หมวดหมู่: หนัง ผจนภัย แอ็คชั่น

รีวิว NEW KUNG FU CULT MASTER ดาบมังกรหยก 2022 เทิดทูนทั่วหล้า ดาบฆ่ามังกร ประกาศิตทุกชีวิต มิกล้าฝ่าฝืน อิงฟ้าไม่มา ใครหาญกล้าต่อกร มังกรหยก นิยายจากปลายปากกาของปรมาจารย์ “กิมย้ง” ที่พูดได้ว่าไม่มีแฟนหนังกำลังภายในคนไหนไม่รู้จัก เพราะบทประพันธ์นี้ ถูกนำมาสร้างเป็นละคร และ ภาพยนตร์ ให้ชมกันหลายเวอร์ชั่น และนี้คือเวอร์ชั่นล่าสุดที่ทำออกมาเป็น 2 ภาค

รีวิว NEW KUNG FU CULT MASTER ดาบมังกรหยก 2022 เตียบ่อกี้ บุตรชายของ เตียชุ่ยซัว จอมยุทธ์ 5 แห่งบู๊ตึ๊ง และ ฮึงซู่ซู่ ลูกสาวประมุขพรรคอินทรี ถูกเลี้ยงดู และเ ติบโตบนเกาะน้ำแข็งอัคคีโดยมี เจี่ยซุ่น ผู้ครองดาบฆ่ามังกรเป็นพี่น้องร่วมสาบานของ เตียชุ่ยซัว และ เป็นพ่อบุญธรรมของ เตียบ่อกี้ ด้วย เมื่อตอนที่อายุครบ 15 ปี เตียชุ่ยซัว ได้พา เตียบ่อกี้ และ ฮึงซู่ซู่ เดินทางกลับมายังบู๊ตึ๊งเพื่อร่วมงานฉลองครบรอบ 100 ปีของ เตียซำฮง ผู้เป็นอาจารย์เจ้าสำนักบู้ตึ้ง แต่กลับถูกชาวยุทธ์บีบบังคับให้บอกที่อยู่ของ เจี่ยซุ่น ทำให้ เตียบ่อกี้ ต้องสูญเสียทั้งบิดา และ มารดาไป จนทำให้เขาต้องหนีกลับไปเกาะน้ำแข็งอัคคี

17 ปีต่อมา เตียบ่อกี้ ได้บรรลุเคล็ดวิชาเก้าเอี๊ยง ได้เดินทางกลับตงง้วนเพื่อทวงหนี้แค้นให้บิดามารดา ท่ามกลางศึกแห่งการต่อสู้ในยุทธภพ เตียบ่อกี้ ก็ได้พบกับ เตี๋ยเมี่ยง ธิดาแห่งอ๋องมองโกล จิวจี้เยี้ยก ลูกศิษย์สำนักง้อไบ๊ และ เสี่ยวเจียว สาวใช้แห่งพรรคเม้งก่า เตียบ่อกี้ และพรรคเม้งก่า

ต้องหาทางช่วยยอดฝีมือจากหกสำนักใหญ่ที่ถูกกักขังไว้บนเจดีย์วัด บ้วนอัน แต่ มิกจ้อ เจ้าสำนักง้อไบ๊ได้ตายลงในศึกครั้งนี้ โดยมีคำสั่งเสียให้ จิวจี้เยี้ยก รับตำแหน่งเจ้าสำนักง้อไบ๊ต่อ พร้อมกับบอกความลับของกระบี่อิงฟ้าดาบฆ่ามังกร เตี๋ยเมี่ยง ก็อยากรู้ความลับเช่นกันจึงขอให้ เตียบ่อกี้ พาไปหาราชสีห์ขนทอง เจี่ยซุ่น

เตียบ่อกี้ เตี๋ยเมี่ยง จิวจี้เยี้ยก และ เสี่ยวเจียว จึงออกเดินทางไปยังเกาะน้ำแข็งอัคคี เพื่อค้นหาความลับของสองยอดศาสตรา ที่เหล่าจอมยุทธ์ทั่วหล้าหมายครอบครอง ในขณะเดียวกัน เซ่งคุน ก็รอคอยโอกาสที่จะกำจัดทุกคนที่ขวางทาง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องไปติดตามกันได้ เดี่ยวจะหาว่าสปอย

ต้องบอกเลยว่านี่คือดาบมังกรหยกที่ รีเมคมาจากฉบับปี 1993 ที่ หลี่เหลียนเจี๋ย แสดงไว้ ซึ่งเวอร์ชั่นนั้นกำกับโดย หวังจิ้ง และ มีการวางแปลนไว้ว่าจะทำภาค 2 ต่อออกมา [ แอดนี้รอภาค 2 จนแก่ 55555 ] แต่เนื่องจากรายได้ฉบับนั้นไม่มากเท่าที่ควร โครงการทำภาคต่อเลยเป็นอันพับไป แล้วเวลาก็ผ่านไปเกือบ 30 ปี โครงการนี้ถูกปัดฝุ่นขึ้นใหม่อีกครั้งโดยได้ หวังจิ้ง คนเดิมกลับมากำกับ ร่วมกับ KWOK-MAN KEUNG ที่ตอนแรกว่าจะทำภาคต่อจากฉบับนั้นเลย แต่แล้วก็กลายเป็นรีเมคใหม่หมด ทำออกมา 2 ภาคพร้อมกัน โดยโครงเรื่องแล้วจะคล้ายกับฉบับปี 1993 ครับ ซึ่งก็ดัดแปลงจากนิยายไปหลายอย่างอยู่

ในส่วนของงานสร้าง ฉาก เครื่องแต่งกายนี่ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว สมกับเป็นหนังฟอร์มยักแห่งปี อลังการงานสร้างให้สมกับแฟนหนังกำลังภายในรอคอยมาเกือบ 30 ปี [แอดเองก็รอคอยมานานเหมือนกัน 5555] ในส่วนของดารานักแสดงส่วนใหญ่ก็หน้าคุ้นคุ้นตากันเช่น หลินฟง, กู่เทียนเล่อ, DONNIE YEN, สวีจิ่นเจียง, เหวินหย่งซาน, ชิวอี้หนง, อวิ๋นเชียนเชียน [ นางหน้าเหมือนกวนจื่อหลินมากๆ ]

ภาพยนต์แนว : แอ็คชั่น, กำลังภายใน, ย้อนยุค
ผู้กำกับ: JING WONG
ดารานำ: DONNIE YEN, หลินฟง, กู่เทียนเล่อ, เหวินหย่งซาน, ชิวอี้หนง, อวิ๋นเชียนเชียน
ความยาวหนัง: 114 นาที

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว หนัง DUNE PART 1 ภาคปฐมบทของหนังไซไฟอนาคตอันไกลโพ้น ที่มีสองตระกูลทำสงครามบนดาวทะเลทราย ใครที่ชอบแนว Star wars คงไม่พลาด กับภาพยนต์ Dune ฉบับภาพยนตร์ที่ดีที่สุด [ ไม่สบอยนะ ]

รีวิว หนัง DUNE PART 1 เล่าเรื่อง พอล อะเทรดิส อัจฉริยะหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ที่เกิดมาพร้อมโชคชะตา อันยิ่งใหญ่เกินกว่าจะเข้าใจ เขาต้องเดินทางไปยังดาวเคราะห์ ที่อันตรายที่สุดในจักรวาลเพื่อความอยู่รอด และอนาคตของครอบครัวรวมถึงผู้คนของเขา หลังถูกรุกรานโดยกองกำลังวายร้าย หน้าเลือดที่หวังแย่งชิงทรัพยากรที่ล้ำค่ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งสามารถใช้ดึงศักยภาพที่ซ่อนเร้นของมนุษยชาติออกมาได้ และมีเพียงผู้ที่สามารถเอาชนะ ความกลัวได้เท่านั้นที่จะอยู่รอดในศึกครั้งนี้

DUNE PART 1 สำหรับหนังไซไฟเรื่องนี้ ต้องบอกเลยว่าอลังการงานสร้างของจริงกับ CG ที่ทำออกมาได้แบบเนียนกริบ สมราคาเป็นหนังมหากาฬจริงๆ แต่ส่วนใหญ่หนังจะเน้นไปทางปูเรื่องราว และพาเราไปทำความรู้จักตัวละครสะมากกว่า เลยทำให้รู้สึกเอื่อยนิดๆ ที่แบบว่าใครไม่ชอบก็อาจจะเบื่อไปเลยก็ได้ และส่วนใหญ่หนังจะอยู่ในโทนมืดๆ ดูน่าค้นหา น่าติดตาม แต่ก็เล่นมืดเกือบทั่งเรื่อง ขนาดฉากแอ็คชั่นยังอยู่คลุมโทนคาร์คๆเลย แน่นอนกับฉากแอ็คชั่นหรือ CG เพราะคุณจะว้าวไปกับหนังแน่นอน เพราะเล่นใหญ่ใส่ไม่ยั้ง

DUNE PART 1 คือหนังที่คุ้มค่ากับเวลาและชอบอีกเรื่องของปี 2021 แน่นอนขอบอก อย่างไรก็ตามก็ยอมรับว่า มันอาจไม่ใช่หนังที่ทุกคนจะดูสนุก สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับหนังแนวนี้ หรือสไตล์ของผู้กำกับคนนี้ ก็อาจจะต้องอดทนและอาศัยความพยายามในการเข้าถึงนิดหน่อยในตอนเริ่มเรื่อง โดยสำหรับคนกลุ่มลักษณะนี้ แนะนำให้อ่านเรื่องย่อ และทำความเข้าใจแผนผังตัวละครก่อนชม เพื่อที่จะได้คลายความกังวลในการติดตามเรื่อง เพื่อเสพภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งก็เชื่อว่าหากคุณเครื่องติดเมื่อไหร่ คุณจะต้องถูกดูดและหลุดเข้าไปในโลกของ DUNE โดยไม่ทันตั้งตัวแน่นอน รับรองได้ว่าคุณจะสนุกโดยไม่รู้ตัว

• ประเภท: แอคชั่น / ไซไฟ / ผจญภัย
• ผู้กำกับ: เดอนี วีลเนิฟว์
• นำแสดงโดย: ทิโมธี ชาลาเมต์, รีเบ็กก้า ฟูเกอร์สัน, ออสการ์ ไอแซก, จอช โบรลิน
• ความยาว: 156 นาที
• กำหนดฉายในไทย: 21 ตุลาคม 2021

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว หนัง แอ็คชั่น ไซไฟ

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว หนัง JUNGLE CRUISE มาร่วมการผจญภัยสุดยิ่งใหญ่ไปกับ 2 นักแสดงขวัญใจแฟนๆอย่าง ดเวยน์ จอห์นสัน และ เอมิลี่ บลันท์ ใน JUNGLE CRUISE  ผจญภัยล่องป่ามหัศจรรย์ จากดิสนีย์ [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว หนัง JUNGLE CRUISE การเดินทางล่องไปตามแม่น้ำอะเมซอนสุดตื่นเต้นไปกับกัปตันเรือปากดี แฟรงค์ วูลฟ์ และนักค้นคว้าผู้กล้าหาญ ดร. ลิลลี่ ฮัฟฟ์ตัน ลิลลี่เดินทางจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มาสู่ป่าอะเมซอนและรับบริการที่ดูไม่น่าไว้ใจของ แฟรงค์ เพื่อนำทางเธอล่องไปตามแม่น้ำโดย ลา ควิล่า เรือโกโรโกโสแต่มีเสน่ห์ของเขา ลิลลี่ มุ่งมั่นที่จะค้นหาต้นไม้โบราณที่มีความสามารถสุดมหัศจรรย์ในการเยียวยา และเปลี่ยนอนาคตของการแพทย์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การตะลุยภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน ทำให้คู่หูคู่กัดต้องเผชิญกับอันตรายและพลังเหนือธรรมชาตินานัปการ ที่มาในรูปแบบของความสวยงามและเย้ายวนของป่าฝน แต่เมื่อความลับของต้นไม้ที่สาบสูญปรากฎ การเดิมพันของ ลิลลี่ และ แฟรงค์ ก็มีมากขึ้นตามไปด้วย โดยมีชะตากรรมของพวกเขาและมวลมนุษยชาติแขวนอยู่บนเส้นด้าย

สำหรับหนัง JUNGLE CRUISE ก็ยังคงเต็มไปด้วยสูตรสำเร็จตามแบบฉบับหนังดิสนีย์ เหมือนกับหนังเรื่องอื่นๆที่ผ่านมา ถึงจะไม่ได้สร้างความแปลกใหม่อะไร แต่ด้วยเนื้อหาของหนังและมิชชั่นการผจญภัยที่เลือกมาใช้ ก็สร้างความตื่นตาตื่นใจและความสนุกให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี โดยที่แทบไม่ต้องพยายามอะไรด้วยซ้ำ เนื้อเรื่องของหนังทำออกมาง่ายๆดูง่าย และคนดูสามารถาคาดเดาหนังตั้งแต่ต้นได้เช่นกัน แต่ก็ยังเป็นหนังที่ดูได้เพลิดเพลินตลอดทั้งเรื่อง [ แอดชอบมาเรื่องนี้ ดูสนุกมากๆ ]

โดยรวมแล้ว ถือว่าหนังอาจไม่ใช่หนังโปรแกรมใหญ่เข้ามาถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศบ้านเรา แต่ถ้าใครเบื่อหนังใหญ่ๆ หนังเรื่องนี้ก็น่าจะพอตอบโจทย์สำหรับใครที่อยากดูหนังบันเทิง ฮากรุบกริบแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ดูจบแล้วแบบยิ้มๆ และน่าจะเหมาะแก่การช่วนคุณน้องๆหนูๆมาดูได้แบบครอบครัว หนังได้อารมณ์ผจญภัยเหมือนได้ไปนั่งเรือล่องแม่น้ำ ผจญภัยป่าผีสิง ดูงู ลอดถ้ำน้ำตก เมืองโบราณ ตกใจใส่คนป่า และสัตว์ป่าในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์อย่างไรอย่างนั้นเลย

ภาพยนตร์แนว: ผจญภัย แฟนตาซี
ผู้กำกับ: เจาเม โกเยต-เซร์ร่า
อำนวยการสร้างโดย: WALT DISNEY
นำแสดงโดย: ดเวห์น จอห์นสัน เดอะ ร็อก,เอมิลี่ บลั้นท์
บทภาพยนตร์โดย: GLENN FICARRA, JOHN REQUA และ MICHAEL GREEN

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ผจนภัย แอ็คชั่น

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว หนัง Fast & Furious 9 เร็วแรงทะลุนรก 9 หลังจากเลื่อนแล้วเลื่อนอีก แต่ในที่สุดก็ได้ดูซักที และนี่คือ Fast & Furious 9 แฟรนไชส์หนังเรื่องยิ่งใหญ่ที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าได้ดำเนินมายาวนานถึง 20 ปีเต็มแล้ว กลับมาในคราวนี้ก็ต้องบอกเลยว่า ฉีกกฏทุกสิ่งอย่างที่มีบนโลกใบนี้ กลายเป็นความบันเทิงเต็มรูปแบบที่ไม่ต้องมองหาเหตุผลอะไรกันอีกต่อไปแล้ว [ไม่สปอยนะ]

รีวิว หนัง Fast & Furious 9 เร็วแรงทะลุนรก 9 เรื่องราวหลังจบเหตุการณ์ความวุ่นวายทำให้ โดมินิค โทเร็ตโต ได้ตัดสินใจปลีกตัวออกไปใช้ชีวิตอย่างเงียบๆพร้อมกับ เล็ตตี้ และ ไบรอัน ลูกชายตัวน้อยแต่พวกเขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าแม้จะอยู่ในดินแดนสงบสุข ก็ยังมีอันตรายอยู่ ซึ่งคราวนี้ดอมต้องเผชิญหน้ากับบาปในอดีตของเขา ถ้าเขาต้องการจะปกป้องชีวิตของคนที่เขารักมากที่สุด ทีมของเขาทีมนักซิ่งของเขากลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อหยุดการทำลายล้างโลกโดยนักฆ่าและนักซิ่งฝีมือฉกาจซึ่งเขาคือ เจคอบ น้องชายของดอม เรื่องราวจะจบลงอย่างไรต้องไปติดตามต่อกันเองเดียวจะหาว่าสปอย

นี่คือหนังที่อัดแน่นและเต็มไปด้วยฉากบู๊ แบบระเบิดภูเขาเผากระท้อม ที่ถูกใจแฟนๆกันเลยทีเดียวตลอด 2 ชั่วโมงเศษ บอกได้เพียงแค่ว่าภาคที่ 9 ของเรื่องนี้ ต้องปลดปล่อยทิ้งเหตุผลทุกอย่างในโลกแห่งความเป็นจริงเอาไว้ทั้งหมด แล้วปล่อยใจดูหนังแอคชั่นมันส์ๆเรื่องไป คุณก็ได้รับความบันเทิงเต็มขั้นเต็มอิ่มกันเลยทีเดียว อันเป็นเจตนารมณ์ที่แท้จริงของผู้สร้างหนังชุดนี้ ที่สามารถมอบให้กับผู้ชมได้เต็มที่ในทุกๆองค์ของหนัง แบบว่าเอาให้ตายกันข้างหนึ่งเลย แค่ดูฉากแอ็คชั่นก็คุ้มแล้วเลยละ

ในส่วนของ FLASHBACK อย่างน้อยคำบอกเล่าที่เราได้ยินมาตั้งแต่ภาคแรก มันก็มีภาพให้เราไม่ต้องจินตนาการเองแล้วว่าพ่อดอมตายยังไง ที่สำคัญมันทำมาเพื่อตัวละคร เจค็อบ จริงๆการที่จะเอาตัวละครของ จอร์น ซีน่า เข้ามาก็ต้อง FLASHBACK แบบนี่แหละถึงชอบตัวละคร เจค็อบ ตอนเด็กมากในส่วนแรงจูงใจของตัวละครอย่างอย่าง เจค็อบ ที่แค้นกันมากี่ปี ตัดขาดกันมากี่ปี แต่กลับมาดีกันง่ายๆในส่วนน้ำหนักที่ เจค็อบ โดนทรยศไม่ค่อยรู้สึกว่ามันจะพอที่ทำให้ เจค็อบ กลับใจเลยแบบว่าน่าจะแยกไปลุยคนเดียวๆเลยก็ได้ก็ได้ แต่นี้กลับมาคืนดีกับดอมเฉยเลย เพื่อครอบครัวหนังเรื่องนี้อะไรก็เป็นไปได้จริงๆ

และที่เด่นสุดก็คงพี่ VIN DIESEL นี้ละมาแบบเดิมๆฟิลเดิมๆ ก็เลยไม่จำเป็นต้องพัฒนาตัวละครอะไรแล้วอันนี้เยี่ยมมากเลย นอกนั้นตัวละครอื่นๆก็สร้างสีสันได้เหมือนเดิม เรื่องต่างๆถือว่าทำออกมาได้ดีเหมือนทุกๆภาคที่ผ่านๆมา สรุปแล้วแอดยกให้เป็น FAST ภาคที่ดีอีกภาคเลยละเป็นภาคที่มีเสน่ห์แบบที่หลายๆภาคทำไม่ได้ แถมมีนักแสดงในภาคก่อนๆออกมาให้เราได้หายคิดถึงกันอีกด้วย และตัวละครสุดเซอร์ไพรส์อย่าง ฮาน ที่แบบเห็นแล้วขนลุกไปเลย เอาเป็นว่าใครที่เป็นแฟนหนังเดอะฟาสคือต้องดูเลยจริงๆ แถมช่วงท้ายเราจะได้เห็นฉากซึ้งๆที่สื่อถึงตัวของ ไบรอัน โอคอนเนอร์ และ เอ็นเครดิตมีปูไปถึงภาคต่อไปอีกด้วย

• FAST & FURIOUS 9 เร็วแรงทะลุนรก 9 หนังแอ็คชั่นภาคที่ 9 ของจักรวาลเดอะฟาส
• ผู้กำกับ: จัสติน ลิน ผู้กำกับจากภาค 3,4,5,6
• นักแสดงนำ:วิน ดีเซล,มิเชลล์ รอดดริเกซ,ไทริส กิ๊บสัน,คริส ลูดาคริส บริดเจส,จอร์ดานา บริวสเตอร์,นาตาลี เอมมานูเอล,ซง คัง,เฮเลน มิร์เรน,ชาร์ลิซ เธอรอน,คาร์ดี บี 
• ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์
• ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว หนัง NO TIME TO DIE พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ เจมส์ บอนด์ ภาคที่ 25 บทสรุปสั่งลาของตำนานสายลับรหัส 007 ในแบบฉบับของ แดเนียล เคร็ก หลังจากรับบทนี้มาตลอด 15 ปี [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว หนัง NO TIME TO DIE พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ เจมส์ บอนด์ ได้วางมือจากการเป็นนักสืบรับใช้ทางการมาแล้ว 5 ปี และไปใช้ชีวิตอย่างสงบอยู่ที่จาไมกา เขาก็เริ่มต้นใช้ชีวิตสงบสุขสุดแสนธรรมดาอย่างที่มนุษย์ทุกคนควรจะได้รับกับ ดร.เมเดอลีน [เลอา เซย์ดูซ์] คนรักของเขาอยู่ในจาเมกา แต่แล้วภารกิจที่มาพร้อมกับภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ ก็ได้วนกลับมาพบเจอกับเขาอีกครั้งเมื่อ ฟีลิกซ์ ไลเทอร์ [เจฟฟรีย์ ไรท์] เพื่อนเก่าจากซีไอเอปรากฏตัวขึ้น และได้ขอให้เขากลับคืนสู่วงการ ออกไล่ล่าตัววายร้าย เพื่อช่วยเหลือนักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียที่ถูกลักพาตัวไป

แต่เมื่อ บอนด์ ตัดสินใจทำภารกิจ เขาก็ได้พบเข้ากับเบาะแสส่วนประกอบทีละชิ้น ไปจนถึงอาวุธสังหารที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ซึ่งมีพลานุภาพรุนแรงเกินกว่าใครจะจินตนาการถึง เพราะมันสามารถทำลายล้างโลกได้ง่ายๆ เพียงพริบตาเดียวภารกิจที่ บอนด์ต้องทำก็คือช่วยเหลือนักวิทยาศาสตร์ที่ถูกลักพาตัวไป แต่กลายเป็นว่าเป็นภารกิจเต็มไปด้วยเล่ห์กล และ ความลับ ความผิดปกติหลายอย่าง มากกว่าที่คาดไว้มาก และนั่นทำให้เขาต้องเข้าไปพัวพันกับกลุ่มวายร้าย ทำให้บอนด์ต้องไล่ล่าตัวร้ายลึกลับซึ่งติดอาวุธกับเทคโนโลยีใหม่ที่สุดจะอันตราย เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องไปติดตามกันได้

ภาพรวมของหนังก็อาจพูดได้ว่า สมกับทุนสร้างกว่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐ จนทำให้หนังติดอยู่ใน 20 อันดับหนังที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฮอลลีวูดไปแล้ว เหมือนอยากปิดจบให้แกแบบจัดทุกอย่างให้มีทุกอย่างที่หนังเจมส์บอนด์เคยมีมา เดินทางไปถ่ายทำในหลายประเทศเต็มไปด้วยสถานที่อันสวยงามน่าจดจำ มีทั้งแบบถ่ายทำในพื้นที่จริงเลย และสร้างฉากขึ้นมาใหม่อย่างฐานทัพของตัวร้ายที่ดูลึกลับแปลกตา ใครที่กังวลว่าหนังความยาวเกือบสามชั่วโมงเรื่องนี้จะทำให้หลับนี่ไม่ต้องกลัวครับ ฉากแอ็คชั่นนี่มีเสริฟให้ชมอยู่ต่อเนื่องเรื่อยๆ ทั้งเรื่อง ส่วนด้านการออกแบบฉากแต่ละฉากทั้งดูอลังการและน่าจดจำ อุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ มีไม่ขาดพร้อมดูใช้งานได้จริง ไม่ล้ำหลุดโลกจนเกินไปเสื้อผ้าหน้าผมต่างถูกออกแบบมาให้แต่ละตัวละครน่าจดจำ เข้ากับบุคลิกและโดดเด่นที่สุดก็คือชุดของ บอนด์ เองที่ไม่ว่าจะอยู่ในเสื้อผ้าแบบไหนก็ดูเท่ / เนี๊ยบ / ดิบ / อยู่เสมอ สมกับเป็น บอนด์ เวอร์ชั่นนี้จริงๆ

และต้องยอมรับว่าหนังเล่นใหญ่มากด้วยพล็อตเรื่องที่ว่า บอนด์ มีลูกพร้อมกับการสละชีวิตตัวเองแล้วกลายเป็นตำนานเล่าขาน ฟังดูแล้วมันดูเป็นบทสรุปที่ดีในการรับบท บอนด์ มาอย่างยาวนานถึง 15 ปีของ แดเนียล เคร็ก ซึ่งมันควรจะเป็นหนัง 007 ที่ดีที่สุดของตระกูลซึ่งทุกคนคงจะคิดแบบนี้ เพราะหนังมันพาเรามาทางนี้มาพร้อมกับดราม่าดีๆ การส่งอารมณ์ที่ดีเยี่ยมเรียกน้ำตาได้อีก สรุปแล้วถือว่าเป็นงานเลี้ยงส่งท้าย แดเนียล เคร็ก ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการทำให้หนังสายลับนี้ ให้มีโมเดิร์นขึ้นมามีมิติมีความหลากหลายและมีชีวิตมากขึ้น

NO TIME TO DIE ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อีกหนึ่งเรื่องจากแฟรนไชส์ JAMES BOND

ผู้กำกับ : CARY JOJI FUKUNAGA
นักแสดง : ANA DE ARMAS,DANIEL CRAIG,LASHANA LYNCH,RAMI MALEK, และในภาคนี้ยังได้นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง รามี มาเลค มาร่วมงานด้วยรวมถึงนักแสดงอีกมากมายอาทิ เลอา เซย์ดูว์,ลาชาน่า ลินช์,เบน วิชอว์,นาโอมิ แฮร์ริส,เจฟฟรี่ย์ ไรท์,คริสทอฟ วอลทซ์,เรล์ฟ ไฟนส์,รอรี่ คินเนียร์,อนา เดอ อาร์มัส
วันที่ฉาย : 7 ตุลาคม 2564
ความยาว : 2 ชั่วโมง 43 นาที

NO TIME TO DIE จะเป็นภาคสุดท้ายที่ แดเนียล เคร็ก รับบทเป็นพยัคฆ์ร้าย 007

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms