รีวิวซีรี่ส์ Stranger Things Season 4

รีวิวซีรี่ส์ Stranger Things Season 4 กลับมาอีกครั้งของซีซั่น 4 ซีรี่ย์แนวสยองขวัญ ไซไฟ สำหรับซีซั่นนี้ มาพร้อมกับนักแสดงนำทีมเดิมครบชุด และตัวละครใหม่ ทางผู้สร้างยังได้เปิดเผยว่า จะมีซีซั่น 5 ตามกันมาอีกด้วย พร้อมให้แฟนๆได้สนุกกับความมันส์ กันอย่างต่อเนื่องด้วยแน่นอน [ งานนี้แอดรอเลย ]

รีวิวซีรี่ส์ Stranger Things Season 4 บอกเล่าเรื่องราวในปี ค.ศ. 1986 หกเดือนให้หลังจากเหตุการณ์ห้างสตาร์คอร์ท แอล ที่ไม่มีพลังแล้วย้ายไปอยู่แคลิฟอร์เนียพร้อมกับ จอยซ์ วิล และ โจนาธาน เธอเฝ้ารอการมาเยือนของไมค์ในช่วงวันหยุดฤดูใบไม้ผลิ แม็กซ์ ยังปวดใจเรื่อง บิลลี่ และตัดสินใจเลิกคบกับ ลูคัส ที่ตอนนี้เป็นตัวสำรองในทีมบาสของโรงเรียน คืนหนึ่งเกิดเหตุไม่คาดฝัน เชียร์ลีดเดอร์ในฮอว์กินส์ถูกฆาตกรรมด้วยวิธีแสนประหลาด

เอ็ดดี้ หัวหน้าชมรม เฮลไฟร์ ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร ดัสตินสืบจนพบว่าสาเหตุทั้งหมดเกิดมาจากเมืองฮอว์กินส์ ต้องคำสาปของปีศาจ เว็คนาร์ แม็กซ์ ถูก เว็คนาร์ เลือกให้เป็นเหยื่อคนต่อไป ดัสติน สตีฟ แนนซี่ โรบิน และ ลูคัส พยายามหาทางช่วยชีวิต แม็กซ์ ขณะเดียวกัน แอล เลือกกลับไปสถาบันวิจัยพลังงานเพื่อเรียกพลังคืน เตรียมสู้กับ เว็คนาร์ การกลับไปที่แล็บของ แอล ต้องปิดเป็นความลับเพื่อไม่ให้รัฐบาลรู้

เมื่อพลัดพรากจาก แอล ไมค์ วิล และ โจนาธาน พร้อมเพื่อนใหม่ อาร์ไกด์ ออกตามหา แอล จอยซ์ ได้รับจดหมายปริศนาและพบว่า ฮ็อปเปอร์ ยังไม่ตายเธอร่วมมือกับ เมอร์เรย์ ออกตามหาและช่วยชีวิต ฮ็อปเปอร์ จอยซ์ จะสามารถช่วย ฮ็อปเปอร์ ได้ไหม แอล จะได้พลังกลับคืนมาหรือไม่ ไมค์ และ วิล จะตามหา แอล เจอไหม ดัสติน และพวกจะช่วยชีวิต แม็กซ์ ได้หรือเปล่า ต้องไปติดตามกันได้ทาง NETFLIX

STRANGER THINGS 4 การกลับมาครั้งนี้ยิ่งใหญ่และอลังการณ์สุดยิ่งใหญ่จริงๆ และต้องบอกเลยว่าเป็นซีรีส์ที่ดีทีสุดก็ว่าได้ จากทาง NETFLIX หลังปล่อยแฟนๆรอมานานกว่า 3 ปี กลับมาครั้งนี้โตขึ้นกว่าเดิม สนุกขึ้นกว่าเดิม เดือดเลือดสาดกว่าเดิม แล้วก็ดูดีอลังการงานสร้างมากๆจนต้องตรบมือให้เลยละ ถือว่าภาคที่ 4 นี้ทำออกมาไม่ผิดหวังเลยจริงๆ การปูเชื่อมต่อเรื่องราวในภาคนี้กลับไปยังต้นกำเนิดได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ และนักแสดงทุกคนแสดงได้ดีทุกคน บททุกบท BALANCE ได้ลงตัวทุกคนจริงๆดูได้แล้วบน NETFLIX

ประเภท : สยองขวัญ วิทยาศาสตร์
วันที่เข้าฉาย :27 พฤษภาคม พ.ศ. 2565
นักแสดงนำ : วิโนน่า ไรเดอร์. เดวิด ฮาร์เบอร์, ฟินน์ โวล์ฟฮาร์ด, มิลลี่ บ็อบบี้ บราวน์, เกเท่น มาตาราซโซ ,CALEB MCLAUGHLIN, NOAH SCHNAPP ,ซาดี ซิงก์ ,นาตาเลีย ไดเยอร์

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง Day Shift งานต้องล่า

รีวิวหนัง Day Shift งานต้องล่า หฤหรรษ์บันเทิงดี หนังล่าแวมไพร์ หนังแอ็คชั่นภารกิจล่าเดือด ที่เป็นการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับแวมไพร์ มาพร้อมกับพล็อตสุดมัน ที่หยิบเอาสูตรสำเร็จมาใส่เอาไว้แบบที่ยังไงก็ดูได้สนุก และบันเทิง สุดยอดเลือดสาด กระจาย

รีวิวหนัง Day Shift งานต้องล่า บอกเล่าเรื่องราวของ บัด จาบลอนสกี้ นักล่าแวมไพร์ในแอลเอที่หาเงินจากการขายเขี้ยวของแวมไพร์ หลังได้รับข่าวจากภรรยาเก่าว่า เธอจะพาลูกสาวคนเดียวของเขาย้ายไปฟลอริด้า เพื่อเหนี่ยวรั้งครอบครัวไว้ เขาต้องหาเงินให้ได้หนึ่งหมื่นเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ภายในหนึ่งอาทิตย์ นั่นเป็นเหตุให้เขาต้องร่วมงานกับ เซธ หนุ่มเนิร์ดพนักงานออฟฟิศจากยูเนียนปราบแวมไพร์ ที่ต้องออกปฏิบัติภาคสนามเพื่อควบคุมบัด ไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง บัด จะสามารถหาเงินจำนวนที่ต้องการภายในหนึ่งอาทิตย์ได้หรือไม่ ต้องไปติดตามรับชมได้ทาง NETFLIX

เป็นหนังที่ดูสนุก ดูเพลิน แต่มีหลายปมที่เปิดไว้แล้วไม่ได้ตามมาปิด เช่นพูดถึงแวมไพร์ว่ามีหลายชนิด แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร และเปิดปมไว้ว่าการมาอยู่ร่วมกันมันต้องมีอะไรแน่ หรืออย่างทำไมแวมไพร์บางตัววิธีฆ่าปกติใช้กับตัวนั้นไม่ได้ ซึ่งดูจบอาจไม่ได้คำตอบ แต่ถ้าดูแบบไม่ต้องคิดเยอะมันก็ตอบโจทย์อยู่ เพราะแค่ดูคิวบู๊ และฉากแอ็คชั่น สุดมันที่ทำออกมาได้ดีมากๆ ของนักแสดงนำระดับเอลิสต์ ก็คุ้มค่ากับเวลาเกือบสองชั่วโมงเลยละ แนะนำเลยว่าต้องดู

โดยรวมแล้ว DAY SHIFT เหมือนหยิบเอาสูตรสำเร็จของหนังแวมไพร์ หรือหนังซอมบี้มาผสม และปรุงแต่งใหม่ ที่แน่นอนว่ามันสร้างอรรถรส และรสชาติที่สนุกดี มีความแปลกใหม่ที่ทำให้รู้สึกว้าวมาก จุดดีของหนังก็น่าจะเป็นการดีไซน์ท่วงท่าสตั้นท์ที่ทำออกมา สมกับประสบการณ์ของผู้กำกับ ทีมนักแสดงก็ถือว่าช่วยกันแบกหนังเรื่องนี้เอาไว้ได้เยอะ ดูจบแล้วหนังกลับทำให้เรา อยากให้มีภาคต่อแบบทันที คอหนังแอ็คชั่นแนวสยองขวัญ เลือดสาด ห้ามพลากเด็ดขาด ดูได้แล้วบน NETFLIX

แนว : แอ็คชั่น ผจญภัย คอมเมดี้
ผู้กำกับ : เจเจ แพร์รี่ นักเขียน ไทยเลอร์ไทซ์ เชย์ แฮทเท็น
นักแสดง : เจมี่ ฟ็อกซ์, เดฟ ฟรังโก, นาตาชา หลิว บาร์ดิซโซ, มีแกน กูด, คาร์ลา ซูซา, สนูป ด็อกก์

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว แอ็คชั่น ผจญภัย สยองขวัญ

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวซีรี่ส์ The Umbrella Academy 3

รีวิวซีรี่ส์ The Umbrella Academy 3 เรจินัล ฮากรีฟ มหาเศรษฐีที่ได้รวบรวมเด็กทีเกิดในท้องผู้หญิงและคลอดภายในวันนั้น นำมาฝึกฝน 7 คน ฝึกพลังพิเศษให้กลายเป็นกลุ่มซุปเปอร์ฮีโร่ สู้กับเหล่าร้าย แต่ด้วยเหตุการณ์หลายๆอย่าง ทำให้เด็กพวกนี้เติบโตมาเป็นกลุ่มคนเหลวแหลกกลุ่มหนึ่ง ทำให้เนื้อหาเลยมีความเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร

รีวิวซีรี่ส์ The Umbrella Academy 3 หลังจากผ่านพ้นวันแห่งหายนะในดัลลัสมาได้ เหล่าพี่น้อง อัมเบรลลา ก็กลับไปที่ อคาเดมี่ ซึ่งตอนนี้อยู่ภายใต้การปกครองของพวก สแปร์โรว์ ที่ทรงพลังและชั่วร้าย ขณะที่หมายเลขหนึ่งหายตัวไป พวก สแปร์โรว์ ก็จับคนมาเป็นตัวประกัน อัลลิสัน ค้นพบบางสิ่งที่เจ็บปวด ส่วนเคลาส์พาห้าออกเดินทางแบบโร้ดทริป เพื่อตามหาความจริงบางอย่าง ผู้คนเริ่มทยอยหายตัวไป ห้า และ ไลล่า จำใจต้องร่วมมือกันเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับการท่องเวลา หลังจากนั้น เคลาส์ ได้เห็นอีกด้านของพ่อ

ลูเธอร์ และ สโลน วางแผนยุติสงครามระหว่างครอบครัว วิคเตอร์ พบกับคนจากอดีต ส่วนห้าพบคนที่คาดไม่ถึงความสัมพันธ์ระหว่าง เคลาส์ กับความตายซับซ้อนเกินไปในที่สุด วิคเตอร์ ก็ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของเหล่าสมาชิกอัมเบรลลา อคาเดมี่ ห้า ออกตามล่าตัว โพโก ส่วน วิคเตอร์ และ ฮาร์ลัน พยายามถ่ายโอนพลังขณะที่ ดิเอโก และ ไลล่า เดินทางไปยังนอกกำแพงของไวท์บัฟฟาโลสวีทในปี 1989 ไลล่าขุดค้นความลับบางอย่างของแม่ขึ้นมาได้ ครอบครัวร่วมมือกันเพื่อต่อสู้คูเกิ้ลบลิตซ์ หลังจากนั้น เรจินัลด์ สอนให้ เคลาส์ รู้จักวิธีใช้ประโยชน์จากพลัง

ความสำเร็จของซีรีส์เรื่องนี้ทำให้ได้ไปต่อมาจนถึงซีซั่น 3 เนื้อหาดูจะมีพัฒนาการกว่า 2 ซีซั่นแบบชัดเจน กล้าที่จะนำเสนอเรื่องราวแง่มุมใหม่ๆ ไม่ย้ำอยู่กับที่ ด้วยไอเดียเดิมๆไอเดียเก่าๆ ซีรีส์เลยมีความหลากหลายมีความแปลกใหม่ เนื้อหาไม่ยัดเยียดเกินไป มันเลยทำให้ตัวละครมีพัฒนาการที่เติบโตขึ้น ลดทอนความน้ำเน่าไร้สาระ มีน้ำมีเนื้อ อาจจะพูดได้เต็มปากว่าดีกว่า 2 ซีซั่นแรกมากๆ ดูจบแล้วอยากดูซีซั่น 4 ต่อเลยละดูได้แล้วทาง NETFLIX

ซีรี่ส์แนว : แอ็คชั่น ซูเปอร์ฮีโร่ คอมเมดี้
วันที่เข้าฉาย :22 มิถุนายน 2022
นักแสดงนำ :เลียต เพจ,ทอม ฮอปเปอร์,ดาวิด กัสตันเยดา

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง Blasted คู่หูปะทะเอเลี่ยน

รีวิวหนัง Blasted คู่หูปะทะเอเลี่ยน ภาพยนตร์แอ็คชั่น คอมเมดี้ ไซไฟ ของนอร์เวย์ เรื่องราวของกลุ่มเพื่อน ที่มีการเผชิญหน้าจากต่างดาว ขณะอยู่ในปาร์ตี้สละโสด ภาพยนตร์เรื่องนี้ SEBASTIAN, AUDUN, PELLE เป็นเพื่อนสามคนที่กำลังเตรียมสถานที่พักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์ก่อนงานแต่งงานที่กำลังจะมาถึงของ SEBASTIAN [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวหนัง Blasted คู่หูปะทะเอเลี่ยน

เรื่องราวของเด็กวัยรุ่นเมื่ออดีตเพื่อนสมัยเด็ก ได้ก่อตั้งปาร์ตี้สระโสดของ เซบาสเตียน และได้เชิญเพื่อนรักในวัยเรียน อย่าง มิคเคล มาเข้าร่วมในงานนี้ของเขาด้วย ต่อมาซึ่งแต่ก่อนนั้นต้องบอกเลยว่า พวกเขานั้นเป็นคู่หูอัจฉริยะของโรงเรียน พอพวกเขากลับมาเขามาเจอกันอีกครั้ง และยังคงเป็นเด็กอัจฉริยะ แท็กเลเซอร์ ของวัยรุ่นตั้งแต่ เซบาสเตียน ได้ทำงานแล้วค่อนข้างบ้ากับงานสุดๆขณะที่ เขานั้นกำลังหลงใหลในอาชีพ และการจัดปราตี้ครั้งนี้ของเขาเองนั้นมันทำให้เขาสามารถหลอกล่อลูกค้าที่มีศักยภาพ

เมื่อมีเรื่องราวไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้มีเอเลี่ยนบุกเข้ามางานปาร์ตี้อย่างกระทัน และมีแค่เพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่จะต่อต้านกับเอเลี่ยนได้พวกเขาจึงทิ้งสายเลือดที่ไม่ดี และหันหน้ากับมารวมตัวกันอีกครั้งในฐานะ คู่หูยิงปืนเลเซอร์แท็กเพื่อจัดการเหล่าเอเลี่ยน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องไปชมกัน เดี่ยวจะหาว่าสปอย

ต้องบอกเลยว่านี้คือภาพยนต์ที่รวมทุกอย่างไว้ในเรื่องดียวทั้ง โหด มัน ฮา บ้า กล้า ทั้งดราม่า มุข หักมุมแบบ 180 มีซึ้งกินใจ คอหนังแนวสติกแตกห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะว่าหนังมันสนุกจริงๆแบบ อีหยังวะ ดูได้แล้วบน NETFLIX

ภาพยนต์แนว : แอ็คชั่น คอมเมดี้ ไซไฟ
กำกับโดย : MARTIN SOFIEDA
นักแสดงนำ : อักเซล เบอยุม,เฟรดริก สโกกสรูด,อิงกริด โบลเซอ บาร์ดัล

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิวหนัง แอ็คชั่น

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว FANTASTIC BEAST : SECRETS OF DUMBLEDORE สัตว์มหัศจรรย์ ความลับของดัมเบิลดอร์

รีวิว FANTASTIC BEAST : SECRETS OF DUMBLEDORE สัตว์มหัศจรรย์ ความลับของดัมเบิลดอร์ การกลับมาอีกครั้งของโลกเวทมนตร์สุดยิ่งใหญ่ใน หลังจากจอมเวทย์ร้าย เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ วางแผนครองโลกมนต์เตรียมทำสงครามกับโลกมนุษย์  นักสัตว์วิเศษนำทัพเหล่าพ่อมดแม่มด เข้าร่วมภารกิจเพื่อปกป้องโลกทั้งสองฝั่ง [ ไม่สปอยนะ ]  

รีวิว FANTASTIC BEAST : SECRETS OF DUMBLEDORE สัตว์มหัศจรรย์ ความลับของดัมเบิลดอร์ เรื่องราวในภาพยนต์เกิดขึ้นในทศวรรษที่1930 ได้ไปยังในสงครามโลกเวทมนต์และจะสำรวจ ภูฏานชุมชนมหัศจรรย์จีน และเยอรมันรวมทั้งสหรัฐอเมริกาที่ก่อตั้งขึ้นมาก่อนหน้านี้ไม่นานมากนัก ขณะนั้นพ่อมดศาสตร์มืด เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ ได้เริ่มต้นวางอันชั่วร้ายเพื่อปกครองเวทมนต์ด้วยตนเอง อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ต้องขอความช่วยเหลือจาก นิวท์ สคามันเดอร์ ศิษย์รักนักสัตว์วิเศษนำทัพเหล่าพ่อมดแม่มดและเพื่อนซี้ เจค็อบ เข้าร่วมภารกิจเพื่อปกป้องโลกทั้งสองฝั่ง เผชิญหน้าความโหดร้าย และความอันตรายนี้เขาได้สู้กับเหล่านักสัตว์ ที่มีพลังวิเศษรวมถึงกองทัพที่มีพลังวิเศษขั้นเทพแต่อย่างไรนั้น พวกเขาต้องผ่านบททดสอบนี้กันไปให้ได้ สถานการณ์ตอนนี้พวกเขาได้เดิมพันกันสูงมาก เพื่อทดสอบนี้ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ พวกเขาและพ่อมดแม่มดต้องผ่านมันไปให้ได้

ช่วงแรกของหนังเท้าความทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในภาคที่แล้ว โดยมีการให้ตัวละครหนึ่งมาเล่าเหตุการณ์เป็นฉากๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และมีฉากแนะนำตัวว่าใครเป็นใครและทำไมถึงต้องมาอยู่ในภารกิจนี้ คือหนังไม่ได้น่าเบื่อหรือชวนหลับ แต่ด้วยตัวละครที่เยอะ ปมที่เยอะ กับเนื้อเรื่องที่ไร้จุดหมาย มันทำให้เราต้องลุ้นตลอดเวลาที่ดู อย่างที่มีตัวละครนึงบอกไว้ว่า แผนตอบโต้ กรินเดลวัล ก็คือการไม่มีแผน ก็เหมือนกับหนังเรื่องนี้ที่ไม่มีเป้าหมาย ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน ไม่รู้ว่าจะเล่าอะไร เหมือนหาทางลงไม่เจอ และการที่หนังจบลงแบบนี้ มันทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นในภาคสองแทบไร้ความหมาย และอย่างไรก็ตามปมใหญ่ๆที่ทิ้งไว้ในภาคที่แล้วก็ถูกเฉลยในภาคนี้ละ

MADS MIKKELSEN แสดงได้ดีมากแต่ยังติดภาพ JOHNY DEPP เป็น กรินเดลวัล มากกว่ากับการใช้คำพูดหว่านล้อมผู้คนให้คล้อยตาม แต่เรื่องนี้คือกลายเป็นวายร้ายคนนึงไปเลย นี่คือครั้งแรกที่เราจะได้เห็น ดัมเบิลดอร์ ได้สู้กับ กรินเดลวัล ทำให้เรารู้สึกถึงความเป็นพ่อมดที่เก่งที่สุดแห่งยุคสู้กันเลย ในส่วนสัตว์วิเศษในเรื่องที่เหมือนจะเป็นจุดขาย ก็มีให้เห็นน้อยมาก หากใครที่ยังไม่ได้ดู ขอแนะนำให้ไปดู ไปเก็บเกี่ยวบรรยากาศเก่าๆของ ฮอกวอตส์ ให้หายคิดถึงกัน ซึ่งนอกจากนี้ตัวหนังยังพาเราไปเห็นศาสตราจารย์คนอื่นๆ ในวัยหนุ่มสาวนอกจาก ดับเบิลดอร์ ด้วยบอกเลยว่าคลายความคิดถึง ฮอกวอตส์ แน่นอน

ภาพยนต์แนว: แอ็คชั่น , ผจญภัย, แฟนตาซี
กำกับโดย : เดวิด เยตส์
นักแสดงนำ : เอดดี เรดเมย์น แคทเธอริน วอเตอร์สตัน แดน ฟ็อกเลอร์ อลิสัน ซูดอล เอซรา มิลเลอร์ คัลลัม เทอร์เนอร์ วิลเลียม นาดิแลม ป๊อปปี้ คอร์บี้-ทูช เจสสิกา วิลเลียมส์ จู๊ด ลอว์ แมส มีเกิลเซิน

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิวหนัง  ผจนภัย แอ็คชั่น

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง RRR ก้องเกียรติกบฏ

รีวิวหนัง RRR ก้องเกียรติกบฏ เพรากระแสของ ภาพยนตร์เรื่อง Gangubai Kathiawadi ที่มาปลุกกระแสความนิยมของหนังอินเดีย ให้กลับมาฮิตในชั่วข้ามคืน ทำให้หลายคนรอดูหนัง อินเดียเรื่องใหม่ที่จะตามออกมา และนี้ก็คือหนังอีกเรื่อง RRR

รีวิวหนัง RRR ก้องเกียรติกบฏ สำหรับภาพยนตร์เรื่องใหม่ล่าสุดของ Netflix ได้เปิดตัวภาพยนตร์อินเดีย ที่เรตติ้งแรงไม่แพ้ Gangubai Kathiawadi เลยละ ที่เปิดตัวเมื่อไม่นานแต่สามารถสร้างเรตติ้งอันดับ 1 ในไทย RRR เป็นภาพยนตร์อินเดีย แนว แอคชั่น ดราม่า เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่ดีที่สุดก็ว่าได้ หลังจากที่ภาพยนตร์อินเดียห่างหายไปนาน เรียกได้ว่าการกลับมาครั้งนี้สามารถครองใจคนดูได้ขนาดนี้ และหนังใช้ทุนสร้างสูงถึง 2 พันล้านบาท [ โอ้โห้ อลังการงานสร้างมากแม๊ ] คอหนังอินเดีย บอกไว้เลยไม่ควรพลาดจริงๆ

หนังเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 1920 เมื่อประเทศอังกฤษได้เข้ายึดครองประเทศอินเดีย และในตอนนั้น ราม ราจู เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีความฝันอยากจะเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษของอังกฤษ และ อักห์ทาร์ เขานั้นเป็นชายหนุ่มที่มาจากบ้านป่าเมืองไกลเหตุที่เข้ามาในเมือง เพราะว่าต้องตามหาน้องสาว ที่ได้ถูกผู้ว่าของอังกฤษจับตัวมา และแล้วเรื่องราวต่างๆจึงได้นำพาทั้งสองมาพบกัน และรู้จักกันในที่สุด จึงกลายมาเป็นเพื่อนรักกัน แต่อย่างไรก็ตามมิตรภาพอันแสนงดงามของทั้งสอง ก็มีเหตุผลที่ทำให้ทั้งสองต้องขัดแย้งกันเพราะ ราม ราจู เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่ อักห์ทาร์ กลับเป็นผู้ต่อต้านและพร้อมที่จะแหกกฎรัฐ เพื่อที่จะช่วยน้องสาวของเขาให้ได้ และเรื่องราวของเพื่อนรักทั้งสองจะเป็นอย่างไร ต้องไปติดตามกันได้ เดี่ยวจะหาว่าสปอย

หลังจาก Gangubai Kathiawadi ได้ปลุกกระแสงความดังชั่วข้ามคืน และสร้างตำนานให้คนทั้งโลกได้จดจำ และนี้คืออีกเรื่องของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของอินเดีย และเป็นการกลับมาพบกันอีกครั้งของ อชัย เทวควัน และ อาเลีย บาตต์ ที่มาแสดงคู่กันอีกครั้ง เป็นการกำกับของผู้กำกับชาวอินเดียมากฝีมืออย่าง S.S. Rajamouli พบกับความสนุกสดมันได้ที่ Netflix

ภาพยนต์แนว : ระทึกขวัญ , ดราม่า
วันที่เข้าฉาย : ปี 2022
กำกับโดย : S.S. RAJAMOULI
นักแสดงนำ : ราม จารัน ,เอ็น.ที. รามาราว จูเนียร์

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวซีรี่ส์ Moon Knight มูนไนท์

รีวิวซีรี่ส์ Moon Knight มูนไนท์ สตีเวน แกรนท์ค้นพบว่าเขาได้รับพลังจากเทพเจ้าดวงจันทร์ของอียิปต์ แต่ในไม่ช้าเขาก็พบว่าพลังที่ค้นพบใหม่เหล่านี้เป็นได้ทั้งพรและคำสาปสำหรับชีวิตที่มีปัญหาของเขา [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวซีรี่ส์ Moon Knight มูนไนท์ ซีรี่ส์เล่าเรื่องราวของ สตีเวน แกรนท์ พนักงานขายของทั่วไปที่มีความรักความโอบอ้อมอารี ดูอ่อนโยนมีมารยาทแต่จริงๆ แล้วใครจะรู้ว่าอีกด้านของเขาเต็มไปด้วยความมืดมน และมีความทรงจำในอดีตที่ไม่น่าจดจำเสียเท่าไหร่ โดยที่เขาพบว่าตนเองมีความผิดปกติจากการแยกตัวเองออกจากกัน หรือกลายเป็นคน 2 บุคคลิก แต่อารมณ์ของเขาไม่ได้ทำให้ตัวเองสับสน แต่ยังต้องมาต่อสู้กับศัตรูตัวฉกาจอย่าง

มาร์ค สเปคเตอร์ ผู้เป็นทหารรับจ้างซึ่งการที่พวกเขาได้โคจรมาพบกันนี้ มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ สตีเวน ได้เจอกับความลับอันน่ากลัวจากเทพเจ้าอียิปต์ ผู้ทรงอำนาจที่หมายจะเอาชีวิตเขาเช่นกัน ซึ่งสุดท้ายแล้วเรื่องราวของ สตีเวน จะจบลงอย่างไรจะสามารถควบคุม และรู้จักอารมณ์ของตนเองมากขึ้นหรือไม่ หรือจะมีใครอยู่ใครหายจากไป ต้องไปติดตามกันต่อเอง เดี่ยวจะหาว่าสปอย

เพราะความลึกลับซับซ้อนและกลวิธีนำเสนอชวนให้คนดูต้องงุนงง จนเราต้องคิดว่ามันเป็นความบ้าคลั่งที่ส่งให้ MOON KNIGHT เป็นซีรีส์ที่แปลกและสดใหม่แตกต่างไปจากภาพยนตร์และซีรีส์เรื่องอื่นๆของ MCU ที่ผ่านมาทั้งหมด ต้องยกให้เป็นซีรี่ส์ที่สนุกเข้มข้นและสุดมัน ตั้งแต่ตอนแรกเลยละ ในส่วนของ CG ต้องบอกเลยว่าจัดเต็มไม่แพ้ภาพยนต์เลยละได้มาตรฐานสมจริงมากๆ

ดูแล้วคล้อยตามได้เลยเสมือนว่าไปร่วมต่อสู้ด้วย [ นี้ถ้าได้ดูบนจอภาพยนต์คงจะสนุก สะใจมากๆ ] นอกจากนี้ ยังเป็นแนวการผจญภับที่ใส่ดราม่านิดๆไซไฟหน่อยๆตามสไตล์ MARVEL ของเขาละ ในส่วนของนักแสดงสื่ออารมณ์ออกมาได้ดีมากๆอย่าง ออสการ์ ไอแซค ที่รับบทเป็นมาร์ค สเปคเตอร์, สตีเวน และมูนไนท์

ภาพยนตร์จากค่าย MARVEL ต้องบอกเลยว่าปฏิเสธไม่ได้ว่า นอกจากการรวมตัวของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่แล้ว ก็มักจะสร้างภาพยนตร์ที่อธิบายความเป็นมา ในชีวิตทุกแง่ทุกมุมต่างๆของตัวละคร และนี้คือหนึ่งในนั้น MOON KNIGHT ที่ได้นำเอาตัวละครชื่อเดียวกัน อย่าง สตีเวน มาสร้างโดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจชวนให้ติดตาม แฟนพันธ์แท้ มาเวล ห้ามพลาดเด็ดขาด

ภาพยนต์แนว : แอ็คชั่น ,ผจญภัย
กำกับโดย : โมฮาเหม็ด ดิอาบ,จัสติน เบนสัน,แอรอน มัวร์เฮด
นักแสดงนำ : โอสการ์ อิซาอัก, เมย์ คาลามาวี,คาริม เอล ฮาคิม

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิวซีรี่ส์ แอ็คชั่น ผจญภัย

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง MOONFALL วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก 

รีวิวหนัง MOONFALL วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก ภาพยนตร์ภัยพิบัติถล่มโลก เรียกได้ว่าถูกสร้างออกมาหลายเรื่องแล้วและมักจะมีสูตรการเดินเรื่องที่คาดเดาได้ ทั้งการหนีตาย สาเหตุภัยพิบัติ ทฤษฎีวิทยาศาสตร์ แต่สำหรับ Moonfall แล้ว คุณต้องโยนทุกทฤษฎีที่เคยเรียนรู้มาทั้งหมดทิ้งไปให้หมดเพราะหนังเรื่องนี้ เป็นหนังภัยพิบัติที่ล้ำมากกว่าที่คุณเคยดูมา [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวหนัง MOONFALL วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก เมื่อดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนดวงจันทร์ เป็นเหตุทำให้ดวงจันทร์เปลี่ยนทิศทางพุ่งมาชนโลก องค์การนาซ่าของอเมริกา จึงส่งโดนรขึ้นไปสำรวจบนดวงจันทร์อีกครั้ง ก่อนที่พวกเขาจะพบกับมหัตภัยร้ายแรงNและความลับที่ถูกปกปิดตั้งแต่ อะพอลโล่ 11 อย่างไรก็ตามความหวังเดียวของมนุษยชาติถูกฝากไว้กับนักบินอวกาศ ไบรอัน ฮาร์เปอร์ ผู้บริการระดับสูงของนาซ่า โจ ฟาวเลอร์ เบอร์ และ ดร. เค.ซี. เฮาส์แมน นักอุดมคติเจ้าของทฤษฏีสมคบคิดผู้ฝันเฟื่องเรื่องสิ่งมีชีวิตนอกโลก พวกเขาทั้งสามคนต้องร่วมมือกันเพื้อช่วยชีวิตทุกคนบนโลก และรวมไปถึงครอบครัวที่พวกเขารัก

ถือว่าเป็นหนังไซไฟผจญภัย อย่างชัดเจนที่ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงดูแล้วจะเจอหนังแบบใหน ARMAGEDDON, 2012, ID4, DEEPIMPACT หนังแนวภัยพิบัติถล่มโลก แบบนี้หริอปล่าวแบบนี้ น่าจะไม่ใช่พลอตใหม่ในยุคนี้ ทั้งหนังฟอร์มเล็กหนังใหญ่ หรืออินดี้มีออกมาให้ดูกันมากมาย ความรู้สึกที่เกิดขึ้นคือใน MOONFALL จะมีอะไรที่ฉีกออกไป หรือมีอะไรที่เซอร์ไพรส์หลอกคนดูได้ หรือเป็นเพียงแค่หนังเหล้าเก่าในขวดใหม่เท่านั้น แต่ที่พูดมาทั้งหมดมันไม่ใช่เลย [ ต้องไปดูเองละกัน ]

โรแลนด์ เอมเมอร์ริช ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่แอดชื่นชอบมาตั้งแต่สมัยที่กำกับ ID4 [ ตอนนั้นแอดเพิ่ง 20 ต้นๆพูดเหมือนแก่ ] เป็นหนังเอเลี่ยนถล่มโลกเรื่องแรกที่ครบเครื่องที่สุด ตอนนี้แอดก็ยังดูอยู่เลย และติดตามมาจนถึงปัจจุบัน และหนังของแกอีกหลายๆ เรื่องก็ตามมา THE DAY AFTER TOMORROW, 2012 วันสิ้นโลก ซึ่งแอดก็ชอบและนี้คือหนังหายนะเรื่องล่าสุด MOONFALL ต้องบอกเลยว่า เป็นที่ยิ่งใหญ่ อลังการงานสร้าง ที่คอหนังแอ็คชั่น ไซไฟ ไม่ควรพลาดอีกเรื่องจริงๆ

ภาพยนต์แนว : แอ็คชั่น ไซไฟ ผจญภัย แฟนตาซี
กำกับโดย : โรแลนด์ เอ็มเมอริช
นักแสดงนำ : ฮัลลี เบอร์รี่, แพทริค วิลสัน, จอห์น แบรดลีย์

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิวหนัง แอ็คชั่น ไซไฟ

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง The King’s Man กำเนิดโคตรพยัคฆ์คิงส์แมน

รีวิวหนัง The King’s Man กำเนิดโคตรพยัคฆ์คิงส์แมน ในช่วงปีแรกๆ ของศตวรรษที่ 20 หน่วยงาน Kingsman ก่อตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านกลุ่มพันธมิตรที่วางแผนทำสงครามเพื่อกวาดล้างผู้คนนับล้าน [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวหนัง The King’s Man กำเนิดโคตรพยัคฆ์คิงส์แมน เมื่อโลกต้องพบกับมหาวายร้ายกลุ่มทรราช และอาชญากรผู้บงการที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่มารวมตัวกันเพื่อวางแผนทำสงครามเพื่อที่จะหมายล้างบางมวลมนุษย์ บุรุษหนึ่งคนพร้อมลูกชายของเขาจะต้องร่วมมือกัน ปกป้องโลกให้ทันเวลา ต้องแข่งกับเวลาเพื่อหยุดพวกเขา ค้นพบต้นกำเนิดของหน่วยข่าวกรองอิสระแห่งแรกในKING’S MAN
สุภาพบุรุษคิงส์แมนกลับมาอีกครั้งใน THE KING’S MAN กำเนิดโคตรพยัคฆ์คิงส์แมน ที่ไม่ได้นับเป็นหนังภาค 3 แต่เป็นภาพยนตร์ PREQUEL หรือเรียกว่าเป็น SPIN OFF หรือหนังภาคขยายก็ได้ เพราะว่าเนื้อหาไม่ได้ต่อจากสองภาคที่แล้ว ที่จะพาย้อนกลับไปยังยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ค้นหาที่มาที่มาที่ไปของหน่วยคิงส์แมนที่มีต้นกำเนิดยาวนานนับร้อยปี

ตัวหนังเล่าย้อนไปในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ดยุก อ็อกฟอร์ด ได้สูญเสียภรรยาไปอย่างกะทันหันในระหว่างภารกิจส่งสเบียงให้กับทหาร เขาให้คำสัญญากับภรรยาว่าจะปกป้องลูกชายคนเดียวอย่าง คอนราด ผู้มีความใฝ่ฝันว่าอยากจะเป็นทหารไม่ให้เข้าร่วมรบ จนกระทั่งเมื่อเกิดเหตุลอบสังหารจักรพรรดิแห่งออสเตรีย กลายเป็นชนวนเหตุแห่งสงครามโลกครั้งที่ 1 อันเป็นแผนของ คนเลี้ยงแกะ ที่คอยชักใยการเมืองของประเทศร่วมสงครามอยู่เบื้องหลัง ดยุกอ็อกฟอร์ด จึงได้เผยเครือข่ายคนรับใช้ ที่คอยสอดแนมหาข่าวกรองทั่วทุกมุมโลก ที่มีแม่บ้านอย่าง พอลลี และ โชลา สารถีรถม้าเป็นสมาชิกลับๆให้ คอนราด ได้รับรู้ซึ่งเครือข่ายนี้นี่แหละคือต้นกำเนิดที่จะกลายไปเป็นหน่วย KINGSMAN ในเวลาต่อมา

หลังจากที่ผู้กำกับอย่าง แมทธิว วอห์น ผู้กำกับคิงส์แมนทั้ง 2 ภาคได้พาเราไปรู้จัก คิงส์แมน หน่วยสืบราชการลับสุภาพบุรุษสุดเนี้ยบที่ไม่ขึ้นตรงต่อหน่วยงานใดๆ มีสำนักงานที่แอบซ่อนไว้ภายใต้ร้านตัดสูท ณ ถนนซาวิลล์ โรว์ ประเทศอังกฤษมาแล้วถึง 2 ภาค ทั้ง KINGSMAN: THE SECRET SERVICE’ 2015 ที่เน้นความหล่อเท่ และ KINGSMAN: THE GOLDEN CIRCLE 201 ที่แหวกแนวและเปี่ยมลูกบ้า และนี้คือความมันครั้งที่ 3 กับจุดกำเนิดโคตรพยัคฆ์คิงส์แมน ที่ต้องบอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด

ภาพยนต์แนว : Action, Adventure, Thriller
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Matthew Vaughn
บทภาพยนตร์ : Matthew Vaughn, Karl Gajdusek, Mark Millar
นักแสดง : Ralph Fiennes, Gemma Arterton, Rhys Ifans

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิวหนัง ผจนภัย แอ็คชั่น

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง Black Crab

รีวิวหนัง Black Crab เพื่อยุติสงครามวันสิ้นโลกและช่วยชีวิตลูกสาวของเธอ ทหารที่ไม่เต็มใจเริ่มทำภารกิจที่สิ้นหวัง ในการข้ามทะเลน้ำแข็งที่บรรทุกสินค้าลับสุดยอด ไปส่ง [ สปอยนิดๆ ]

รีวิวหนัง Black Crab เป็นเรื่องราวในช่วงสงครามโลกของทหารหญิงที่อับจนหนทางสุดๆ หลังจากที่นายพลใหญ่ๆ ต้องการให้ทหารหลายนายนำพัสดุลับบางอย่างไปส่งให้ในการทำสงคราม ในขณะที่ตอนแรกเธอปฏิเสธเพราะด้วยแส้นทางและสิ่งที่จะต้องเจอมันยากที่จะอยู่รอดได้ ก็คือแค่ออกเดินทางก็มีสิทธิ์ตายได้แล้ว แต่แล้วนายพลก็ส่งภาพลูกสาวของเธอที่อยู่ในสงครามนั้น ทำให้เธอต้องตัดสินใจออกเดินทางในที่สุด เวลาผ่านไปหลายปี เธอและทีมบางส่วนถูกเรียกเพื่อรับภารกิจให้นำเเคปซูลไปส่งยังเกาะเออเดอ เพื่อจบสิ้นสงครามครั้งนี้ โดยมีคำสั่งห้ามว่าห้ามเปิดมันเด็ดขาด จนกว่าจะส่งถึงมือทีมที่รออยู่ที่เกาะเเห่งนั้น แต่ปัญหาคือพวกเขาจะต้องสเก็ตข้ามทางทะเลไปไกลถึล 100 ไมล์ทะเล

ซึ่งทั้งหมดได้กลายเป็นน้ำแข็งในรอบ 37 ปี ซึ่งนี่คือภารกิจเสี่ยงตาย ที่มีศัตรูรายล้อมอยู่ทุกทิศ ทำให้พวกเขาต้องปฏิบัติภารกิจในการเดินทางเฉพาะช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น ในช่วงก่อนเริ่มต้นภารกิจ เอียดห์ ได้เสนอเเย้งไปว่านี่คือภารกิจฆ่าตัวตาย เเละเธอคิดว่าไม่มีทางทำสำเร็จ เพราะจำนวนคนที่มากกว่า อาวุธที่น้อยกว่า บวกกับระยะทางที่ไกลจนไม่รู้ว่าจะไปถึงเมื่อไหร่ แต่เเล้วเธอก็ต้องตัดสินใจไปอย่างไม่มีเงื่อนไข เพราะเธอได้รู้ว่ามีคนพบลูกสาวเธออยู่ที่เกาะ เออเดอ แห่งนั้นภารกิจเสี่ยงตายจึงเริ่ม ขึ้นท่ามกลางทะเลน้ำแข็งอันหนาวเย็นในชื่อปฏิบัติการ BLACK CRAB

BLACK CRAB คือหนังภารกิจลับทางการทหารที่เต็มไปด้วยสูตรสำเร็จเดิมๆ หนังเหมือนจะฟอร์มใหญ่ แต่เมื่อพิจารณาดูดีๆ ก็ไม่ใหญ่สักเท่าไหร่เพราะโฟกัสหลักๆ ที่กลุ่มทหารในภารกิจกับสถานการณ์ต่างๆ ของพวกเขาเพียงเท่านั้น ที่ช่วยเพิ่มความกดดันภายใต้เหตุการณ์ต่างๆได้ดี กลายเป็นการที่น่าติดตามและคอยลุ้นระทึกได้เรื่อยๆ ตลอดทั้งเรื่อง
ถือว่าเป็นภาพยนตร์จากสวีเดนอีกเรื่องของ NETFLIX ได้ผลตามเจตนารมณ์อย่างแน่นอน แม้ว่าบรรยากาศจะดูเหมือนโลกแห่งวันสิ้นโลก แต่แท้จริงแล้วมันคือผลของสงครามกลางเมือง ด้วยวิธีนี้ หนังทำให้เราเชื่อว่าสิ่งหลังจะนำไปสู่อดีตในที่สุด และแม้แต่สภาพอากาศก็ยังถูกใช้เป็นองค์ประกอบเฉพาะเรื่อง เพื่อเน้นความจริงที่ว่าโลกกลายเป็นเย็นชาและเฉยเมย เหมือนกับมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในโลก ถือว่าหนังตีความออกมาได้ดีจริงๆ [ เข้ากับบรรยากาศ รัสเซีย ยูเครน จริงๆ ] ด้านงานภาพถือว่าทำออกมาได้ อลังการ สวยงาม เเสงเเละโทนในหนังทำออกมาดีมากๆ รับชมได้แล้วบน NETFLIX

ประเภท :แอ็คชัน ผจญภัย
วันที่เข้าฉาย : 18/03/2022
กำกับโดย : NETFLIX
นักแสดงนำ : นูมิ ราพาส,อาเลียตต์ โอไพม์,เจค็อบ ออฟเทโบร,เดวิดเดนซิก,เอริก เองเก,ดาร์ ซาลิม,อาร์ดาลัน เอสไมลี

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิวหนัง แอ็คชัน ผจญภัย

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms