รีวิวซีรี่ส์ Dark desire

รีวิวซีรี่ส์ Dark desire ซีรี่ย์เรื่องนี้ที่ดูเหมือนว่า จะสร้างขึ้นมาเพื่อขาย SEX โดยเฉพาะ เพราะว่าทั้งเรื่องนั้น ก็จะมีมีฉากนี้จำนวนมาก แต่ว่าตัวเรื่องนั้นอาจจะไม่ใช่แบบที่ทุกคนคิด เพราะว่าเนื้อเรื่องของเขานั้นดีมาก เพราะรวมเอาแนวฮีโรติกทริลเลอร์ ที่นำบทมาโยกไปมาให้ผู้ชมนั้น เขวไปตามๆกัน อย่างเช่นคนจะสงสัยว่า อะไรจริงอะไรเท็จกันแน่ ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง [ สปอยนิดๆ ]

รีวิวซีรี่ส์ Dark desire สำหรับซีรี่ย์เรื่องนี้ไม่ใช่จะเป็นแค่ซีรี่ย์ SEX แต่ยังได้นำแนวดทริลเลอร์ มาเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากว่าการสืบสวนคดี ที่มีสาเหตุเกี่ยวกับคดีฆาตกรรม หญิงสาวคนหนึ่งที่ภายนอกอาจจะบอกว่า เธอฆ่าตัวตายแต่ถ้าสืบจริงๆแล้วนั้น มันไม่ใช่เลย เรื่องราวอยู่ในโลกความเป็นจริงที่เต็มไปด้วยกิเลสตัณหา

อัลม่า ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายสิทธิมนุษยชน ที่มีครอบครัวแสนอุ่น มีสามีเป็นผู้พิพากษาชื่อ ลีโอนาร์โด และลูกสาว โซอี้ แต่ใช่ว่าครอบครัวนี้จะสมบูรณ์แบบเมื่อวันหนึ่งปมปัญหาก็เกิดขึ้น อัลม่า เริ่มสงสัยในตัวสามีและคิดว่าเขาเป็นกิ๊กกับผู้ช่วยส่วนตัว บวกกับคำแนะนำจากเพื่อนที่โคตรดี ทำให้เธอตัดสินใจทำตามคำแนะนำของ เบรนด้า เพื่อนรักสุดเปรี้ยวที่เพิ่งจะเป็นม่ายด้วยการออกไปลั้ลลากับหนุ่มล่ำวัยละอ่อน เพื่อมีความสัมพันธ์แบบคืนเดียวเพื่อเอาคืนสามี แต่เรื่องราวกลับเลวร้ายขึ้นพวกเขาถลำลึก จนสถานการณ์พาทุกคนเข้าไปพัวพันกับคดีสะเทือนขวัญบางอย่าง ที่จะพาคนดูทั้งลุ้นและประสาทเสียไปในเวลาเดียวกัน

สำหรับใครที่อยากดูความ อีโรติก จุใจไม่ผิดหวังแน่นอน ซีรี่ส์เม็กซิโกนี้จะให้ความอีโรติกที่ปนอาชญากรรมด้วย มาไล่ไปทีละเรื่อง งานภาพ โทนและเสียงอันนี้ซีรี่ส์ชัดเจนตั้งแต่งานภาพและโทนมาเลยคือหม่นๆมัวๆ ซาวด์บิ้วแบบค่อยๆบิ้วได้อารมณ์มาก ใครดูคนเดียวจัดเสียงให้เต็มที่เลย การเล่าเรื่องนี้คือทีเด็ดของเรื่องนี้ตอนแรกแอดก็ไม่ได้รู้เรื่องไรหรอกคิดว่าแค่มีมือที่ 3 เข้ามาป่วนชีวิตครอบครัว แต่ไม่ใช่ซีรี่ส์ไปคนละทางเลย

การเดินเรื่องทำออกมาได้น่าติดตามมากจนมันจะค่อยๆซับซ้อนขึ้นเรื่อย และคลายไปทีละอย่างๆจบแต่ละตอนคือต้องร้องอะไรวะเนี้ย ตัวละครคิดว่าก็ธรรมดาๆไม่ได้ลึกอะไรแต่พอมันเล่าไปเรื่อยๆ มิติแต่ละตัวลึกมากตัวละครบางตัวที่คิดว่าไม่สำคัญมันดันสำคัญเฉย ยิ่งเราตามติดชีวิตมันเท่าไหร่ความซับซ้อนความลึกจะเพิ่มมากขึ้น มิติทำออกมาซับซ้อนแล้วน่าติดตามดีเลย คนอยากดูอะไรหล่อๆสวยๆอาจจะถูใจด้วย และได้ดูแบบจุใจแน้ และที่สำคัญมี SS2 ต่อด้วยนะ ดูได้แล้วบน NETFLIX

ประเภทแนว : ดราม่า ระทึกขวัญ
กำกับโดย : เปโดร พี. อีบาร์รา เคนยา มาร์เกซ
นักแสดงนำ : MAITE PERRONI เอริค เฮย์เซอร์ อเลฮานโดร สเปตเซอร์ มาเรีย เฟอร์นันดา เยเปส REGINA PAVÓN JORGE POZA

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวซีรี่ส์ One of Us Is Lying ใครโกหก

รีวิวซีรี่ส์ One of Us Is Lying ใครโกหก ถ้าหากคุณเป็นคนที่มีความชื่นชอบซีรีส์ลี้ลับ สืบสวนสอบสวน ซ่อนเงื่อน มีเงื่อนงำปริศนา ต้องนี้เลย One of Us Is Lying ใครโกหก  ซีรีส์สุดระทึกขวัญจากวรรณกรรมขายดี มีสื่อบันเทิงทั้งภาพยนตร์ และซีรีส์หลายเรื่องเลยทีเดียวที่หยิบยกนำเอาวรรณกรรมที่ได้รับความนิยมมาสร้างเป็นสื่อบันเทิงฉบับคนแสดง [ สปอยนิดๆ ]

รีวิวซีรี่ส์ One of Us Is Lying ใครโกหก เป็นเรื่องราวของเด็กวัยรุ่น 5 คนที่แต่ละคนล้วนมีความลับบางอย่างเป็นของตนเองปิดบังเอาไว้เพื่ออยากให้โลกได้ลืมมันไปให้หมด โดยที่จู่ ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้พวกเขาต้องมากักบริเวณร่วมกัน แต่เมื่อสิ้นสุดเวลาการทำโทษกลับมี 1 คนต้องจบชีวิต และอีก 4 คนที่รอด แต่การรอดของพวกเขานำพาไปสู่ความสงสัยที่ต้องถูกค้นหาความจริง
ไซมอน เด็กหัวโจกที่นิสัยไม่ค่อยดี ชายผู้ที่ดูเหมือนรู้ความลับคนอื่นไปทั่ว
บรอนวิน เด็กเนิร์ดที่ดูไม่มีพิษภัย และไม่เคยแหกกฎ สาวคนเก่งประจำห้อง
แอดดี้ หญิงสาวหน้าตาดีที่มีพร้อมทุกอย่าง
คูเปอร์ นักกีฬาเบสบอลที่เป็นดาวเด่น และโดดเด่นของโรงเรียนที่สุด นักกีฬาเบสบอลหุ่นล้ำ
เนท เพลย์บอยที่โดนทัณฑ์บนเรื่องค้าขายยาผิดกฎหมาย ผู้ไม่สนโลกและไม่เป็นที่คบหาของเพื่อนๆ

แต่เมื่อพวกเขามารวมตัวกันได้ไม่นาน ก็เกิดเรื่องราวที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตพวกเขา จากหน้ามือเป็นหลังเท้าได้เลย เมื่อมีใครบางคนเสียชีวิตในห้องที่พกเขากักบริเวณ และแน่นอนว่าทุกคนต่างคิดว่ามันจะต้องมีใครสักที่เป็นฆาตกรแน่ๆในกลุ่มนั้น และจากชีวิตหลังเท้าที่แย่อยู่แล้วก็เหมือนเดินไปเหยียบขี้หมาอีกต่างหาก เพราะพวกเขามีความลับที่เก็บไว้ไม่บอกใครอยู่ แต่ดันโดนเปิดเผยออกมาเรื่อยๆ พวกเขาจะต้องตามหาความจริงว่า ใครกันที่อยู่เบื่องหลังเรื่องนี้ หรือหนึ่งในพวกเขานั้นแหละที่เป็นฆาตกร

ต้องบอกเลยว่าเป็นซีรี่ส์ที่ดูได้แบบเพลินๆจริงๆไม่มีปัญหาอะไรเลย ซีรี่ส์เรื่องนี้มันมีการใช้หลายเฉดสี มาช่วยดึงภาพให้สวยแม้แต่ตอนกลางคืนก็ตามจัดแสงได้ดีมากๆ มุมกล้องดีเลย พวกซาวด์เพลงคือเพราะและโดนใจมากๆ อันนี้ต้องยกให้ทีมงานเลยละทำออกมาได้ดีมากๆ การเดินเรื่องเข้าใจได้ง่ายไม่สับสน ใช้เวลาในการจำชื่อคนในตอนแรกอยู่บ้างเพราะมันเยอะ แต่ไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้วเพราะว่าใครที่ชอบหนังแนวนี้คงความจำดีแน่นอน ถึงซีรี่ส์จะมีความซัพซ้อนซ้อนเงื่อนอยู่บ้าง เพราะแต่ละคนคือมีพิรุจหมดมันทำให้เราเกิดความอยากรู้อยากเห็นอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่ถึงขั้นกับซับซ้อนจนต้องคิดตามเยอะอะไรมาก ตัวละครมีมิติทุกตัวเลยระดับปานกลางไปจนมากเลยการตัดสินใจเป็นไปตามอารมณ์ของเด็กมัธยมอันนี้รับได้ไม่ถือว่าแย่อะไร การแสดงเนื่องจากเป็นนักแสดงที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเท่าไหร่เลย ตอนแรกก็แอบกลัวว่าจะแข็งไหม แต่แสดงดีมากธรรมชาติตามความเป็นเด็กมัธยมเลย หน้าตาทุกคนคือแสดงอารมณ์ได้เข้าใจเลยว่าพวกเขารู้สึกยังไง

สรุปคือเป็นอีกซีรี่ส์ที่ใครยังกักตัวกับโควิด [ ที่ไม่รู้ว่ามันจะหายไปจาดเราเมื่อไหร่ ] หรือว่างจากการทำงานแล้วอยากหาซีรี่ส์แนวสืบสวน ที่ดูแล้วอยากเป็นโคนัน ดูแบบเพลินๆเราขอแนะนำเลย เรื่องภาพและเสียงจัดเต็มมากเรื่องนี้ การเดินเรื่องไม่มีความซับซ้อนอะไรมากอยู่ในระดับปานกลาง เราจะรู้ไปพร้อมๆกับตัวละครไม่ต้องคิดอะไรมากมาย ตัวละครมีมิติทุกตัวเพราะมีพิรุทมีความลับเยอะกันหมด และจบแบบปูไปซีซั่น 2 แน้นอนดูได้แล้วบน NETFLIX

ซีรี่ส์แนว : ลึกลับ,ระทึกขวัญ
วันที่เข้าฉาย :18 ก.พ. 2565
นักแสดงนำ : ANNALISA COCHRANE , CHIBUIKEM UCHE , MARIANLY TEJADA , BARRETT CARNAHAN , COOPER VAN GROOTEL

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิวซีรี่ส์ ระทึกขวัญ

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว หนัง FEAR STREET PART III 1666 ถนนอาถรรพ์ 3

รีวิว หนัง FEAR STREET PART III 1666 ถนนอาถรรพ์ 3 ลบล้างคำสาป กับบทสรุปเรื่องราวสยองขวัญ Fear Street ที่จะพาคุณย้อนกลับไปยังปี 1666 บนแผ่นดินยูเนียน กับปริศนาของตำนาน ความสยดสยอง และ การสังหารหมู่ [สปอยนิดๆ]

รีวิว หนัง FEAR STREET PART III 1666 ถนนอาถรรพ์ 3 เซดี้ไซด์ เมืองเล็กๆเมืองหนึ่งในสหรัฐอเมริกา เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งนักฆ่าของสหรัฐ เมืองที่ฉาบไปด้วยกลิ่นอายของตำนานแม่มด ซาราห์ เฟียร์ ในปี 1994 หลังจากการเกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมในห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และร้านขายสินค้าของเมือง โดยนักฆ่าที่เกิดจากแรงอาฆาตของแม่มด ผู้รอดชีวิตคือ ดีน่า จอช ทั้งสองก็ต้องหาทางแก้อาถรรพ์คำสาปเพื่อที่จะไม่ให้ แซมกลายเป็นนักฆ่าคนต่อไป จึงไปที่บ้านของ ซินดี้ เบอร์แมน หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวที่รอดจากการฆาตกรรมในปี 1978 มาได้หลังจากที่ทุกคนสามารถสืบจนได้รู้ว่า ร่างกายและมือของแม่มด ซาร่าห์ เฟียร์ ฝังไว้ที่ไหนแล้ว ดีน่าก็จัดการนำมารวมกันเพื่อหาทางกำจัดและลบอาถรรพ์ กลับกลายเป็นว่าดีน่าได้เห็นนิมิตรบางอย่าง

ภาพในหัวเธอก็ย้อนกลับไปปี 1666 และดีน่าก็คือ ซาร่าห์ เฟียร์ เมื่อดีน่าได้รับรู้เรื่องราวในอดีต เธอกลับพบความจริงที่น่าสะพรึงเกี่ยวกับ พื้นที่ก่อนที่จะพัฒนาผ่านยุคสมัย ไม่ว่าจะกลายมาเป็นค่ายฤดูร้อนในปี 1978 หรือเปลี่ยนแปลงมาเป็นพื้นที่ธุรกิจอย่างห้างสรรพสินค้าในปี 1994 จริงๆแล้วอาณานิคมที่เป็นจุดเริ่มต้นของความเลวร้ายทั้งหมดนั้น ไม่ใช่แค่เพียง มนต์ดำและคำสาปเท่านั้น แต่มันมีวิวัฒนาการมาจากแนวคิดของคนในนิคม ที่เลือกจะจัดการกับคนที่มี พฤติกรรมและความคิดที่แตกต่าง ด้วยการใส่ความว่าพวกเธอเป็นแม่มด และเรื่องราวในปี 1666 นั้นจะเป็นอย่างไร อะไรคือความเครียดแค้นที่ทำให้แม่มด ซาร่าห์ เฟียร์ อาฆาตต้องไปติดตามกันนะครับ เดี่ยวจะหาว่าสปอย

ต้องบอกไว้เลยนะว่า นี้คือหนังไตรภาค FEAR STREET ที่ไม่ใช่แค่หนังสยองขวัญไล่ฆ่าแบบธรรมดาๆนะครับขอบอก เพราะว่าถ้าคนชอบหนังแนวนี้จะบอกว่ามันคลาสสิกดี เพราะว่าหนังใส่ประเด็นทางสังคมเข้ามาตลอด ทุกภาคอย่างแนบเนียนและกลมกลืน ซึ่งหนังจะนำพาผู้ชมย้อนกลับไปดูต้นตอของปัญหาทั้งหมดของคำสาป [ตอนสาปนั้นน่ากลัวมาก] ว่ามันน่ากลัวก็เพราะว่ามีคนพัฒนาความกลัวเหล่านั้นให้กลายเป็นแนวคิด และให้สืบทอดกันมาโดยที่คนในสังคมซึมซับมันจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วนั่นเอง [พวกอนุรักณ์นิยมที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่อดีต]

FEAR STREET PART 3 หนังสามารถนำเสนอต้นกำเนิดและจุดจบของเรื่องราวทั้งหมดออกมาได้อย่างค่อนข้างได้ดีและชัดเจน ทำให้ผู้ชมที่รับชมหนังมาอย่างยาวนานถึง3ภาค ได้รับการไขปริศนามากมายในใจ โดยไม่ทิ้งผู้ชมที่อุตส่าห์ตามดูมาอย่างยาวนานเอาไว้ข้างหลัง [ถือว่าไม่หักหลังคนดูเหมือนหนังบางประเทศแถวๆนี้] และสิ่งที่หนัง FEAR STREET ทั้ง 3 ภาคทำออกมาได้ประทับใจ คือมันเป็นหนังที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง [แอบยำหนังสยองหวีดหลายๆเรื่องไว้ด้วย] แน่นอนว่ามันเต็มไปด้วยการนองเลือด แต่ก็อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ไม่ได้ชวนแหวะจนเกินไป [ภาคนี้สงสารซาร่าห์ เฟียร์มาก]

สรุป FEAR STREET PART 3 1666 ถนนสายอาถรรพ์ 3 ถือว่าเป็นการปิดฉากภาพยนตร์ชุด FEAR STREET ถนนสายมรณะได้ดีมาก มีการเล่าเรื่องที่ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด แถมยังชาญฉลาดที่ให้จุดเริ่มต้นของเรื่องในปี 1994 มาปิดฉาก แล้วยังจบในแบบที่ไม่มีอะไรคาใจอีก ทั้งยังสามารถสอดแทรกเรื่องราวทางคติชนวิทยาและสัญลักษณ์ศาสนาเข้ามาได้แบบพอดี ถนนสายอาถรรพ์ถือว่าเป็นหนังไตรภาคที่สร้างขึ้นมาแบบให้การคาราวะหนังแนวหวีดเชือดสยอง ยุค 80S / 90S ที่ลงตัวและน่าจดจำไม่แพ้หนังไตรภาคบล็อกบัสเตอร์เรื่องอื่นเลย เอาเป็นว่าใครที่เบือๆกับโควิด เบื่อกับการเมือง อยากดูหนังไตรภาคแบบยาวๆแอดแนะนำเลยกับ FEAR STREET1.2.3 ดูได้แล้วบน Netflix

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว หนัง FEAR STREET PART II 1978 ถนนอาถรรพ์ 2

รีวิว หนัง FEAR STREET PART II 1978 ถนนอาถรรพ์ 2 หลังจากที่สยองกันมาแล้วกับภาคแรก มาสยองต่อกันเลย กับภาคสอง Fear Street Part II 1978 ถนนอาถรรพ์ ภาค 2 [สปอยนิดๆ]

รีวิว หนัง FEAR STREET PART II 1978 ถนนอาถรรพ์ 2 เรื่อราวต่อจากภาค1 เรื่องราวของ ดีน่า จอห์นสัน ที่ได้รับสายจาก ซีเบอร์แมน ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ที่เห็นแม่มดและรอดมาได้ หลังจากที่เธอโทรหาโดยเธออยากรู้ว่ามีวิธีที่จะช่วย แซม แฟนของเธอรอดจากแม่มดเข้าสิงได้ยังไง แต่เธอกลับได้คำตอบว่าไม่มีวิธีช่วยได้ นอกจากหนีให้ไกลและเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนในที่สุดเธอก็ยอมช่วยแล้วเธอจะมีวิธีช่วยยังไง ก่อนที่เรื่องราวของวันที่ 12 กรกฎาคม 1978 จะถูกบอกเล่าให้กับดีน่าและจอชได้ฟัง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Fear Street Part 2: 1978 คนดูจะได้ย้อนเวลากลับไปในปี 1978 ณ แคมป์กิจกรรมภาคฤดูร้อน ที่เหล่าเยาวชนจากเมือง เชดี้ไซส์ และ ซันนี่เวลล์ จะได้มาพักผ่อนทำกิจกรรมตลอดช่วงเวลาฤดูร้อน

แต่แล้วเริ่มมีเหตุการณ์ประหลาดก่อตัวขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์เกิดคุ้มคลั่งและทำร้าย ทอมมี่ [แมคคาเบ้ สไลด์] แฟนหนุ่มของ ซินดี้ เบอร์แมน [เอมิลี่ รัดด์] ด้วยเหตุผลที่ว่าเขากำลังจะต้องคำสาปร้ายและอย่างไรก็ตามเขาจะต้องถึงฆาตภายในคืนนี้ วินาทีแรกทุกคนเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวมีอาการประสาทหลอน โดยไม่รู้เลยว่าทุกอย่างที่กำลังจะเกิดตามมาคือความน่ากลัวเกินคาดคิดสำหรับ ซิกกี้ [เซดี้ ซิงค์] น้องสาวของซินดี้ ที่โดนกล่าวหาว่าเธอเป็นแม่มด เนื่องจากเธอเป็นผู้หญิงหัวขบถและหน้าตาวอนหาเรื่อง ทำให้เธอตกเป็นจำเลยสังคมอยู่บ่อยครั้ง และโดนบรรดาวัยรุ่นตัวแสบในค่ายแห่งนี้กลั่นแกล้งจนถึงขั้นทำร้ายร่างกาย

ภาค2นี้กับเหตุการณ์ในแคมป์ไนต์วิง เกิดอะไรขึ้นในปีนั้นเราจะได้รู้จักที่มาที่ไปของหลายตัวละครในภาคแรกไม่ว่าจะเป็น รูบี้ เลน หรือชายถือขวานที่สวมหน้ากากกระสอบ และเราจะได้รู้ว่า ซีเบอร์แมน รอดตายมาได้ยังไงแถมยังเข้าใกล้หญิงที่เป็นแม่มดในตำนาน ซาร่าห์ เฟียร์ ในภาคที่แล้วรวมทั้งตอนต้นเรื่องบทหนังเอ่ยชื่อ ซีเบอร์แมน ชื่อที่ไม่ได้ระบุว่าเป็นคนไหนในภาคนี้ เบอร์แมนก็มีสองคนซิกกี้และซินดี้ หนังอยากให้คนดูเดาเอาว่าจะเป็นคนไหนที่ตายคนไหนที่รอด [จริงๆก็พอเดาได้ละนะ] ภาคแรกมีข้อความที่บอกเล่าเรื่องแม่มด ในภาคนี้ก็เช่นกัน ในหนังสือของนางพยาบาลเลนมีทั้งตราแม่มดแผนที่ และข้อมูลเพิ่มเติมที่จะทำให้หนุ่มสาวเพื่อไขปริศนา

และทีน่าสนใจใน Fear street 1978 ได้มีการนำฉากสำคัญๆของหนังสยองขวัญหลายๆเรื่องเช่น Friday the 13th ศุกร์ 13 ฝันหวาน นักฆ่าถือขวาน ที่มีบุคลิกเหมือนเจสัน วอลฮีเลยทีเดียว,The Evil Dead 1981 ผีอมตะ ที่ในหนังทำให้เห็นในจุดที่นักฆ่าทั้งสองคือ ทอมมี่มือขวาน และรูบี้เลนมือมีดโกนขึ้นมาจาพื้นใต้ดิน,The Thing 1982 ไอ้ตัวเขมือบโลก ในหนังเขาทำให้เห็นว่ามีก้อนเนื้อขนาดใหญ่ภายในถ้ำกำลังฟักตัวจากนั้นก็มีสัตว์ประหลาด ออกมาจากก้อนเนื้อนั้นแล้วก็จะค่อยๆกลายร่างเป็นนักฆ่าคนหนึ่ง และ Halloween ซึ่งใน 1978 มีตัวละครนักฆ่าสวมหน้ากากเดินถือมีดไล่แทงคน บุคคลิกเดียวกับ ไมเคิล ไมเยอส์ [เกือบจะเป็นมหกรรมยำหนังหวีดกันเลยทีเดียว]

สรุปว่า Fear Street Part II 1978 ถนนอาถรรพ์ ภาค 2 เป็นการถูกเล่าตั้งแต่ในภาคแรก แต่ตัวหนังก็ทำให้เราติดตามได้ตลอดทั้งเรื่อง ด้วยการกระจายบทสร้างปริศนา และกระจายการตายได้อย่างเหมาะสมทั้งเรื่อง ไม่โฟกัสที่จุดเดียวแบบภาค1ภาคนี้เรียกว่าทำออกมาได้ดีมากๆ ฉากหนังเซ็ตอยู่บนฉากฆาตกรรมแบบคลาสสิกของหนังแนวหนังเชือดสยองเลย เรื่องเกิดต้นยุค 80 ในค่ายฤดูร้อน เต็มไปด้วยวัยรุ่นมีฉากโป๊นิดๆ เคล้ายด้วยเสียงเพลงในยุคนั้น มันเลยพอเหมาะพอเจาะมากๆ เอาเป็นว่าใครที่เบื่อกับโควิดการเมือง อยาดูหนังเพื่อผ่อนคลายแอดแนะนำเลยกับเรื่องนี้ดูได้แล้วบน Netflix

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว หนัง FEAR STREET PART I 1994 ถนนอาถรรพ์

รีวิว หนัง Fear Street Part I 1994 ถนนอาถรรพ์ Fear Street หนังไตรภาคระทึกขวัญ สยองขวัญ จาก Netflix ที่ดัดแปลงมาจากนิยายของ R.L.Stine muj ทำออกมาด้วยกัน 3 ภาค 3 เรื่อง 3 เหตุการณ์ 3 ปีที่ช่วงเวลาแตกต่างกัน และนี้คือเหตุการณ์แรก [ สปอยนิดๆ ]

รีวิว หนัง Fear Street Part I 1994 ถนนอาถรรพ์ ภาค1 เรื่องราวของ ดีน่า จอห์นสัน นักเรียนโรงเรียน เชดี้ไซด์ ที่อยู่ในเมืองเล็กๆในอเมริกาที่ติดกับ ซันนี่เวล ที่ได้ชื่อว่าเป็นชุมชนที่ปลอดภัยและมั่งคั่งที่สุดแห่งหนึ่ง แต่หลังจากที่เกิดประวัติอันสยดสยอง จึงถูกตั้งฉายาว่าเมืองแห่งนักฆ่าของสหรัฐโดยเธอพร้อมกับ แซม แฟนของเธอ,เคต สาวเชียร์ที่รับจ้างเลี้ยงเด็กเพื่อนของเธอและ ไซม่อน น้องชายของ เคต รวมถึง จอช น้องชายของเธอ ต้องเข้าไปพัวพันกับแม่มด ซาร่าห์ เฟียร์ จนถูกฆาตกรสวมหน้ากากผีไล่ฆ่า หลังจากแซมได้รับอุบัติเหตุและบังเอิญไปรบกวนหลุมฝังศพของเธอเข้า โดยมีเป้าหมายคือเลือดของแซม พวกเขาจึงต้องช่วยกันหาวิธีหยุดยั้งแม่มดพร้อมกับการเอาชีวิตรอดจากฆาตกรที่ถูกแม่มดเข้าสิง 

หนังเล่าเรื่องโดยการฉายถึงเหตุสังหารหมู่ฆาตกรรมนองเลือดแปดศพในห้าง เชดี้ไซด์มอลล์ ซึ่งสถานที่ บรรยากาศทำได้น่าสนใจดีและฆาตกรสวมหน้ากากผีก็เป็นคนรู้จักกัน แต่มีอาการเหมือนถูกบางอย่างควบคุม ก่อนตัดเข้าเรื่องฉายถึงข่าวเหตุสังหารหมู่ในช่วงเปิดเรื่องและศพรายอื่นๆ ที่พบในบ้านใกล้ เชดี้ไซด์ รวมทั้งมีพูดถึงแม่มด ซาร่าห์ เฟียร์ ที่ถูกสาปและเข้าสิงคน ซึ่งเป็นจุดสำคัญของเรื่อง จากนั้นก็ฉายตัวละครหลักที่ได้รู้ข่าวเกี่ยวกับเหตุฆาตกรรม โดยช่วงแรกจะเป็นการปูเรื่องราวของตัวละครหลักที่ค่อนข้างเยอะไปหน่อย [ก็นะเพราะว่านี้คือภาคแรก]

โดยดำเนินเรื่องด้วยกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลักและมีฆาตกรตามไล่ฆ่า ซึ่งก็มีฉากโหดๆบ้าง หนังมีช่วงที่น่าเบื่อบ้างแต่ไม่มากและมีช่วงที่ให้ลุ้นระทึกบ้าง โดยจะค่อยๆเปิดเผยเรื่องราวของฆาตกรทีละน้อยๆ ซึ่งฆาตกรจะเกิดขึ้นซ้ำๆกันหลายปี จึงมีหลายคนและมาในหลากหลายรูปแบบที่ดูน่าสนใจดีโดยช่วงท้ายๆ จะเป็นช่วงที่ตัวละครต้องหาวิธีแก้และเล่นงานฆาตกร ซึ่งหนังก็ได้วนกลับมายังสถานที่ที่ให้บรรยากาศในช่วงเปิดเรื่องอีกครั้งและก่อนจบก็ได้ทิ้งท้ายไปสู่ภาคต่อ [แค่อ่านก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว]

ตัวหนังทำออกมาให้อารมณ์แบบหนัง Slasher ประมาณหนังฆาตกรไล่เชือดทั้งหลายอย่าง Halloween, Nightmare On Elm Street ผสมกับหนังวัยรุ่นออกทำภารกิจแนวย้อนยุคอย่าง Stranger things ในส่วนของเนื้อเรื่องราบเรียบเป็นเส้นตรงดีไม่ทำให้งง ฉากฆาตกรที่โผล่มาแต่ละฉากทำให้ระทึกขวัญและลุ้นไปกับหนังด้วย และฉากเอาตัวรอดต่างๆทำให้เรามีลุ้นตามได้ตลอดเลยละ และเพิ่มความน่าสนใจและน่าติดตามไปด้วย โครงเรื่องใช้ได้กับเหตุการณ์นองเลือด ส่วนนักแสดงทำออกมาได้ดีในทุกๆฉาก แม้แต่ในฉากที่ฆาตกรที่โผล่ออกมา[แบบตุ้งแช้ด้วย]

หนังสนุกกว่าที่คิดไว้เยอะ เป็นหนังที่ทำออกมาดูง่ายและน่าติดตาม ลำดับเหตุการณ์ตรงไปตรงมา ด้วยเซ็ตติ้งของเรื่องที่เป็นเมืองทั้งเมือง เป็นที่เปิดตัวหนังเลยมีความผจญภัยนิดๆติดมาด้วย เป็นหนังไล่เชือดที่ไม่ได้กดดันมาก สนุกและมีอีสเตอร์เอ้กจากหนังดังเรื่องอื่นๆด้วย บทบาทของฆาตรกรรวมถึงพาร์ทไล่ล่าในเรื่อง ฉากฆ่าฟันทำออกมาได้ดี ดูแล้วเสียวท้องเลยละ สำหรับคนที่ชื่นชอบหนังแนวสยองขวัญ ใครที่เบื่อๆกับโควิดเหตุบ้านการเมือ อยากหาหนังดูช่วงโควิดแอดแนะนำเลยครับไม่ผิดหวังแน้นอน ถือว่าดูได้ไม่ซีเรียสดูเพลินๆ[หรือจะซีเรียสเพิ่มก็ไม่รู้]

FEAR STREET PART I 1994 ถนนอาถรรพ์ เป็นภาพยนตร์ที่กำกับโดย Leigh Janiak โดยมี Phil Graziadei และ Janiak ร่วมเขียนบท จากเรื่องดั้งเดิมโดย Kyle Killen, Graziadei และ Janiak จากซีรีส์หนังสือชื่อเดียวกันโดย R. L. Stine.นำแสดงโดย Kiana Madeira, Olivia Scott Welch และ Benjamin Flores Jr.ดูได้แล้วนะครับบน Netflix   

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว ซีรี่ส์ The Protector ผู้พิทักษ์คนสุดท้าย

รีวิว ซีรี่ส์ The Protector ผู้พิทักษ์คนสุดท้าย ซีรี่ส์เเอ็คชั่น​ดรามา​เเฟนตาซี จากตุรกีของชายธรรมดา ที่ค้นพบโชคชะตาของตัวเองและกลายเป็นวีรบุรุษในแบบที่ฟ้าประทาน [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว ซีรี่ส์ The Protector ผู้พิทักษ์คนสุดท้าย ฮาคาน พยายามเปิดธุรกิจของตัวเอง เพื่อที่จะรวยล้นฟ้าและไม่ต้องการดูแลร้านขายของเก่าโบราณต่อจากพ่อ แต่ฮาคาน กลับพบว่าตัวเองเป็นผู้พิทักษ์ที่ถูกเลือก และมีชะตากรรมให้ปกป้องเมืองอิสตันบูลจากสิ่งชั่วร้าย ฮาคาน เป็นเพียงชายธรรมดาๆ ที่ห่างไกลจากคำว่าฮีโร่ เขาอาศัยอยู่ในเมืองที่มีประชากร 15 ล้านคน เป็นจุดบรรจบของวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก แต่ในที่สุดเขาก็ได้รู้ว่าบ้านเกิดแห่งนี้กำลังตกอยู่ในอันตรายจากสิ่งชั่วร้าย และเขาได้รับหน้าที่ให้ปกป้องเมืองนี้ ที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งเขาเองก็ไม่อยากรับหน้าที่นี้ซักเท่าไหร่ แล้วฮาคานจะทำตามโชคชะตาในฐานะผู้พิทักษ์คนสุดท้ายได้หรือไม่

เรื่องนี้เป็นซีรีส์ของตุรกี แนวพระเอกมีพลังวิเศษที่ต้องกู้โลก ถึงแม้ว่าพลังวิเศษของพระเอกไม่ได้เหนือมนุษย์อะไรขนาดนั้น แต่สิ่งที่ทำให้สนุกก็คือ เรื่องราวของตัวละครแต่ละตัว ที่มาที่ไปตั้งแต่อดีต ซึ่งพอมาบรรจบกันแล้วสนุกลงตัวดี อาจจะเน้นดราม่ามากกว่าบู๊หน่อย

และสิ่งที่น่าชื่นชมคือนักเเสดงที่เลือกมาดีนะ พระเอกก็หล่อมาก นางเอกก็น่ารักมาก เเล้วก็เรื่องการเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับปูมหลังของตัวละครที่ทำได้น่าสนใจมาก เเละงานภาพวิวทิวทัศน์ของเมืองอิสตันบูลที่ชวนให้เราอยากไปที่นู่นมาก รวมเเล้วเเม้ว่าจะมีจุดที่ขัดใจอยู่ไม่น้อย แค่นิดหน่อย

ในส่วนของโทนหนัง ที่เปลี่ยนเเนวไปเรื่อยๆเลยทำให้ดูสนุก เข้มข้นเเละน่าติดตามไปจนจบ ส่วนดรามาทำออกมาได้ค่อนข้างดีและถึงอารมณ์ ดนตรีประกอบเพราะดี เเสดงความเป็นตุรกีได้ดี งานสร้างเเละการถ่ายทำก็ถ่ายได้สวยเเล้วก็ทำให้ซีรีส์นี้ทวีคูณความน่าสนใจ นักเเสดงเล่นดี [นางเอกน่ารักมากอีกแล้ว] ฉากเเอ็คชั่นมันส์ดี ชีรี่ส์มีทิ้งปมไว้รอซีซั่นต่อไป [ ซีซั่นที่2 ที่มีการยืนยันเเล้วว่ามาเเน่ ]

ซีรีส์จากNetflix ที่คล้ายหนังขุนพันธ์ของไทย แต่นี้คือฉบับตุรกี ความยาว: 40 นาทีต่อตอน [10 ตอน] ซีรีส์เเอ็คชั่นดรามาเเฟนตาซีเรื่องใหม่จากตุรกี ที่ในตอนนี้ิมีการยืนยันเรียบร้อยเเล้วว่าจะมี2 ซีซั่นครับ รับชมได้แล้ว บน Netflix พร้อมกันทั่วโลก

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว NETFLIX

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว ซีรี่ส์ Goedam ผีบ้าน ผีเมือง

รีวิว ซีรี่ส์ Goedam ผีบ้าน ผีเมือง ซีรี่ส์เรื่องสั้นสยองขวัญจากเกาหลี สยองสั้นกระชับหลอนจัดหมาหอนกันเลย [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว ซีรี่ส์ Goedam ผีบ้าน ผีเมือง เป็นซีรีส์แนวผีๆ ของทางเกาหลีครับ ลงฉายในสตรีมมิ่งอย่าง Netflix มาในรูปแบบของเรื่องสั้นเป็นตอนๆไป เฉลี่ยอยู่ที่ตอนละประมาณ 8-10 นาทีเท่านั้น โกดัม นี้ก็เป็นภาษาเกาหลีที่แปลว่า เรื่องเล่าเกี่ยวกับผี และเน็ตฟลิกซ์ไทยก็แปลมาว่าผีบ้าน ผีเมือง นั่นเอง และซีรีส์สั้นฉบับที่ลงในเน็ตฟลิกซ์นี้ก็มีความยาว 8 ตอน แต่ละตอนจบในตัวด้วย ก็เรียกว่าคัดมาแบบเน้น ๆ เข้าประเด็นกันไวเลยทีเดียว

ด้วยความยาวที่ว่ามาทำให้ผู้สร้างเน้นไปที่การปูเรื่องแล้วพาเข้าฉากสยองให้ไวที่สุด ความรวบรัดนั้นทำให้หนังแต่ละตอนดูวูบวาบมากด้วยจังหวะการเล่า และภาพความสยองที่รุนแรงจัด ๆ อย่างผีที่ร่างโชกเลือด ตัวบิดเบี้ยว หรือร่างกายอวัยวะขาดจากกัน คือสะใจสายโหด สายไม่เยิ่นเย้อเลย แถมนักแสดงส่วนใหญ่ก็หล่อสวยหน้าตาดีเจริญหูเจริญตาตามสไตล์เกาหลีด้วย

ในแต่ละตอนก็จะมีผีออกมาแตกต่างกันไป ซึ่งก็เหมือนกับตำนานเรื่องผีที่เล่าต่อๆ กันมาในหลายๆ ประเทศนั่นแหละครับ มีทั้งเรื่องในโรงเรียน ผีลิฟท์ ผีแท็กซี่ ผีธรณีประตู ผีคนทรง ไปจนกระทั่ง ผีโซเชียลยังมีเลย

สำหรับแต่ละตอนก็มีความน่าสนใจและคล้ายตำนานเมือง เรื่องเล่าผีที่คล้ายๆ กันในประเทศฝั่งตะวันออก อย่างตอนแรกที่ว่าด้วยเรื่องของนักเรียนหญิงที่นั่งหลังโต๊ะเพื่อนที่เสียชีวิตทำให้รู้สึกไม่สบายใจ เวลามองที่ดอกไม้ไว้อาลัยที่อยู่บนโต๊ะตัวหน้า เธอเลยขอตัวไปห้องน้ำ แล้วจากนั้นห้องข้างๆ ก็มีเสียงประหลาด หรือตอนเรื่องของเด็กผู้หญิงที่ฆ่าตัวตายโดยกระโดดให้รถทับจนตัวขาด แล้วกลายเป็นเรื่องหวาดผวาของเพื่อนร่วมชั้น ก็มีความคุ้น ๆ เรื่องเล่าที่เคยได้ยินมา แต่มีรายละเอียดและความน่ากลัวด้านภาพเสริมจนเหวอไปเลยเวลาดู

ขณะเดียวกันสิ่งที่ต้องหายไปเพื่อให้เรื่องรวบรัด แต่ก็ดูเป็นความจงใจของการเล่าเรื่องคือ คำอธิบาย ในแต่ละตอนนั่นเอง บางตอนคนดูพออนุมานได้ว่าทำไมตัวละครนี้จึงต้องเผชิญเรื่องนี้ หรือผีตนนี้ทำไมต้องอาฆาตรุนแรงนัก แต่หลายๆตอนก็ปล่อยว่างเป็นพื้นที่สุญญากาศที่ให้จินตนาการผู้ชมหาเหตุผลเอาเอง

ทั้งนี้ก็ทิ้งคำใบ้นิดๆ หน่อยๆ ไว้ในตอนอื่น ๆ พอให้เชื่อมได้ว่าทุกเรื่องอยู่ในจักรวาลเดียวกัน หรือบางครั้งก็อยู่ในพื้นที่เดียวกันนั่นเอง ต้องขอบอกนะว่าหนังเรื่องนี้เป็นแค่ตอนสั่นๆ เท่านั้นซึ่งถ้าหากท่านดูแบบเผลินๆ ก็อาจจะมีงงบ้างสักหน่อยกับการที่ไม่มีที่ไปที่มาของเรื่อง สำหรับแต่ละตอน

เป็นซีรีส์แนวผีๆ ของทางเกาหลี ลงฉายในสตรีมมิ่งอย่าง Netflix มาในรูปแบบของเรื่องสั้นเป็นตอนๆ  ถ้าอยู่บ้านว่างๆ อยากหาอะไรหลอนๆ ดู แอดแนะนำเลย เรื่องนี้หลอนเข้าตาแน่ๆ และอย่างที่บอกว่ามันเป็นซีรี่ส์สั้น แอดใช้เวลาดูทั้งหมด 8 ตอนรวบยอดเลยไม่ถึงชั่วโมงครึ่งเลยครับ ลองหาดูกันครับ ซีรีส์ผีเกาหลี ที่ Netflix

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix 

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว ซีรีส์ เกาหลี Blood เทพบุตรแวมไพร์

รีวิว ซีรีส์ เกาหลี Blood เทพบุตรแวมไพร์ ซีรีส์เรื่องนี้แนวแวมไพร์พระเอกหน้าหล่อนิสัยเย็นชา มีจำนวนตอน 20 ตอน และมี 1 ซีซัน เรื่องนี้อยากจะบอกว่ามันสนุกมาก ส่วนตัวชอบแนวแวมไพร์อยู่แล้ว [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว ซีรีส์ เกาหลี Blood เทพบุตรแวมไพร์ พระเอกของเรื่อง พัคจีซัง  เป็นแวมไพร์ ที่เกิดจากพ่อแม่ซึ่งเป็นแวมไพร์เช่นกัน แต่ทั้งพ่อและแม่กลับถูกฆาตกรรม ทำให้เขาต้องการสืบว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังการตายนี้ รวมถึงหาวิธีแก้ไขให้ตัวเองกลับเป็นมนุษย์ปกติ โดยใช้ชีวิตแผงตัวปะปนอยู่กับมนุษย์ด้วยการเป็นศัลยแพทย์ผู้เก่งกาจ และได้เข้าทำงานที่ รพ.แทมิน และได้พบกับหมอ ยูริต้า ที่ยิ่งทำงานด้วยกันนานวันก็เหมือนจะยิ่งได้รู้ถึงความลับของตัวเขา รวมถึงเกิดความสัมพันธ์ระหว่างกันขึ้น รวมถึง ผอ.อีแจอุค ที่เป็นบุคคลน่าสงสัย และดูเหมือนจะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการตายของพ่อแม่เขา

เรื่องนี้เกริ่นเรื่องราวของพระเอกนานไปนิด ใช้เวลาเกือบ 2 ตอน กว่าจะเข้าใจว่าพระเอกเป็นมายังไง เกือบจะหมดสนุกกันทีเดียว แต่ความน่าติดตามมันทำให้ยังดูต่อไง แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย ดารานักแสดงทุกคนเล่นดีมาก โดยเฉพาะป๋าจีจินฮี ที่พลิกคาแร็กเตอร์มารับบทร้ายเป็นครั้งแรก ดูทรงพลัง ดูน่ากลัว และภายใต้รอยยิ้มนั้นมันเหมือนแอปเปิลอาบยาพิษชัดๆ

ส่วนคู่พระนางเราจะได้เห็นตั้งแต่เกลียดขี้หน้ากัน จนมาเกิดเป็นความรักซะอย่างนั้น ช่างน่ารักไรแบบนี้ แวมไพร์ที่แสนเย็นชาก็ดูจะอบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ เวลาจีบกันนี่แบบฟินไป นางมีความยิ้มอ่อน ค่อยๆหว่านสเน่ห์แบบตั้งตัวกันไม่ทันเลยทีเดียว

เนื้อเรื่อง ดูแบบลุ้น ว่าจะหาทางแก้ไขไวรัสได้มั้ย พระเอกจะหลุดโหมดแวมไพร์อยากกินเลือดเมื่อไหร่ รวมถึงมีพลิกล็อกเนื้อเรื่องเบาๆ คือหลอกคนดูมาครึ่งค่อนเรื่อง คือเรื่องสนุกมาก แต่ตอนจบค้างๆไปหน่อย เหมือนให้เราไปมโนต่อกันเองว่ายังไง แต่ด้วยความที่ชีวิตจริงรักกันนอกจอนี้รู้สึกเหมือน Happy Ending จะให้อภัยกับตอนจบก็แล้วกัน ก็ชอบทั้งคู่เลยนี่นา [ ถูกใจเจ้ข้างบ้านเขาละ ]

เรื่องนี้นอกจากจะแนวแวมไพร์ รักโรแมนติกแล้วยังมีดราม่าด้วยคือส่วนที่โรแมนติกก็ฟินจิกหมอนขาด ส่วนที่ดราม่าก็ดราม่าหนักมาก ร้องไห้อย่างกับเขื่อนแตกกันเลยทีเดียว พระเอกหล่อมาก หมอที่เป็นแวมไพร์ หื้อพ่อคุณ[ หล่อเกินหน้าเกินตาแอด ] ได้ไงง ทีแรกก็งง เอ้าได้หรอ พอเปิดดูตอนแรกครั้งแรก อ่ะให้อภัยเพราะนางเอกสวยมากอะนะ เนื้อหาแบบดีงามมากอ่ะ แค่ตอนแรกก็น้ำตาตกแล้ว ลุ้นมาก บีบหัวใจที่สุด แบบชอบอ่ะใครชอบแนวเลือดจริงผ่าตัดให้เห็นจริงๆยิ่งแนะนำให้ดูเลย ซีซัน1จำนวนตอน 20 ตอน netflix

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ซีรี่ส์ เกาหลี

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว หนัง Howling Village อุโมงค์ ผีดุ

รีวิว หนัง Howling Village อุโมงค์ ผีดุ ผลงานกำกับของ ผู้กำกับหนังสยองขวัญอย่าง Ju-On และ Howling Village อุโมงค์ผีดุ ซึ่งอ้างอิงจาก อุโมงอินุนาคิ และสร้างความสะพรึงต่อชาวญี่ปุ่นจนคว้าอันดับ 1 BOX OFFICE ประเทศญี่ปุ่น [ สปอยนิดๆ ]

รีวิว หนัง Howling Village อุโมงค์ ผีดุ หนังว่าด้วยเรื่องราวเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นรอบตัวนักจิตวิทยาสาวโมริตะ คานาเดะ มี ตั้งแต่ผู้หญิงร้องเพลงเด็กพี่น้องสูญหายและปริศนาการตายต่อเนื่องที่ไม่ทราบสาเหตุเธอฉุกคิดได้ว่าทุกคนในนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุโมงค์ อินุนากิ ที่ถูกสาป คานาเดะ มุ่งไปยังอุโมงค์เพื่อตามหาความจริง

“ยูมะ” และ “อากินะ” แฟนสาวของเขา ได้เผลอรับโทรศัพท์ปริศนาที่ตู้สาธารณะ แล้วลองเข้าไปยังอุโมงค์ อินุนากิ เพื่อเล่นกิจกรรม “ทดสอบความกล้า” ซึ่งพวกเขาเกือบจะถูกฆ่าตายและดูเหมือนว่า อากินะ จะเสียสติไปแล้ว ยูมะ ได้ปรึกษากับน้องสาว “คานาเดะ โมริตะ”  จิตแพทย์ที่มีสัมผัสที่หก เพื่อหาสาเหตุของอาการของ อากินะ หลังจากนั้นไม่นาน อากินะ ก็ฆ่าตัวตาย ทำให้ยูมะได้พาพรรคพวกกลับไปที่นั่นอีกครั้ง เพื่อหาความจริง แต่เพื่อนของเขาก็เสียชีวิตอย่างลึกลับ ในตู้โทรศัพท์ใกล้หมู่บ้าน ซึ่งตั้งอยู่นอกอุโมงค์

เมื่อยิ่งสืบ ก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวของหมู่บ้านนี้ชัดเจนขึ้น มันมีเหตุบางอย่างที่ทำให้หมู่บ้านนี้ และอุโมงค์ปริศนายังคงอยู่ คานาเดะ ก็เริ่มที่จะตระหนักดีว่าบรรพบุรุษของเธอ ก็อาจเป็นสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวก็เป็นได้

อุโมงค์อินุนากิ ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุกุโอกะ ที่นี่ถูกสร้างในช่วงปี 1886 และสร้างเสร็จในปี 1949 แต่ด้วยความที่อุโมงค์นี้ตั้งในป่าลึก และวังเวง ทำให้รัฐบาลได้สร้าง “อุโมงค์ใหม่ อินุนาคิ” เพื่อทดแทน ส่วนอุมฌงค์เก่านั้นถูกปิดตาย และกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมของเหล่ากุ๊ย นักซิ่งแว้น และยากูซ่า ที่มักจะเอาศพคู่อริมาทิ้งหมกไว้ที่นี่ และยังเป็นหนึ่งในที่ๆยอดฮิตในการฆ่าตัวตาย คดีฆาตกรรม

สรุปโดยภาพรวมแล้ว Howling Village อุโมงค์ผีดุ จึงเป็นภาพยนตร์ที่ทำออกมาได้ เกือบดี ภาพรวมนั้นเล่าเรื่องได้น่าสนใจ มีการผูกเงื่อนงำให้ชวนน่าติดตาม มีจังหวะจะโคนความหลอนและตกใจที่ดีงามชวนขนลุก แต่มีปัญหาในตอนจบที่รู้สึกว่าเล่นใหญ่ไปหน่อย และมีช่องโหว่อยู่บางจุด โปรดัคชั่นโดยภาพรวมนั้นทำได้โอเค ไม่ได้เน้นความล้ำมากมาย แต่ก็นำเสนอภาพด้วยเทคนิค

พิเศษสเปเชียลเอฟเฟ็คพื้นฐานได้อย่างดี สมจริง เพลงประกอบก็หลอนใช้ได้ ใครเป็นคอหนังผีญี่ปุ่น ชอบงานของผู้กำกับหนังผีจูออน ชอบฟีลหนังผีญี่ปุ่นหมู่บ้านหลอนๆ ไม่ผิดหวังแน้นอน แอดขอบอก

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว หนัง GHOSTS OF WAR โคตรผีดุแดนสงคราม

หลอกแล้ว หลอกอีก เมื่อทหารสงครามโลก ติดกับดักบ้านผีสิง [ ไม่สอยเท่าไหร่ ]

รีวิว หนัง GHOSTS OF WAR โคตรผีดุแดนสงคราม ปี 1944 ในช่วงที่การสู้รบระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตร และนาซีกำลังถึงจุดสิ้นสุด ทหารอเมริกัน 5 นาย ได้รับภารกิจปกป้องคฤหาสน์เก่าแก่แห่งหนึ่งในฝรั่งเศสจากการโจมตีของนาซีเยอรมัน แต่พวกเขาต้องเจอกับเหตุการณ์ลึกลับ ชวนขวัญผวาที่พัวพันกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติ และการหลอกหลอนของคฤหาสน์หลังนี้ ก็เรียกได้ว่า จัดเต็มมาตั้งแต่ เสียง ร่องรอยปริศนาที่ชวนจินตนาการความโหดร้ายที่เคยบังเกิด การผลุบ ๆ โผล่ ๆ ของวิญญาณ ภาพถ่ายสุดหลอนของครอบครัวเจ้าบ้าน รวมถึงมุกการหลอกที่อาจไม่แปลกจากหนังผีที่เคยชม แต่ก็ได้ผลในการดึงความสนใจเราได้ตามสูตรสำเร็จอยู่ดี ว่าเงื่อนไขการหนีตายเอาชีวิตรอดจากคำสาปเหล่านี้ แท้จริงคืออะไรกันแน่?

GHOSTS OF WAR เป็นหนังเซอไพรส์ที่สุด ที่ดูจบแล้วอึ้งไปพักหนึ่ง ว่าเราควรจะรู้สึกยังไงกับหนังเรื่องนี้ดี เพราะมันเซอไพรส์สุดๆ และอึ้งกับตอนจบ เป็นหนังสยองขวัญที่มีจังหวะ Jump Scare หรือ ผีตุ้งแช่เยอะมากๆ ทั้งมาแบบแอบๆ หลอนๆ และมาแบบให้ตกใจเลยจริงๆก็มี แต่มันดันมีบางฉากที่รู้สึกว่า หนังมันทำให้ขำมากกว่า ซึ่งส่วนตัวแล้วแอดรู้สึกว่ามันไม่ใช่จุดพลาด แบบตั้งใจให้กลัวแต่ดันขำ คือ มันขำจริงๆ และได้อารมณ์ล้อหนังสยองขวัญด้วยหน่อยๆ แต่ในขณะเดียวกันตัวหนังเอง ก็เป็นหนังสยองขวัญด้วย ทำให้บางช่วงรู้สึกแปลกๆ ว่าจะให้กลัวหรือจะให้ขำ แอบรู้สึกมันมีความอาร์ทเบา ๆ

เป็นหนังผีที่พล็อตเรื่องโคตรล้ำ คาคเดาไม่ได้ ผีก็แบบน่ากลัวพอใช้ได้เลย ฉากตุ้งแช่ค่อยข้างเยอะพอสมควร แถมได้ผลเกือบจะทุกอย่าง ทำคนดูสะดุ้งกันเป็นแถว แล้วยิ่งบวกไปกับบรรยากาศหนังที่เล่าย้อนไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ทหาร 5 นาย ต้องปกป้องคฤหาสน์ร้าง ยิ่งทำให้หนังดูขนลุกขึ้นไปอีก ฉากต่างๆของหนังก็ทำได้ดีสามารถพาคนดูย้อนไปเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ช่วงนั้นได้เลย แต่เอาจริงๆแล้วเนื้อเรื่องของหนังไม่ค่อยมีอะไรเลย ชอบในความที่หนังทำออกมาให้คาคเดาไม่ได้เนี้ยล่ะ เป็นหนังผีที่เยี่ยมเลย นอกจากนั้นยังมีมุกตลกแทรกมาในหนังด้วย เพื่อไม่ให้คนดูกลัวผีจนเกินไป

หนังเต็มไปด้วยปริศนาหลายอย่าง ที่ทำให้เราอยากรู้ และสงสัยเพิ่มมากขึ้น ก่อนจะเฉลยด้วยฉากจบที่อาร์ทที่สุดแห่งปี จนเครดิตขึ้นแล้วเรายังนั่งนิ่ง ๆ ไปอีกพักใหญ่ๆ เชื่อว่าถ้าบางคนไม่ชอบ ก็อาจจะเกลียดไปเลย แต่ส่วนตัวแอดเฉยๆนะ แอดว่ามันก็แนวดี เพราะ GHOSTS OF WAR ก็เดินเรื่องมาแบบกลางๆ ดูเพลินๆ น่ากลัวบ้าง ขำบ้าง มาตลอดทั้งเรื่อง จะจบแบบแหกขนบไปบ้างก็น่าจดจำดี ว่ามีคนกล้าทำแบบนี้ด้วย

นี่เป็นหนังสงครามแบบสยองขวัญที่มีความไม่ดาดดื่น ได้ทั้งบันเทิงแบบตลาด ๆ และข้อคิดแบบเหนือ ๆ ใครชอบความท้าทายและการหักมุมแบบเกิดคาดเดา แอดก็อยากแนะนำใครที่อยากสัมผัสหนังผีเนื้อเรื่องสุดล้ำแบบนี้ GHOSTS OF WAR โคตรผีดุแดนสงคราม ไม่ควรพลาดเลยล่ะห้ามพลาดเด็ดขาด

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms