รีวิว หนัง SKATER GIRL สเก็ตติดฝันสู่วันใหม่

รีวิว หนัง SKATER GIRL สเก็ตติดฝันสู่วันใหม่ เมื่อวัยรุ่นในชนบทของอินเดียค้นพบความหลงใหลในการเล่นสเก็ตบอร์ดที่เปลี่ยนแปลงชีวิต เธอต้องเผชิญกับเส้นทางที่ยากลำบาก ขณะที่เธอทำตามความฝันในการแข่งขัน [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว หนัง SKATER GIRL สเก็ตติดฝันสู่วันใหม่ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความมั่นใจ ความกล้าหาญ และผลกระทบที่ลึกซึ้งของการจุดประกายเส้นทางของคุณเอง ตั้งอยู่ในหมู่บ้านห่างไกลในรัฐราชสถานประเทศอินเดีย ภาพยนตร์เรื่องนี้ติดตาม เพรนา วัยรุ่นท้องถิ่นที่ใช้ชีวิตตามประเพณีและหน้าที่ต่อพ่อแม่ของเธอแต่เมื่อ เจสสิก้า [เอมี มาเกรา] ผู้บริหารโฆษณาในลอนดอนมาถึงหมู่บ้านเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัยเด็กของบิดาผู้ล่วงลับของเธอ เพรนา และเด็กๆในท้องถิ่นคนอื่นๆ ก็ได้รู้จักกับการผจญภัยครั้งใหม่ที่น่าตื่นเต้น ขอบคุณ เจสสิก้า และเพื่อนเก่าของเธอ

โจนาธาน รีดวิน ผู้ซึ่งล่องเรือเข้าไปในเมืองบนสเก็ตบอร์ด เด็กๆหลงใหลในกีฬานี้ เล่นสเก็ตในหมู่บ้าน สร้างความปั่นป่วนให้กับทุกสิ่งและทุกคนที่อยู่รอบตัวพวกเขา เจสสิก้า ตั้งใจแน่วแน่ที่จะเพิ่มพลังและส่งเสริมความหลงใหลใหม่ๆ ที่พวกเขาค้นพบ เจสสิก้า เริ่มการต่อสู้ที่ยากลำบากเพื่อสร้างสนามเด็กเล่นสเก็ตของพวกเขาเองปล่อยให้ เพรนา มีทางเลือกที่ยากระหว่างการปฏิบัติตามความคาดหวังของสังคมที่มีต่อเธอ หรือการใช้ชีวิตตามความฝันของเธอที่จะแข่งขันใน NATIONAL SKATEBOARDING CHAMPIONSHIPS

ไม่บ่อยนักที่จะเห็นหนังอินเดียมาฉาย แต่เห็นเรื่องนี้คนพูดถึงเยอะ และสเก็ตบอร์ดก็เป็นเทรนด์ในบ้านเราอยู่ขณะนี้ ต้องยอมรับว่าในช่วงปีที่ผ่านมาเทรนด์การเล่นสเก็ตบอร์ดนั้นกลายเป็นกีฬา และการออกกำลังกายทางเลือกสำหรับหนุ่มสาว ไปจนถึงวัยทำงานที่ยังไฟแรงหัวใจวัยรุ่น ซึ่งทำให้กีฬานี้เติบโตขึ้นอย่างมากในประเทศไทยเพียงไม่กี่เดือน ในขณะที่บ้านเรามีเสรีภาพในการจะไปเล่นในสิ่งที่ตัวเองรักและปรารถนา แต่ในประเทศอินเดีย เด็กสาวบ้านนอกอย่างเพรนา ผู้เติบโตมาในครอบครัวยากจนวรรณะต่ำต้อย ไม่อาจจะเลือกความฝันของตัวเองได้เลย เป็นหนังที่สร้างแรงบันดาลใจชั้นดีเลยทีเดียว และต้องมีคนแอบน้ำตาไหลแน่นอน

SKATER GIRL สเก็ตติดฝันสู่วันใหม่ ไม่เพียงแต่จะบอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวคนนึงที่มีความฝันแล้ว แต่ยังสะท้อนถึงสังคมชาวอินเดียที่ยังคงยึดติดกับวิถีชีวิต ความเชื่อ และวัฒนธรรมเดิมๆ แต่สิ่งสำคัญที่เราสัมผัสได้คือ การได้รับแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต หากมีความฝัน ก็อย่าหยุดที่จะตามฝัน และพยายามที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองรักต่อไป อย่ากลัวที่จะต้องทำในสิ่งแปลกใหม่ แต่ให้กระโจนเข้าหามันเชื่อมันว่าเราทำได้ เช่นเดียวกับการเล่นสเก็ตบอร์ดของ เพรนา แม้ว่าเธอจะกลัวในตอนแรก แต่พอได้ลองเล่นก็รู้ทันที่ว่านี่แหละคือสิ่งที่เธอต้องการ

บอกเลยว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังขายการเล่นท่าสเก็ต ไม่ใช่หนังโชว์ตัวเอกที่มีพรสวรรค์ หรือเป็นหนังแข่งขันจริงจัง แต่นี่เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวการลุกขึ้นคิดฝันของเด็กผู้หญิงอินเดียที่ถูกตีกรอบด้วยสังคมชายเป็นใหญ่ รวมถึงกฎหมาย ค่านิยม วัฒนธรรม ชนชั้นวรรณะ ความยากไร้ ทั้งหมดคือปัญหาที่กดทับเด็กผู้หญิงอินเดียอยู่จริงๆ ไม่ต้องพูดถึงการลุกขึ้นมาปฎิบัติ แม้แต่ความคิดก็อาจจะไม่มี เพราะเด็กผู้หญิงอินเดียถูกปิดกั้นโอกาสและความรู้จนไร้จินตนาการความฝันกับอนาคตของตัวเอง ซึ่งปมความฝันของเด็กผู้หญิงนี้ก็มีหนังอินเดียดังอย่าง DANGAL ปล้ำฝันสนั่นโลก หนังกำเนิดนักกีฬามวยปล้ำหญิงที่ได้เหรียญทองโอลิมปิกสร้างจากเรื่องจริง จนทำให้เด็กผู้หญิงอินเดียหันมาสนใจมวยปล้ำกันทั่วประเทศ

ต้องบอกเลยว่าพอดูภาพยนตร์เรื่อง SKATER GIRL จบแล้วก็อยากจะลองไถสเกตทำตามความฝันดูบ้าง [หัวเข่าแตกเรียบร้อย พอดีกว่าเดียวหัวแตกแขนขาหัก] เหมือนสาว เพรนา ในช่วงแรกๆแต่ถ้าใจมันสั่งให้ทำก็อย่าไปกลัว เอาเป็นว่าใครที่กำลังท้อต้องดูเรื่องนี้เลยถือว่าให้กำลังใจดีมากดูได้แล้วบน NETFLIX , ภาพยนต์แนว: Drama, Family, Sport, กำกับโดย: Manjari Makijany, นักแสดงนำ: Amy Maghera, Waheeda Rehman, Rachel Saanchita Gupta, Anurag Arora

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว Godzilla vs. Kong ก็อตซิลล่า ปะทะ คอง

รีวิว Godzilla vs. Kong ก็อตซิลล่า ปะทะ คอง หนังสัตว์ประหลาดยักษ์ MonsterVerse นี้คือ อภิมหึมา มหามัน ของมอนสเตอร์ยักษ์ห้ำหั่นกัน สองราชันที่กินกันไม่ลง เมื่อ ก็อดซิลล่า ปะทะ คอง ใครคือผู้ชนะ แอคชั่นสุดมัน [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว Godzilla vs. Kong ก็อตซิลล่า ปะทะ คอง นี้คือหนังที่แฟนๆทั่วโลกรอคอยก็ว่าได้กับหนังสัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองสาย สายหนึ่ง ก็อตซิลล่า ที่จู่ๆก็โผล่พ้นน้ำขึ้นมาอาละวาดในเมืองมนุษย์ อีกสายก็เป็น คิงคองยักษ์ที่อยู่ชิลๆ บนเกาะกะโหลกจนมนุษย์ไปพบเจอเข้า แต่แล้ววันนี้ พวกเราจะได้ดูหนังที่สองสัตว์ประหลาดยักษ์มาต่อสู้กันใน Godzilla vs. Kong ชื่อไทย ก็อดซิลล่า ปะทะ คอง หนังฟอร์มยักษ์ หนังบล็อกบัสเตอร์ที่คนไทยชื่นชอบและคงไม่พลาด

Godzilla vs. Kong ก็อตซิลล่า ปะทะ คอง เป็นผลงานการกำกับโดยอดัม วินการ์ดที่ผ่านงานกำกับ DEATH NOTE ฉบับ NETFLIX และผลงานหนังสยองขวัญคุณภาพอย่าง YOU’RE NEXT และ THE GUEST มาการันตีความสนุก หนังยังได้นำสองนักแสดงหลักจากภาค GODZILLA : KING OF THE MONSTERS กลับมาอีกครั้งอย่าง แมดิสัน รัสเซลล์ รับบทโดย มิลลี่ บ็อบบี้ บราวน์ และ มาร์ค รัสเซลล์ รับบทโดย ไคล์ แชนด์เลอร์ สองพ่อลูกแห่ง

องค์กร Monarch พร้อมด้วยตัวละครใหม่อย่าง เนธาน ลินด์รับบทโดย [ อเล็กซานเดอร์ สการ์สการ์ด ] นักธรณีวิทยาผู้ทำงานใกล้ชิดกับคอง ยังมี ไอลีน แอนดรูส์ รับบทโดย [ รีเบคกา ฮอลล์ ] นักวิทยาศาสตร์ของ Monarch และเปิดตัว เรน เซริซาว่ารับบทโดย [ ชุน โอกูริ ] ลูกชายของ ดร. อิชิโระ เซริซาว่า ผู้ศรัทธาอย่างแรงกล้าในตัวแทนแห่งธรรมชาติ

ผลงานการสร้างจากค่าย Warner Brother Pictures และ Legendary Pictures ผู้สร้างจักรวาลหนังเป็นของตัวเองในชื่อ Monsterverse ซึ่งในภาคนี้จะเล่าเรื่องราวต่อจากเหตุการณ์ใน Godzilla : King of the Monsters [ 2019 ] โดยเป็นเรื่องราวเมื่อคอง กำลังถูกพากลับไปยังบ้านเกิดใน Hollow Earthแต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อจู่ๆ ก็อดซิลล่า ได้ปรากฏตัวเพื่อเข้าโจมตีคอง และอาละวาดฆ่าล้างทำลายบ้านเมือง ขณะที่ฝ่ายมนุษย์ก็ต้องค้นหาความจริงว่า อะไรคือเบื้องหลังที่ทำให้ ก็อดซิลล่าออกอาละวาดอย่างไร้สาเหตุ

Godzilla vs. Kong ก็อดซิลล่า ปะทะ คองถือว่าเป็นภาคที่สมบูรณ์แบบที่สุดใน Monsterverseทั้งงานภาพ แสง เสียง การต่อสู้ ถือว่าจัดเต็มจุใจ สมการรอคอยจริงๆ โดยเฉพาะฉากต่อสู้แบบยักษ์ชนยักษ์ ของก็อดซิลล่า และ คอง ที่ยาวจัดเต็มถึง 18 นาทีจุกๆ และมีฉากต่อสู้สุดเดือดมาให้ดู 3 ฉากใหญ่ๆกันเลยทีเดียว

Godzilla vs. Kong ถือว่า ทำออกมาได้โคตรมันส์ โคตรเดือด เป้นหนังที่มาช่วงโควิด ถือวว่าเป็นหนังฟอร์มยักษ์ของปี 2021 ที่ห้ามพลาดจริงๆ จากที่ปูเนื้อเรื่องศึกยิ่งใหญ่มานับ 2 ปี นับตั้งแต่ Godzilla: King of the Monsters ที่ได้เห็น ราชาแห่ง มอนสเตอร์มา แล้ว กลับมาครั้งนี้ราชาบนโลก กับราชาอีกหนึ่งภิภพ กลับต้องมาเจอกัน เพื่อแย่งชิงตำแหน่งราชาเพียงหนึ่งเดียว จากศึกที่ยาวนานจากบรรพบุรุษ

Godzilla vs. Kong ก็อดซิลล่า ปะทะ คอง เป็นหนังแฟรนไชส์ฟอร์มยักษ์ที่น่าติดตามอีกหนึ่งเรื่อง แน่นอนว่า CGสวยงามเนียนตา จนแทบไม่มีแผลเลย งานภาพและเสียงเบอร์ใหญ่จัดเต็มจริงๆ เพราะภาพสวยมากๆ และเหล่าพี่เบิ้มก็ตัวใหญ่สะใจมากแฟนก็อดซิลล่าและแฟนคอง ห้ามพลาดเด็ดขาด

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

Marvel Studios เคาะวันฉายหนังเฟส 4 ตลอดปี 2021-2023

Marvel Studios เคาะวันฉายหนังเฟส 4 ตลอดปี 2021-2023 เป็นที่ตั้งหน้าตั้งตารอสำหรับแฟนๆ ฮีโร่จากค่าย Marvel ล่าสุด Marvel Studio ได้ประกาศภาพยนตร์ทั้งหมดในเฟส 4 ที่จะฉายผ่านทั้งโรงภาพยนตร์และบริการสตรีมใหม่อย่าง Disney+ ออกมาอย่างเป็นทางการ

Marvel Studios เคาะวันฉายหนังเฟส 4 ตลอดปี 2021-2023 ล่าสุดMarvelได้ปล่อย ออฟฟิเชียลออกมา ถ้าใครได้ดูต้องขนลุกไปตามๆกัน และก็ต้องบอกบอกตัวเองหรือบอกกับแฟนๆMarvelว่าอย่าเพิ่งตายถ้ายังไม่ได้ดู อภิมหาภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จาก Marvel Studioกว่า 10 เรื่อง ที่ทางMarvel ประกาศวันฉายอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว เตรียมขยายจักรวาล Marvel ตลอดปี 2021-2023 

ภาพยนตร์มาร์เวล เฟส 4 อย่าง Black Widow ที่เจอพิษโควิด-19 เลื่อนแล้วเลื่อนอีกมาหลายรอบแล้ว และในที่สุดก็ได้วันฉายใหม่ เริ่มกรกฏาคมนี้ จะเป็นเรื่องแรกของปี 2021 ที่เราจะได้ดูกันในโรงภาพยนตร์ [ ภาวะนาขอให้โควิด19หายไปทีเถอะ สาธุ ]

นอกจากนี้ ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เอเชียคนแรกของมาเวลอย่าง Shang-Chi และภาพยนตร์รวมเหล่าซูเปอร์ฮีโร่อมตะอย่าง Eternals และ Spider-Man 3: No Way Home ที่หลายคนรอคอย [ แอตก็รอคอยเหมือนกัน ] ก็จ่อคิวฉายในปี 2021 นี้แบบเดือนเว้นเดือนกันเลย มีภาพยนตร์เรื่องไหนที่เคาะวันฉายแล้ว มาดูกันเลย

 Black Widow : กรกฏาคม 2021

 SHANG-CHI And The Legend Of The Ten Rings : กันยายน 2021

Eternals : ตุลาคม 2021

Spider-Man 3 No Way Home : ธันวาคม 2021

Doctor Strange In The Multiverse Of Madness : มีนาคม 2022

Thor: Love And Thunder : พฤษภาคม 2022

Black Panther 2 : กรกฎาคม 2022

Captain Marvel 2 : พฤศจิกายน 2022

Ant-Man and The Wasp : Qtantumania: กุมภาพันธ์ 2023

Guardians of the Galaxy Vol. 3 : พฤษภาคม 2023 

โอ้โห้แต่ละเรื่อง สุดๆทั้งนั้น และคิดว่าแฟนมาเวลทุกคน รวมทั้งแอตด้วย แทบจะอดใจรอไม่ไหวแล้ว แอดก็อยากจะให้ทุกๆคนรักษาสุขภาพให้ดีๆกันละ และอยากบอกว่าห้ามตายเด็ดขาด

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว และชวนดู 4หนัง 4เรื่อง 4แนว

รีวิว และชวนดู 4หนัง 4เรื่อง 4แนว ช่วงนี้หนังใหม่ ฟอร์มยักษ์ ก็พากันทยอยฉายมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ เพราะสถานะการณ์ covid-19 ยังไม่หาย ใครที่เบื่อๆ กักตัวอยู่บ้านแอดเลยอยากแนะนำหนังดีหนังน่าดู ดูแบบเพลินๆไม่ต้องคิดมากกับ4หนัง 4 แนวที่อยากให้ดู [ สปอยนิดๆ ]


Master ล่าโกง อย่ายิงมันแค่โป้งเดียว

รีวิว และชวนดู 4หนัง 4เรื่อง 4แนว Master ล่าโกง อย่ายิงมันแค่โป้งเดียว ภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นดราม่า Master ผลงานการกับกำโดย Ui-seok Jo แสดงนำโดย คัง ดอง วอน ลี บย็อง-ฮ็อน รวมทั้ง คิม วู-บิน เมื่อการฉ้อฉลด้านการตลาดโครงข่ายที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเกาหลีเปิดเผยให้มองเห็นถึงโครงข่ายการโกง พวกเขาจะไล่ล่าสุดมัน สุดระทึกจึงได้เริ่มขึ้น

[ หักเหลียมเฉือนคม ]

Evil Dead ผีอมตะ2013

Evil Dead ผีอมตะ2013 เรื่องราวกลุ่มเพื่อนห้าคนที่เดินทางไปยังกระท่อมร้างแห่งหนึ่งที่ห่างไกลผู้คนเพื่อที่จะรักษา มีอา สาวน้อยผู้มีอาการติดยาอย่างหนักให้หายขาดโดยกลุ่มเพื่อนนั้นนำโดย เดวิด พี่ชายของมีอา นาตาลีแฟนของเขา อีริค เพื่อนซี้ของเดวิด และ โอลิเวีย พยาบาลสาวที่ตามมาดูแลมีอาด้วย ที่นั้นเองอีริคได้พบกับห้องใต้ดินของบ้านหลังนี้และหนังสือแห่งความตาย ที่มีข้อความว่า อย่าอ่านออกเสียง อย่าเขียน อย่าคัดลอก แต่อีริคกลับคัดลอกจนทำให้ผีร้ายหลุดออกมาจากหนังสือแห่งนี้และเข้าสิงร่างของพวกเขาทีล่ะคน

[ ฉบับ รีบู๊ต ]

Death Note 1 สมุดโน้ตกระชากวิญญาณ ภาค1

Battle Royale II Requiem เกมนรก สถาบันพันธุ์โหด หนังสร้างจากมังงะชื่อดัง ยางามิ ไลท์ นักเรียนอันดับหนึ่งของประเทศ ผู้พบบันทึกมรณะ Death Noteโดยบังเอิญ ซึ่งมันมีอำนาจในการฆ่าใครก็ได้ เพียงแค่รู้จักหน้าคนผู้นั้นแล้วเขียนชื่อลงไป ไลท์จึงตัดสินใจจะเปลี่ยนแปลงโลกโดยใช้เดธโน้ตฆ่าอาชญากรคนแล้วคนเล่าภายใต้ชื่อของ คิระ killerโดยมีนักสืบอย่าง L ริวซากิ ผู้ปราดเปรื่องอันดับหนึ่งของประเทศอีกคน และทีมงานตำรวจคอยตามล่า ก่อนที่ไลท์จะได้รับการช่วยเหลือจาก คิระคนที่ 2

[ จากมังงะสุดฮิต ]

Spider Man Into The Spider Verse สไปเดอร์ แมน ผงาดสู่จักรวาล แมงมุม

Spider Man Into The Spider Verse สไปเดอร์ แมน ผงาดสู่จักรวาล แมงมุม เป็นอีกภาคของโซนี่จะเป็นเรื่องราวของไมลส์ เด็กชายผิวสีที่ค้นพบว่าตัวเองก็เป็นหนึ่งในสไปเดอร์แมนอีกคน และพบว่าในจักรวาลนี้ไม่ได้มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่เป็นสไปเดอร์แมน เขาเริ่มออกช่วยเหลือผู้คนรวมถึงคนที่เขารักนั่นคือพ่อ ซึ่งเราจะได้เห็นสไปเดอร์แมนอีกหลายคน

[ รวมเหล่า สไปเดอร์ แมน ]

เป็นใงบ้างครับถูกใจกันบ้างใหมกับหนังที่แอดแนะนำ ใครที่เบื่อๆกับการอยู่บ้านก็หาดูได้นะครับสนุกทุกเรื่อง ห้ามพลาดเด็อดขาด

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว หนัง Thunder Force ขบวนการฮีโร่ฟาดฟ้า

รีวิว หนัง Thunder Force ขบวนการฮีโร่ฟาดฟ้า หนังตลกแอ็กชั่นซุปเปอร์ฮีโร่ เบาสมองแนวหญิงแกร่ง แรงเต็ม100 กับมุกตลก โปกฮา โอ้ลั่นล้า [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว หนัง Thunder Force ขบวนการฮีโร่ฟาดฟ้า ในโลกที่เกิดบรรดาผู้มีพลังพิเศษที่เรียกว่า เครียมส์ ซึ่งมาจากผู้มีแนวโน้มในการก่อเหตุร้าย ทำให้โลกกลายเป็นสังคมที่เกิดเหล่าวายร้ายที่มีพลังพิเศษ มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งคือ เอมิลี่ ที่สูญเสียพ่อและแม่ที่เป็นนักวิจัยไปเพราะพวกเครียมส์ เธอจึงมุ่งมั่นตั้งใจเรียนเพื่อจะโตมาเป็นนักวิจัยแล้วค้นหาวิธีทำให้มนุษย์ธรรมดามีพลังพิเศษแล้วต่อสู้กับวายร้ายได้ ซึ่งในวัยเด็กเธอได้พบกับ ลิเดีย เด็กหญิงสุดห้าวที่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน

ถึงแม้เอมิลี่จะสนิทกับลิเดียแค่ไหน แต่วันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งสองต้องบาดหมางใจกัน และไม่ได้ติดต่อกันเกือบยี่สิบปี จนกระทั่งเมื่อทั้งสองเข้าสู่ช่วงชีวิตวัยกลางคน ลิเดียพยายามหาทางติดต่อเอมิลี่เพื่อให้กลับมาร่วมงานเลี้ยงรุ่น และเธอก็ได้พบความจริงว่าเอมิลี่นั้นกลายเป็นนักวิจัยที่มีบริษัทใหญ่โตและร่ำรวยราวกับโทนี่ สตาร์คโอ้วๆ ซึ่งเธอกำลังค้นคว้าวิธีการทดลองเปลี่ยนแปลงระบบพันธุกรรม แต่ด้วยความซุ่มซ่ามของลิเดียทำให้เธอถูกฉีดสารเคมีและทำให้ตัวเองมีพลังพิเศษขึ้นมาแบบไม่ได้ตั้งใจ [ นั้นใง ]

ระหว่างที่ลิเดียกำลังรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายนั้น และเธอก็พบว่าตัวเองหลงใหลกับการกิน ไก่ดิบๆ [ เหมือนยายยิบเลย ]พร้อมๆกับพละกำลังที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ส่วนเอมิลี่เอง ก็ปรับสมดุลร่างกายของตนเองจนพบว่ามีพลังวิเศษในการล่องหน [ โอ้วงานนี้มันแน้ๆ ] ทั้งสองจึงร่วมมือกันเพื่อออกปราบเครียมส์และฟื้นฟูความสัมพันธ์อันก่อเกิดเป็นมิตรภาพอีกครั้ง

เรื่องนี้เป็นหนังตลกแนวแอ็กชั่นแนวเบาสมอง ย่อยง่ายตามสูตรสำเร็จ เพราะเรื่องนี้เป็นผลงานของผู้กำกับ Ben Falcone และภรรยาของเขาคือ Melissa McCarthy ซึ่งเป็นนักแสดงตลกหญิงร่างอวบ มารับบทแสดงนำในเรื่องนี้ด้วย ส่วนตัวหนังก็จะมาในแนวมุกตลกสัปดน เพียงแต่อยู่ในขอบเขต [ แต่เกือบจะ18+ละ แต่ก็ยังไปไม่ถึง ] มาบวกกับมุกตลกเฉพาะตัวที่มาในสไตล์ดาราตลกหญิงที่ความสามารถเฉพาะตัวมาก คือถ้าคนเส้นตื้นก็จะฮาหลายฉาก แต่ถ้าไม่ก็จะแป้กกันสุดๆ ไปเลยเหมือนกันครับ

แต่เผอิญว่านี่เป็นหนังตลกแอ็กชั่น แม้ว่าพาร์ทดราม่ามิตรภาพจะทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่เนื้อหาหลักของเรื่องก็อยู่ที่เรื่องราวแบบซุปเปอร์ฮีโร่ และฉากแอ็กชั่นคอเมดี้ ซึ่งแม้ว่าจะทำออกมาได้ดีอยู่บ้างในบางในหลายๆฉาก แต่ในภาพรวมของหนังก็เต็มไปด้วยความสนุกอะนะ การเดินเรื่องแบบตามสูตร ช่วงที่หนังเข้าสู่ช่วงการต่อสู้ ทีนี้ละมันเลย

อีกอย่างการที่ตัวหนังใช้ดาราหญิงตลกร่างอวบ มารับบทนำ และใช้ดาราหญิงผิวสีร่างอวบอีกคนมารับบทตัวรอง ก็อาจจะทำให้คนดูผู้ชายหลายคนไม่ค่อยอยากจะดูมากนัก [ ย้ำนะแค่บางคน ] แต่นะถ้าเป็นผู้ชมที่เป็นผู้หญิง อาจจะรู้สึกอินกับเรื่องราวมิตรภาพของสองตัวละครในช่วงแรกจนสามารถตามดูต่อไปได้ครับ

ส่วนบอสใหญ่ของเรื่อง The King ที่ใช้พลังแบบเดียวกับนางเอก แต่ที่เซอร์ไพร์สคือ นี่เป็นบอสที่ดันมาปล่อยมุกตลกร่วมกับ Jason Bateman ซึ่งถือว่าเป็นผู้ใช้พลังพิเศษที่สุดพิสดารคือมือก้ามปู แล้วไอ้การรับส่งมุก [ ตะลึ้งตึ่งโปะ ]ของทั้งสองคนนี้กลับทำได้ดีซะยิ่งกว่าการเป็นบอสที่โชว์พลังอะไรมากมายอีกด้วย เรียกว่ามุกตลกฝั่งตัวร้ายคือจุดข่ยเลยละ เพราะทำได้กว่าที่คิดอีก ซึ่งเป็นตลกเฉพาะตัวแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นใครทำเท่าไหร่ [ เหมือนดู หม่ำ เท่ง โหน่ง เลย ] และในขณะที่ฉากแอ็กชั่น ก็ถือว่าCGทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง ไม่ได้เด่นแต่ก็ไม่ได้แย่ และฉากบู๊ในช่วงท้ายก็ทำได้ดีมากๆ ช่วงนี้ใครที่เบื่อๆกับโควิดละก็ดูได้นะครับ รับชมได้แล้ว บน Netflix 

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix 

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว ซีรี่ย์ Doctor X หมอซ่าส์พันธุ์เอ็กซ์

รีวิว ซีรี่ย์ Doctor X หมอซ่าส์พันธุ์เอ็กซ์ เป็นซีรี่ส์ญี่ปุ่นอีกเรื่องที่เรตติ้งนำเป็นอันดับ 1 เรื่อง Doctor X กระแสตอบรับดีมากขนาดนี้เป็นซีรี่ส์ที่ห้ามพลาดจริงๆ [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว ซีรี่ย์ Doctor X หมอซ่าส์พันธุ์เอ็กซ์ เรื่องราวของไดมอน มิจิโกะ (โยเนะคุระ เรียวโกะ) แพทย์อิสระที่ได้เข้าทำงานในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยที่กำลังสูญเสียอำนาจและ ขาดแคลนบุคลากร เนื่องจากสภาพการทำงานที่หนักขึ้นทำให้แพทย์หลายคนต้องลาออกไป การเข้ามาทำงานของเธอในฐานะแพทย์อิสระจึงไม่ได้รับการยอมรับ เธอต้องใช้ทักษะการผ่าตัดอันเฉียบคมเพื่อพิสูจน์ตัวเอง

ซีซั่นที่1 ใน Doctor-X บอกเล่าเรื่องราวของ ไดมอน มิจิโกะ ศัลยแพทย์ (หมอผ่าตัด) ฟรีแลนซ์ เธอไม่มีใบประกอบวิชาชีพ แต่งตัววาบหวิว และเมื่อถึง 5 โมงเย็นเธอจะออกจากที่ทำงานทันที และถ้าทางโรงพยาบาลต้องการให้เธอทำงานล่วงเวลาก็ต้องจ่ายเงินแพงหูฉี่ แต่ทุกๆครั้งทางโรงพยาบาลก็ไม่สามารถปฏิเสธค่าใช้จ่ายนั้นได้ เพราะฝีมือการผ่าตัดขั้นเทพที่โรงที่แพทย์คนอื่นบอกรักษาไม่ได้ แต่เธอก็สามารถรักษาได้สำเร็จทุกครั้ง แต่ถึงแม้เธอจะเก่งแค่ไหนแทพย์ทุกคนในโรงพยาบาลกลับมองเธอเป็นแกะดำ ที่ขัดต่อวัฒธรรมองค์กร พบกับเรื่องราวของ มิจิโกะ ต้องยืนหยัดเพื่อช่วยเหลือคนไข้ และทำลายขนบธรรมเนียมเก่าแก่เพื่อสร้างให้เหล่าแทพย์ได้รับรู้หน้าที่ของคนเป็นหมออย่างแท้จริง

ซีซั่นที่2 เรื่องราวดำเนินต่อจากภาคแรก ครั้งนี้ไดมอน มิจิโกะ แพทย์อิสระได้ไปทำงานในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทย์โตะ หลังจากแสดงฝีมือผ่าตัดอันน่าทึ่งในการผ่าตัดกระดูกขาม้า ต่อหน้าต่อตาหนึ่งในผู้บริหารของโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยยังคงอยู่ในสภาวะตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ซ้ำยังให้ความสำคัญต่อชื่อเสียงเงินทองมากกว่าชีวิตของผู้ป่วย ไดมอน มิจิโกะต้องเข้าไปเผชิญหน้ากับความเน่าเหม็นภายในโรงพยาบาล และต้องแสดงฝีมือเพื่อพิสูจน์ตนเองอีกครั้ง

ซีซั่นที่3 การกลับมาอีกครั้งของศัลยแพทย์พาร์ทไทม์ ไดมอน มิจิโกะ กับคำพูดประจำตัวที่ว่า “ฉันไม่เคยพลาด” โดยในภาคสามนี้ มิจิโกะ ได้เจอกับอดีตผู้อำนวยการที่เธอเคยไปทำงานด้วย ได้รับบาดเจ็บ และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง โดยมิจิโกะได้แสดงตนเป็นศัลยแพทย์ผู้ให้การรักษาเขา ท่ามกลางเหล่าศัลยแพทย์ที่ไม่เห็นด้วย มาพร้อมกับผู้จัดการส่วนตัว ที่ต้องพกลูกเมล่อนและใบแจ้งหนี้ มาดูกันสิว่าในภาคนี้เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป

ซีซั่นที่4 ครั้งนี้ ศัลยแพทย์ไดมอน มิจิโกะ (โยเนะคุระ เรียวโกะ) ได้รับการว่าจ้างจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโทเทย์ ซึ่งกำลังประสบปัญหาด้านแบรนด์ดิ้งอย่างหนัก เนื่องจากการรักษาที่ไม่ได้มาตรฐานและความขัดแย้งภายในองค์กร หนำซ้ำ ชะตากรรมของโรงพยาบาลดันตกอยู่ในกำมือของฮิรุมะ ชิเงคัตสึ (นิชิดะ โทชิยูกิ) คู่แค้นตลอดกาลของหมอไดมอน

ซีซั่นที่5 หลังจากฮิรุมะ ชิเงคัตสึ (นิชิดะ โทชิยูกิ) ถูกอัปเปหิออกจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโทเทย์ โรงพยาบาลได้เข้าสู่ยุคใหม่ซึ่งนำโดยผู้อำนวยการหญิงคนแรก ที่มาพร้อมแนวคิด คนไข้มาก่อน  และต้องการชำระโรงพยาบาลให้บริสุทธิ์ดังเดิม ทว่า ด้วยความช่วยเหลือของสมาคมแพทย์ญี่ปุ่น อำนาจเก่าก็ได้หวนคืนเวทีอีกครั้ง และในครั้งนี้หมายมุ่งจะทำลายไดมอน มิจิโกะ (โยเนะคุระ เรียวโกะ) ให้จมดิน

Doctor-X หรือชื่อเต็มว่า Doctor-X: Surgeon Michiko Daimon ซีรี่ส์ญี่ปุ่นกระแสแรงที่เคยคว้าเรตติ้งอันดับ 1 ในญี่ปุ่นมาแล้ว และมีถึง5ซีซั่น  เมื่อปี 2019 กับการหยิบแวดวงการแพทย์มานำเสนอได้อย่างน่าสนใจ ทั้งการฉีกรักษาที่ตื่นเต้นสมจริง หรือแม้กระทั่งเรื่องการเมืองในองค์กร จึงทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความนิยมสุดในญี่ปุ่น คอซีรี่ส์แนวหมอไม่ควรพราดจริงๆรับชมได้แล้วบน Netflix

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่  รีวิว ซีรี่ส์ ญี่ปุ่น  

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว หนัง Rurouni Kenshin คนจริง โคตรซามูไร ความมันส์ยกกำลัง 3

Rurouni Kenshin ซามูไรพเนจร เป็นภาพยนตร์ที่สร้างมาจากมังงะสุดฮิต นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ก็มาถึงภาค3แล้ว และตอนนี้กำลังสร้างภาค4 และ 5 อยู่ แอดนี้รอเลยไม่พลาดอย่างแน่นอน [ สปอยให้นิดๆนะ ]

รีวิว หนัง Rurouni Kenshin คนจริง โคตรซามูไร สำหรับภาค3นี้เน้นไปที่ฉากแอ็คชั่นเต็มๆ ทั้งรวดเร็ว คล่องแคล่ว ดูสมจริงสุดๆ แต่ดูรู้เรื่องนะครับ ไม่ใช่แว่บไปแว่บมา ขอชื่นชมนักแสดงและทีมงานของเค้าจริงๆ จนลืมคิดไปว่านี่สร้างมาจากมังงะ คิดว่าฉากแอ็คชั่นของเค้าพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นแล้วของวงการหนังญี่ปุ่นเนี่ย ฉากตู่สู้เนียนจริงๆ

การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของฮิมุระ เคนชิน ที่จะต้องประจันหน้ากับตัวร้ายผู้เป็นถึงนักฆ่าฝีมือฉกาจอย่าง ชิชิโอ มาโคโตะ [ ในที่สุดก็ได้สู้กัน ] เคนชินพร้อมแล้วที่จะใช้ดาบคู่ใจของเขา เข้าฟาดฟัน และปกป้องประเทศแห่งนี้

ชิชิโอ ปรากฏตัวนอกชายฝั่งโตเกียว พร้อมเรือรบหุ้มเหล็กสีดำขนาดใหญ่ และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีไปเยี่ยมเขา เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ หลังจากเชิญรัฐมนตรีมาร่วมรับประทานอาหาร หนึ่งในนั้นก็ถูกคนของชิชิโอฆ่า นายกรัฐมนตรีพยายามที่จะฟื้นฟูความสงบ แต่พวก ชิชิโอ ก็ฆ่าคนในรัฐบาลทั้งหมดนอกเหนือจากนายกรัฐมนตรี ชิชิโอเรียกร้องให้นำ บัตโตไซ มาหาเขาและทำการประหารต่อหน้าผู้คน ยาฮิโกะพบใบประกาศจับเคนชิน จึงทำให้รู้ว่า เคนชิน ยังมีชีวิตอยู่

เพื่อตามหาเคนชิน และค้นหาคาโอรุ ขณะที่พวกเขากำลังจะจากไป มิซาโอะ จำได้ว่าเธอคือ คาโอรุ พวกเขาปรากฏตัวนอกโรงพยาบาล และเข้าไปเพื่อพบคาโอรุ ที่หมดสติและมีชีวิตอยู่ ส่วนทางด้าน เคนชิน ไม่เข้าใจสิ่งที่ขาดหายในตัวเอง หลังจากฟื้นขึ้นมา จึงขอให้อาจารย์ ฮิโกะ เซจูโร่ ท่ายทอดสุดยอดวิชา [ เพรงดาบล่องนภานาคาอัสนีบาตทะยานฟ้า ] อีกครั้งเขารู้ว่าเขาทิ้งความตั้งใจ ที่จะมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่เขาเป็นมือสังหาร บัตโตไซ และในขณะที่เขาไม่มีความตั้งใจที่จะออกมามีชีวิต เขาจะไม่สามารถเอาชนะ ชิชิโอได้ ฮิโกะชี้ให้เห็นว่าเขาสูญเสียสัญชาตญาณนักฆ่าไป พร้อมกับคำสาบานที่จะไม่ฆ่าและดาบที่ [ ไร้สาระ ] ของเขา

ฮิโกะ บอกว่ามีบางอย่างที่หายไป ในเคนชินและคืนนั้นเขาจะได้คิดเรื่องนี้ ถ้าเขาไม่พบว่ามันคืออะไรเขาจะตายในวันพรุ่งนี้ เช้าวันรุ่งขึ้น ฮิโกะ เปิดเผยภารกิจสุดท้ายของเขาในฐานะอาจารย์ของ เคนชิน โดยไม่รู้ว่าอะไรหายไป เคนชิน จะกลับไปสู่วิถีทางเดิมและฮิโกะจึงต้องฆ่าบัตโตไซ เคนชินฟังในขณะที่เขาบอกว่า เขาไม่สามารถเรียนรู้ความลับได้ จนกว่าเขาจะตระหนักว่าเจตจำนง ที่จะมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เขาจึงได้รู้ความลับของ เพลงดาบล่องนภา และเคนชินได้รับการปลดปล่อย

ไซโตะ และ ซาโนะ ได้เข้าร่วมศึกนี้ด้วย พวกเขาทั้งสามไปที่เรือประจัญบานของ ชิชิโอ ในขณะที่ตามหา ชิชิโอ เคนชินได้พบกับ ดาบสรรค์โซจิโร่ อีกครั้งและทั้งสองก็สู้กัน เคนชินได้รับชัยชนะและโซจิโร่ซึ่ง แต่เดิมเชื่อว่าเคนชินอ่อนแอ ก็พ่ายแพ้ให้เคนชินในที่สุด

สำหรับหนังซามูไรภาค3นี้ ซึ่งในส่วนตัวแอดไม่อยากให้มันจบลงเลย [ ฉากต่อสู้ตอนจบ บอกได้เลยว่าโคตรมันจริงๆ ] นะครับเพราะเป็นหนังที่แอดชื่นชอบเป็นการส่วนตัว [ แอดอ่านมังงะมาตั้งแต่ 17-18 ] ด้วยเพราะเป็นหนังที่สร้างมาจากการ์ตูนแล้วทำให้รู้สึกว่าทำออกมาได้สมจริง และในบางครั้งเรารู้สึกว่ามันสามารถเกิดขึ้นจริงและมีตัวละครจริงแบบนี้ได้ ซึ่งทำให้แอดชื่นชอบมากๆครับ รับชมได้แล้วบน Netflix

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว หนัง Rurouni Kenshin เกียวโตทะเลเพลิง ซามุไร x ภาค 2

จากมังงะเรื่องดัง ถูกสร้างเป็น Live Action ปี 2012 ประสบความสำเร็จ อย่างถล่มทลายมาแล้ว กับ “ เคนชิน ซามูไร X ” หรือ “ ซามูไรพเนจร ” และ ภาคต่อของหนังซามูไรสุดฮิตนี้ ก็กลับมาอีกครั้ง กับภาค 2 [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว หนัง Rurouni Kenshin เกียวโตทะเลเพลิง ซามุไร x ภาค 2 เนื้อเรื่องของหนังในภาคนี้ หลังจากจบเรื่องราวของ อุโด้ จินเอ มือสังหารปลอม ที่ออกอาละวาดในภาคแรก ฮิมุระ เคนชิน ได้กลับมาใช้ชีวิต อย่างสงบสุขที่โรงฝึกดาบกับ คามิยะ คาโอรุ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ลอบสังหาร โอคุโบ โทชิมิจิ เสนาบดีฝ่ายมหาดไทยโดยฝีมือของ ดาบสวรรค์ โซจิโร่ ต่อมา เคนชินได้ทราบความจริงว่า โซจิโร่ ได้ทำงานให้กับ ชิชิโอ มาโคโตะ มือสังหารรุ่นน้อง ที่รับงานต่อจากเขาในสมัยสงครามโทบะฟุชิมิ แต่ชิชิโอ ได้ล่วงรู้ความสกปรกของรัฐบาลใหม่ ทำให้เขาถูกลอบสังหาร และถูกเผาไฟในที่สุด แต่ก็รอดชีวิตออกมาได้

ชิชิโอ ซึ่งเจ็บแค้นที่รัฐบาลทำกับเขาอย่างนั้น จึงออกรวบรวมพรรคพวก กลุ่มจุปปงคาตานะ ก่อการปฏิวัติญี่ปุ่นด้วยการเผาเมืองเกียวโต อันเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นในเวลานั้นให้ได้ แน่นอนว่าเรื่องนี้ทำให้เคนชินไม่อาจอยู่เฉยได้ เขาจึงเดินทางมายังเกียวโตเพื่อยับยั้งแผนการของชิชิโอ และการจะเอาชนะสุดยอดมือสังหารได้ เคนชินต้องกลับไปเป็นมือสังหารอีกครั้ง

สำหรับในภาคเกียวโตนี้ แบบว่า ไม่คาดหวังว่าตัวหนังจะออกมาดี กลัวแป๊กจริงๆ เพราะภาคแรกทำไว้ได้ดีมากๆ แต่ก็เกินคาดจริงๆ ภาคนี้อลังการทั้งสถานที่ถ่ายทำ และฉากที่หลากหลาย ตัวละครที่มากขึ้น และองค์ประกอบต่างๆ โดยเฉพราะฉากต่อสู้ มันช่างพลิ้วไหวดัง เพลงดาบล่องนภาจริงๆ ต้องบอกเลยว่าฉากต่อสู้เนียนมากๆ ซาโต้ ทาเครุ พระเอกของเรื่องนี้ท่าทางจะฝึกฝนมาอย่างดี อย่างนี้สิถึงสมกับเป็นซามุไรของแท้ [ ถูกใจเจ้ข้างบ้านเขาละ ]

ส่วน ชิชิโอะ ตัวร้ายของภาคนี้ ซึ่งแม้จะมีบทโผล่หน้ามาแบบไม่เละออกมาฉากเดียว แต่ก็ดูสมบทบาทมากๆ หลังจากนั้นเละและเลวตลอดทั้งเรื่อง ว่ากันว่าเบื้องหลังที่แสนเจ็บปวดของเค้า ที่ฝังลึกจนกลายเป็นแรงอาฆาตมีเพียง มือพิฆาต บัตโตไซ เท่านั้นที่หยุดเขาลงได้ แต่กว่า เคนชิน และชิชิโอะ จะได้สู้กันจริงๆ ต้องผ่านผู้ภักดีหน้าเด็ก โซจูโร่ และ โจว และถูกอาโอชิ แห่งกลุ่มโอนิวะบัง อาฆาตแค้นซะก่อน

ดูเรื่องนี้แล้วได้ข้อคิดดีๆหลายอย่างเลย หลายประโยคโดนใจมาก ดูมันเหมาะสมกับยุคที่กำลังเปลี่ยน ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงก็สามารถนำมาใช้ได้จริงๆ หนังสร้างจาก มังงะแนวแอ็กชั่นประวัติศาสตร์ของอาจารย์ โนบุฮิโระ วาสึกิ เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว [ ตอนนั้นแอดเพิ่งจะ17-18 นี้ละ ] พอมาสร้างเป็น Live Action ในตอนนี้ ประโยคเหล่านั้นก็ยังนำมาใช้ในปัจจุบันได้อย่างเช่น [ ยากที่จะสร้างยุคใหม่มากกว่าทำลายยุคเก่า ] แฟนมังงะ แฟนซามูไรพเนจร ยุค90 ห้ามพราดเด็ดขาด ดูได้แล้วบน Netflix ก็มีนะครับ

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว หนัง Rurouni Kenshin ซามูไร x จากมังงะสุดฮิตของยุค 90 สู่ Live Action สุดมันส์

ภาพยนตร์ Live Action สุดมันส์ ดัดแปลงมาจากการ์ตูนสุดฮิตยุค 90 ชื่อเรื่องเดียวกัน จากผลงานการแต่งเรื่องและวาดโดยอาจารย์ Nobuhiro Watsuki ภาพยนตร์ชุดนี้ เลือกหยิบเนื้อหาจากมังงะ มาดัดแปลงใหม่แล้วแบ่งออกเป็น 3 ภาค ด้วยกัน และนี้คือ ภาคแรก

รีวิว หนัง Rurouni Kenshin ซามูไรx เรื่องราวกล่าวถึงเหตุการณ์ช่วงต้นยุคเมจิ ของญี่ปุ่น ในช่วงหลังสิ้นสุดสงครามยุคบะกุมะสึ ฮิมุระเคนชิน อดีตซามูไรมือสังหารที่โด่งดังที่สุดแห่งยุค เจ้าของฉายาที่ใครๆ ต่างก็รู้จักชื่อของเขาในนาม ” มือพิฆาตบัตโตไซ ” พยายามที่จะหันหลังให้กับอดีต และปฏิญาณตนว่าจะไม่ฆ่าใครอีกเลย โดยมีอาวุธคู่ใจคือ ดาบสลับคม ที่ส่วนของคมจะอยู่ที่สันดาบ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องพลั้งมือฆ่าใครได้อีก ได้วางมือจากการเป็นนักดาบและออกเดินทางอย่างไรจุดหมายเป็นเพียงแค่ ซามูไรพเนจร ธรรมดาคนหนึ่งจนได้มาพบกับ คามิยะคาโอรุ ทายาทสาวผู้สืบทอดสำนัก คามิยะคัตชินริว ในภาคนี้เป็นการเปิดตัวหนังได้อย่างน่าสนใจ ทุกตัวละครมีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นในแบบของตัวเอง ทำให้หนังน่าติดตามเอามากๆเลย

เป็นการ์ตูนสุดโปรด สุดฮิตในตำนานของแอดเลยก็ว่าได้ ชอมมากๆเลยทีเดียวเพราะแอดอ่านมาตั้งแต่อายุ17ปี แม้จะมีเพียงแค่ 28 เล่ม แต่ก็ฮิตที่สุดในนิตยสารที่ตีพิมส์ในตอนนั้น จนวาดจบ คนวาดไปวาดเรื่องอื่นก็ไม่ดัง ไม่สนุกเท่าเรื่องนี้ ไทยตีพิมพ์รวมเล่มใหญ่ออกมาอีกหลายรอบ จนในที่สุดก็ได้มีการนำเอามาสร้างเป็นหนัง Live Action

หนังค่อนข้างฉลาดในการตัดเนื้อเรื่องและเขียนบทตัวร้ายแบบใหม่ เพราะหากจะทำตามหนังสือการ์ตูนจริงๆ คงจะยาวเป็นซีรีส์ละนะ ในคุณภาพระดับนี้นะ ตัวร้ายในภาคแรกนี้ไม่ได้เก่งเท่าไหร่นัก อย่างมากสุดที่ทำคือดึงเอา บัตโตไซ ในอดีตของเคนชินกลับมาเท่านั้นเอง


คนที่อ่านการ์ตูนมาแล้วอาจจะขัดใจอยู่บ้างนะ [ ขัดใจเจ้ข้างบ้านมาก ] กับตัวร้ายที่เป็นคู่ปรับที่เหมาะสม ไม่ได้เอามาอย่าง ชิชิโอ หรือ เอนิชิ แต่เพราะเนื้อหาที่หนังเอามาทำ แอดว่าเหมาะสมแล้ว ที่จะปูให้เห็นถึงเคนชินและบัตโตไซ ก็ต้อง จินเอ นี่แหละนะ

ฉากแอ็คชั่นทำยังกะการ์ตูนจริงๆ ไอ้ที่วิ่งตัดขาเอียง 160 องศา ไอ้การโพสท่าแต่ละแอ็ค ก่อนจะสู้กัน หรือหลังสู้กัน นี่มันเท่ห์จริงๆ [ โดนใจเจ้ข้างบ้านมาก ] ดูแล้วถือว่าต่อสู้กันสนุกพอสมควร เนื้อเรื่องตัดตัวร้ายมาเล่ากับตัวเอกใหม่ถือว่าได้อรรถรส ของแฟนการ์ตูนพอสมควร [ แบบปูทางเพื่อภาคต่อนะ เพราะฝีมือที่สู้กับ จินเอ ยังไม่ได้ถึงครึ่งของเคนชินในการ์ตูนเลยสำหรับแฟนการ์ตูนยุค 90 แอดแนะนำเลยว่าต้องดู ย้ำว่าต้องดู ยิ่งถ้าคนที่อ่านการ์ตูนมาจะดูสนุกมากๆ แต่ถ้าคนที่ไม่เคยอ่านมาดูอาจจะงงๆหน่อยๆ เพราะว่าฉากสู้กันมันเว่อร์อะนะดูได้แล้ว Netflix ก็มีนะครับ

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms







รีวิว หนัง Outside The Wire สมรภูมินอกลวดหนาม

โลกอนาคต คงหนีไม่พ้นที่มนุษย์จะต้องอยู่ร่วมกับเอไอ เราเริ่มพัฒนาหุ่นยนต์กันไปประมาณหนึ่งแล้ว พวกมันเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว แต่เรายังไม่ได้ทำให้มันคิดเองได้ ในระดับที่ซับซ้อนมากนัก แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ จะนำเราไปสู่อนาคต [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว หนัง Outside The Wire สมรภูมินอกลวดหนาม ฮาร์ป อดีตทหารบังคับโดรนสังหาร ตัดสินใจขัดคำสั่งยิงจรวดช่วยหน่วยรบ 38 นายที่อยู่กลางดงศัตรูโดยทำการสละชีวิตทหาร 2 นายไปพร้อมกับทหารฝั่งศัตรู และทำให้เขาถูกสั่งย้ายไปร่วมภารกิจกับ ผู้กองลีโอ ทหารสุดแปลกที่ไม่มีใครเอา ผู้จะลากฮาร์ปไปกลางสมรภูมิด้วยภารกิจชวนฉงน และการเปิดเผยตัวตนว่าเขาเองเป็นแอนดรอยด์ไม่ใช่คน ซึ่งฮาร์ปจะถูกบังคับให้เลือกทางแยกที่ยากลำบากตลอดการเดินทางครั้งนี้

เป็นหนังเน็ตฟลิกซ์ที่ทรงมาทางแอ็กชันไซไฟเหมือนกัน แต่ความน่าสนใจคงเป็นการกลับมารับบท ซูเปอร์ฮิวแมน ของ แอนโธนี แมกคี ที่ติดตาแฟนๆ มาจากบท แซมวิลสัน หรือ ฟอลคอน จากหนังมาร์เวล งานนี้จึงต้องมาลุ้นกันว่าถ้าไม่ใช่หนังตระกูลมาร์เวลแล้วเขาจะยังรับบทแนวซูเปอร์ฮีโร่ รอดหรือไม่ ต้องติดตาม

ดูเหมือนว่าเส้นเรื่องหลัก Outside the wire จะเป็นหนังสไตล์ คู่หูที่ต้องจับมือกันเพื่อปฏิบัติภารกิจ แต่ระหว่างทางหนังก็ พยายามเผยให้เห็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของผู้กอง ลีโอ ว่าบางทีเขาก็อาจจะไม่ได้เป็นหุ่นแอนดรอยด์ธรรมดาๆ แต่มีความรู้สึกนึกคิดไม่ต่างอะไรจากมนุษย์

ท้ายที่สุดแล้ว Outside the wire เหมือนต้องการจะสะท้อนความจริงของโลกปัจจุบันผ่านสถานการณ์ในหนัง แต่ประเด็นเหล่านี้ก็เคยถูกนำเสนอในหนังสงครามมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน จึงทำให้ประเด็นที่เกิดขึ้นน่าสนใจ และชวนติดตามมาก ถ้ามองหนังเรื่องนี้ในฐานะหนังที่สามารถเปิดดูได้ทางทีวีที่บ้าน ถือว่าคุณภาพดีทีเดียว และตอกย้ำประเด็นที่ว่า คนบางคน [ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ] ก็เป็นได้

หนังตอบโจทย์คอแอ็คชั่น หนังสงครามได้แน่ๆ หนังโชว์ฉากรบในอนาคตในแบบมันๆ ต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรก ก่อนที่ครึ่งหลังจะพลิกเป็นอีกแนว แต่สิ่งที่หนังพยายามเป็นมากกว่านั้นคือ การพูดถึง ล้วงลึกถึง ความคิดของชีวะจักรกลประดิษฐ์ของตัวเอกในเรื่อง ซึ่งทำออกมาได้ดีทีเดียว แล้วนักแสดงอย่าง แอนโธนี แมกคี ก็ถนัดกับบทแบบนี้ คอหนังแอ็คชั่น ไซไฟห้ามพลาดเด็ดขาด รับชมได้แล้ว บน Netflix

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix 

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms