือนซีรีส์ต่างประเทศ REMEMBER 15 คืออีกหนึ่งผลงาน ทีดีไม่แพ้ต่างประเทศแน่นอน และจะเป็นซี่รี่ส์ที่จะกระตุ้นความเป็นนักสืบ ในตัวให้ร่วมค้นหาคำตอบ และตั้งข้อสงสัยว่าใครคือ ฆาตกรตัวจริง บนเกาะนี้ ได้อย่างแน่นอน ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว

จำนวนตอน : 12 ตอน
ประเภท : ดราม่า, สยองขวัญ, ระทึกขวัญ
กำกับโดย : เอกภพ ไป๋อารีย์
นำแสดงโดย : เวณิตา ลอยวัฒนกุล ,ประภากร ไชยรักษ์ ,พฤกษ์ พานิช ,สิทธิโชค เผือกพูลผล ,กานต์ กฤษณะพันธ์

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ซีรี่ส์ สยองขวัญ

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวซีรี่ส์ REVENGE OF OTHERS

รีวิวซีรี่ส์ REVENGE OF OTHERS แนวล้างแค้นเอาคืน ของนักเรียนมัธยมปลาย ผลงานของ พัคโซโลมอน จากซีรีส์มัธยมซอมบี้ All of Us Are Dead ประกบคู่ ชินเยอึน เนื้อเรื่องแนวสืบสวนสอบสวนซ่อนดราม่า เข้มข้นสนุกน่าติดตาม สาวกซีรีส์เกาหลีไม่ควรพลาด [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวซีรี่ส์ REVENGE OF OTHERS เรื่องราวของ อ๊กชานมี เด็กสาวมัธยมปลายที่เป็นนักกีฬายิงปืนอยู่ที่ปูซาน เธอมีพี่ชายฝาแฝดอยู่หนึ่งคน ทั้งคู่เป็นเด็กกำพร้ามาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งตอนอายุ 8 ขวบ พี่ชายของเธอได้ถูกครอบครัวหนึ่งรับเลี้ยงและได้ย้ายไปอยู่ที่โซล อ๊กชานมี ติดต่อพี่ชายเธออยู่เสมอทว่าจู่ๆ ในระหว่างที่ทั้ง 2 วิดีโอคอลหากันจู่ๆ พี่ชายเธอก็วางสายไปแบบไม่บอกไม่กล่าว หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน เธอถึงได้รู้ข่าวว่าพี่ชายเธอเสียชีวิตแล้ว

เธอจึงเดินทางมายังโซล แต่ปรากฎว่าตำรวจสรุปคดีว่าพี่ชายเธอฆ่าตัวตาย งานนี้เธอจึงตัดสินใจย้ายไปเรียนโรงเรียนของพี่ชายที่โซล เพื่อสืบหาว่าใครเป็นคนฆ่าพี่ชายของเธอซึ่งเธอได้รู้จักกับ จีซูฮอน เด็กหนุ่มที่จะมาช่วยเธอในการสืบคดีครั้งนี้ พร้อมกับไล่แก้แค้นสั่งสอน พวกนักเรียนที่ชอบรังแกคนอื่น สุดท้ายแล้วเรื่องราวทั้งหมด จะลงเอยอย่างไร ต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง [ แอดบอกเลยว่า สนุกมาก ลุ้นทุกตอน ]

นักแสดงนำคือดีมาก ส่วนปมของตัวละครบทรองอื่นๆ ก็มีหลายปม คือทุกตัวละครดูแล้วเหมือนเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือเป็นหนึ่งในต้นเหตุของคดีฆาตกรรมปริศนา ซึ่งบทละครก็เขียนมาให้ดูสนุก และน่าติดตามมาก ในขณะที่เส้นเรื่องความรักก็ค่อยๆ สร้างเหตุการณ์ให้พระเอกนางเอกเข้ามาใกล้ชิด เกี่ยวข้องกันอยู่ตลอดเวลา ใครที่ชื่นชอบซีรีส์แนวนี้ ห้ามพลาดเด็ดขาด [ แอดนี้ชอบมากๆ ] ซีรีส์มี 12 ตอนจบเท่านั้น อย่าพลาดเด็ดขาด

ซีรี่ส์แนว : ลึกลับสอบสวน,อาชญากรรม,ระทึกขวัญ
นักแสดง : พัคโซโลมอน,ชินเยอึน
ผู้กำกับ : คิมยูจิน

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ซีรี่ส์ เกาหลี

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง ATHENA อเธน่า

รีวิวหนัง ATHENA อเธน่า หนังฝรั่งเศส แนวดราม่าปัญหาสังคม เมื่อมีคลิปเด็กชายวัย 13 ปี ถูกตำรวจ 3 คนรุมทำร้ายจนตาย ตำรวจยังหาตัวคนผิดมาลงโทษไม่ได้ จึงกลายเป็นความโกรธแค้นในชุมชน อเธน่า ระเบิดขึ้น กลายเป็นการลุกฮือทั้งประเทศ [ ไม่สปอย ]

รีวิวหนัง ATHENA อเธน่า เรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์เหตุจลาจล ที่ลุกลามบานปลายขึ้นในพื้นที่เมืองของฝรั่งเศส โดยมีจุดเริ่มต้น จากที่มีคลิปหลุดแชร์ออกไปในโซเชียล พบเห็นเด็กหนุ่มถูกกลุ่มชายในชุดเครื่องแบบ เจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายและปล่อยเสียชีวิต เป็นชนวนเหตุทำให้ผู้คนในชุมนุม อเธน่า ลุกฮือขึ้นมาเรียกร้องความเป็นธรรม โดยมีพี่ชายทั้ง 2 คนของเด็กคนนั้น เป็นผู้ขับเคลื่อนทิศทางในเหตุการณ์โกลาหลครั้งนี้ และต้องการให้ตำรวจจับกุมคนที่ทำผิดมาลงโทษ เขาจึงรวมพลวัยรุ่นหัวรุนแรงในชุมชน และก่อจารจลขึ้นจนกลายเป็น สงครามกลางเมืองที่แสนวุ่นวาย สุดท้ายแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร ต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง

หนังนำเสนอเรื่องราวแทบทั้งเรื่อง ผ่านเทคนิคการถ่ายทำแบบ LONG TAKE หรือก็คือให้กล้องวิ่งตามตัวละครไปตลอดทั้งเรื่อง ทำให้เราได้เหมือนกับเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆ ทั้งกดดัน วุ่นวาย และลุ้นระทึก โดยเฉพาะฉากเปิดเรื่องที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมากจริงๆ ทำให้อยากดูต่อมากๆ ยังหยิบใส่ประเด็นเรื่องความแตกต่าง ด้านเชื้อชาติและศาสนาที่สะท้อนถึงกลุ่ม ผู้อพยพที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นในประเทศ ท่ามกลางการสู้รบปรบมือกับ กลุ่มที่ไม่เห็นชอบและเหยียดเชื้อชาติภายในประเทศ เป็นหนังจลาจลสุดเข้มข้น ที่โดดเด่นด้วยลีลาการเล่าเรื่อง สร้างความตื่นตาให้กับผู้ชมตลอดเวลา

ด้านองค์ประกอบ และโปรดักชั่นดีไซน์ถือว่าทำออกมาได้ดี หนังเต็มไปด้วยฉากปะทะของเหตุจลาจล และต้องวางบล็อกกิ้งต่างๆ ออกมาได้เป๊ะตามสูตรสำเร็จของการถ่ายทำแบบวันช็อต แต่ละฉากทำออกมาได้ค่อยข้างสมบูรณ์ ทั้งภาพและแสงสีต่างๆ จัดได้ว่าจัดวางออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ถือว่าเป็นหนังจลาจลจากฝรั่งเศส ที่ทำออกมาได้ดีทีเดียว การใช้วันเทคเป็นการถ่ายทอดนั้นไม่ยืดยานเกินไป ความเข้มข้นของเนื้อหาค่อนข้างหนักแน่น และชัดเจนดี ดูได้แล้วบน NETFLIX

ประเภท : แอ็คชั่น, ดราม่า, ระทึกขวัญ
ผู้กำกับ : โรแมง แกฟราส
นักแสดงนำ : ดาลี เบนซ์ซาลาห์, อันโธนี บาฮอน, ซามี ซลีมาน

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix  

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว The One Hundred ๑๐๐ ร้อยขา

รีวิว The One Hundred ๑๐๐ ร้อยขา หนังสัตว์ประหลาดสัตว์สยองเรื่องล่าสุดของค่ายเนรมิตรหนัง ฟิล์ม ค่ายหนังที่กล้าลุกขึ้นมาสร้างตำนาน บทใหม่ให้วงการภาพยนตร์ไทย กล้าคิด กล้าทำ กล้าสร้างหนัง ฉีกกรอบเดิมๆ หลังจากที่เราได้ดู Leio ไลโอโคตรแย้ยักษ์ และ The World of Killing People คืนหมีฆ่า ไปกันแล้ว จากแย้ มาหมี และปิดท้ายปีนี้ด้วย ตะขาบ

รีวิว The One Hundred ๑๐๐ ร้อยขา

ไม่เพียงทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนแปลงไป แต่หายนะครั้งใหม่กำลังคืบคลานโดยที่ไม่มีใครรู้ตัว เมื่อกลุ่มนักเดินทางจากต่างประเทศต้องถูกกักตัวอยู่ในสถานที่ซึ่งภาครัฐได้จัดหาให้ นำพายูทูบเบอร์สองพี่น้อง ฟิล และน้องสาว เฟม ต้องมาพักที่เดียวกันกับครอบครัวของ ลีโอ หนุ่มหัวร้อน กับน้องสาวจอมซน ลีน่า และพ่อที่เป็นใบ้ทั้ง 5 ต้องโดนแยกห้องพักกักตัวอยู่ในโรงแรมศรีจันทร์เพ็ญเป็นเวลา 14 วัน แต่ไม่ทันพ้นข้ามคืน

เหตุการณ์ผิดปกติก็เกิดขึ้นอย่างเป็นปริศนา ร้อนถึงผู้จัดการวิทย์ และพนักงานโรงแรมต้องพยายามปิดบังข่าว ความผิดปกติครั้งนี้ แต่ยิ่งปิดบังอำพราง กลับยิ่งพบความสยองแบบไม่คาดคิด เมื่อสัตว์ร้อยขาเยื้องย่างเขามาค่อยๆ ยึดร่างผู้คนในโรงแรม จนสัตว์ร้ายแพร่ขยายเผ่าพันธุ์มรณะ จำนวนมหาศาล พวกเขาจะต้านทานพวกมันได้อย่างไร ในสถานที่ปิดตายแห่งนี้ [ ต้องไปลุ้นกันเอา ]

กำกับโดย ภาคภูมิ วงษ์จินดา และ ชาลิต ไกรเลิศมงคลสองผู้กำกับฝีมือเยี่ยม ที่มีจากความชื่นชอบ และสนใจในเรื่องของสัตว์ประหลาดอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องสัตว์ในตำนานของไทย ผสมผสานความเชื่อเหนือธรรมชาติ ทั้งคู่เลยมีไอเดียที่จะสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมา สร้างให้มันเป็นมอนสเตอร์สายพันธุ์ไทยที่แตกต่าง ดุร้าย น่ากลัวไม่แพ้มอนสเตอร์ของต่างชาติเลยทีเดียว CG ถือว่าทำออกมาได้ดี เลยละเรื่องนี้ ขอตรบมือให้ความกล้า กล้าคิด กล้าทำ กล้าสร้าง กล้าฉีกแนวเดิมๆ

ภาพยนต์แนว : สยองขวัญ , ระทึกขวัญ
กำกับโด: ภาคภูมิ วงษ์จินดา และ ชาลิต ไกรเลิศมงคล
นำแสดงโดย :ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล, นิ้ง ชัญญา แมคคลอรี่ย์, เบน เบนจามิน โจเซฟ วานี, เดวิด อัศวนนท์, เบสท์ ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์, อันดา กุลฑิรา ยอดช่าง, กวาง วรรณปิยะ ออมสินนพกุล

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว หนัง สยองขวัญ

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms