รีวิวอนิเมะ Demon Slayer: To The Swordsmith Village ดาบพิฆาตอสูร: สู่หมู่บ้านช่างตีดาบ


ดาบพิฆาตอสูร เล่าเรื่องถึงประเทศญี่ปุ่นในยุคไทโช โดยมีตัวละครหลักคือ คามาโดะ ทันจิโร่ เด็กชายผู้ถูกอสูรสังหารทั้งครอบครัว เขาเหลือน้องสาวเพียงคนเดียวคือ เนะซึโกะ แต่ทว่า เนะซึโกะ ดันโชคร้ายกลายเป็นอสูร ดังนั้นแล้ว ทันจิโร่ จึงตัดสินใจเป็นนักล่าอสูร เพื่อหาทางทำให้น้องสาวของตัวเอง กลับมาเป็นมนุษย์ดังเดิม

ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ : สู่หมู่บ้านช่างตีดาบ เส้นทางก่อนเข้าสู่ KIMETSU NO YAIBA SEASON 3 ถือเป็นภาคปฐมบทของภาคหมู่บ้านช่างตีดาบ โดยเป็นการนำ 2 ตอนสุดท้ายของภาค ย่านเริงรมย์ มาเรียบเรียงเนื้อหาร่วมกับตอนที่ 1 ของภาค หมู่บ้านช่างตีดาบ ซึ่งมีโครงเรื่องคร่าวๆ หลังจากที่พวก ทันจิโร่ สามารถเปิดโปงความลับของย่านเริงรมย์ และเอาชนะอสูรข้างขึ้นลำดับที่ 6 สองพี่น้อง ดาคิ และ กิวทาโร่ ได้สำเร็จ ทันจิโร่ ยังคงคาใจกับสิ่งที่ ดาคิ บอกไว้ถึงเรื่องของดาบ นิจิริน ที่สึกหรออย่างรวดเร็ว และผู้ใช้ก็ไม่สามารถใช้ปรานได้เต็มประสิทธิภาพ

ทันจิโร่ และพวกพ้องจึงเดินทางไปยังหมู่บ้านช่างตีดาบ เพื่อค้นหาความลับ และความจริงในเรื่องนี้กับ โฮทาโร่ ฮากาเนะซึกะ ผู้ที่ตีดาบเล่มนี้ขึ้นมา แต่ระหว่างที่ ทันจิโร่ ค้นหาความจริงอยู่นั้น อีกด้านหนึ่งการประชุมใหญ่ของเหล่าอสูรข้างขึ้นได้เริ่มต้นขึ้น การสูญเสียอสูรข้างขึ้นทำให้ คิบุสึจิ มุซัน ไม่พอใจต่อความแข็งแกร่งของเหล่าอสูรยิ่งนัก และเพื่อเป็นการสังเวย ต่อการสูญเสียครั้งนี้ มุซัน ได้เตรียมแผนที่จะเอาคืน เหล่านักล่าอสูรไว้แล้ว

โดยรวมแล้วแม้ว่า KIMETSU NO YAIBA: TO THE SWORDSMITH VILLAGE จะนำเหตุการณ์ที่เราเคยชมไปแล้วในฉบับอนิเมะซีรีส์มาฉายใหม่ แต่เมื่อเราได้กลับมาดูอีกครั้งด้วยจอภาพขนาดใหญ่ และระบบเสียงของโรงภาพยนตร์ ก็ทำให้เรายังตื่นเต้น กับฉากแอ็กชันสุดเวอร์วัง ได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกับครั้งแรกที่ได้ชม รวมถึงเปิดการเปิดตัวอสูรข้างขึ้นทั้งห้า ที่จัดเต็มในทุกรายละเอียด แฟนอนิเมะ ดาบพิฆาตอสูร ห้ามพลาดเด็ดขาด

ประเภท : อนิเมชั่น ,แฟนตาซี ,ผจญภัย
กำกับโดย : ฮารุโอ โซโตะซากิ
ให้เสียงพากย์โดย : นัตสึกิ ฮาเนะ, คานะ ฮานาซาวะ, เคนโกะ คาวานิชิ, อะคาริ คิโตะ

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว อนิเมชั่น

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง Avatar The Way of Water อวตาร 2 วิถีแห่งสายน้ำ อภิมหาภาพยนต์ ภาคต่อ  ที่หลายคนรอคอย

ครั้งนี้ JAKE และครอบครัวของเขา ต้องเผชิญเรื่องราว ที่อันตราย และปัญหาจากมีภัยคุกคาม ครั้งใหม่ จนต้องอพยพ ไปยังดินแดนชายฝั่งทะเลของดาว แพนดอร่า แน่นอนว่า JAKE และครอบครัวจะต้องเรียนรู้วัฒนธรรมแบบใหม่ ใช้ชีวิตวิถีน้ำ เพื่อหาหนทางปกป้องครอบครัว และต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด

JAKE นาวิกโยธินผู้พิการขา ได้รับมอบหมายภารกิจในโปรเจ็กต์ AVATAR แทนพี่ชายฝาแฝดที่เสียชีวิตไป บนดาวเคราะห์ แพนดอร่า ภารกิจของเขาคือการแฝงตัวเข้าไปอยู่หมู่มนุษย์ผู้มีเนื้อตัวสีฟ้าชนเผ่า นาวี เพื่อเรียนรู้ทุกอย่าง และผลักดันให้เขาออกไปจากพื้นที่ เพื่อแร่ชนิดหนึ่ง
และผลประโยชน์มหาศาล ที่มนุษย์อย่างพวกเขาจะได้รับ เจค ต้องเข้าไปในป่าบนดาวแพนดอร่า ด้วยการเชื่อมต่อกับร่าง AVATAR ของชาวนาวี เข้าไปอาศัยอยู่ในป่าเขียวขจีในเวลากลางวัน แต่งดงามสุดๆ ในเวลากลางคืน ป่าที่นอกจากความงดงาม ยังมีอันตรายแฝงอยู่ด้วย

ในภาคนี้พวกเด็กๆลูกของ JAKE กับ NEYTIRI มีบทบาทเป็นตัวเดินเรื่องมากพอสมควร รวมถึง AONUNG กับ TSIREYA ลูกชายและลูกสาวของ TONOWARI และ RONAL หัวหน้าเผ่าริมน้ำ NETEYAM ลูกชายคนโตของ JAKE เปรียบเสมือนเป็นความหวังของหมู่บ้าน ที่ถอดแบบพ่อมาเป๊ะ ลูกชายคนรอง LO’AK และ TROUBLE MAKERS และลูกสาวคนเล็ก TUK ที่ยังไม่มีบทบาทอะไรมากในภาคนี้ เพราะว่ายังเล็ก และยังมี SPIDER เขาเป็นเด็กมนุษย์คนเดียวของที่นี่เติบโตมา และเพื่อนเล่นของลูกๆ JAKE
นอกจากนี้ความยาวของหนังที่ยาวถึง 165 นาที หนังทำให้คนดูได้เต็มอิ่มกับทุกฉาก ที่ขนมาให้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งฉากต่อสู้เอาตัวรอดของ เจค ฉากเรียนรู้ความเป็นชาวนาวี

Avatar 2 ถือว่าทำออกมาได้ดีดี กว่าหนังภาคต่อเรื่องอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่มักเจ๊ง เรื่องนี้สนุก คุณภาพหนังดี ภาพสวย สมจริง งานละเอียด แอ็คชั่นสะใจ เรียกว่าไร้ที่ติ แต่ก็ขอติอยู่หน่อยๆ คือหนังพยายามเล่าทุกอย่างมากเกินไป บทยังไม่มีอะไรแปลกใหม่ ไม่ได้ไปไหนจากภาคแรกนัก นอกจากมีเด็กยั้วเยี้ยะ แต่คิดว่า หนังน่าจะได้ไปต่อจนถึงภาคสุดท้ายที่เขาตั้งใจกันไว้ [ เพร่ะภาคนี้ ทำเงิน มหาศาล ทะลุ 2000 กว่าล้าน ]

ภาพยนต์แนว: แฟนตาซี / แอ็คชั่น / ไซไฟ
กำกับโดย: เจมส์ แคเมรอน
นักแสดงนำ: แซม เวิร์ธธิงตัน, โซอี ซัลดานา ,ซิกอร์นีย์ วีเวอร์ ,สตีเฟน แลง ,เคท วิทสเล็ต

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว The Last Kingdom: Seven Kings Must Die เจ็ดกษัตริย์จักวายชนม์

รีวิว The Last Kingdom: Seven Kings Must Die
ภาคต่อของ THE LAST KINGDOM ในฤดูกาลสุดท้ายที่จะมาไขข้อสงสัยให้แฟนๆได้รับชมกันอีกครั้ง ในรูปแบบของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่มี เนื้อเรื่องที่เข้มข้น ทำให้หน้าติดตาม และปัจุบันมี 5 ซีซั่นด้วยกัน เป็นซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ ที่เรียกได้ว่าเป็นสงคราม ชนชาติอังกฤษ [ ส่วนตัวแอดชอบมานะ เรื่องนี้ เป็นการเริ่มต้นชนชาติ อังกฤษ ]

UHTRED ที่มีต้นกำเนิดเป็น UHTRED OF NORTHUMBRIA แต่ด้วยความที่ถูกยึดครองโดยชาวเดนมาร์ก ทำให้เขาได้ถูกรับมาเลี้ยงโดย VIKING RAGNAR และเขาได้กลาบเป็น UHTRED OF NORTHUMBRIA โดยเต็มตัวเมื่อชาวเดนมาร์กเผ่าอื่นสังหาร VIKING RAGNAR และได้ลักพาตัวน้องสาวบุญธรรมของไป แถมยังบังคับให้เธอเป็นทาสของพวกมัน จากนั้น UHTRED สาบานว่าเขาจะแก้เเค้นให้กับน้องสาวของเขาให้ได้ แต่ในขณะเดียวกันลุงแท้ๆของเขาได้แย่งชิง BEBBANBURG เพราะหวังที่จะกำจัด UHTRED แต่เป้าหมายของเขากลับเป็นการล้างเเค้นให้กับ VIKING RAGNAR

สำหรับเรื่องราวนี้เป็นต้นกำเนิดของ THE LAST KINGDOM ซีซั่น 5 เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ในคริสต์ศตวรรษที่ 9 ที่ได้เกิดสงครามมหากาพย์ ระหว่างชาว แองโกลแซกซอน ในอดีตซึ่งในตอนนี้มีชื่อว่า อังกฤษ ที่ปะทะกับชาว ไวกิ้ง [ ชาว นอร์เวย์ ปัจจุบันนี้ ] ซึ่งในยุคสมัยนั้นเป็นยุคที่ชาว อังกฤษ ได้แตกแยกกันออกเป็นกลุ่ม ซึ่งเป็นช่วงที่ชาว ไวกิ้ง เข้ารุกรานอาณาจักอื่นๆ

มหากาพย์ THE LAST KINGDOM ที่ได้เลยว่าการเล่าเรื่องราวดำเนินมาถึงตอนที่ 5 แล้ว ซึ่งภาคนี้จะมีความน่าสนใจขนาดไหน ถือว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของ THE LAST KINGDOM: SEVEN KINGS MUST DIE เจ็ดกษัตริย์จักวายชนม์

เป็นภาพยนตร์ที่อิงประวัติศาสตร์ สมัยสงครามอังกฤษได้ต่อสู้กับชาวไวกิ้ง จนมาเป็นเรื่องราวของ UHTRED ได้นักแสดงคนเดิมที่มีความสามารถ ทุกๆฉากที่เริ่มต้นขึ้นเข้าถึงอารมณ์ได้อย่างชัดเจน ทำให้เกิดความคล้อยตามได้ตลอด เสมือนว่าได้เข้าไปอยู่ร่วมฉากด้วยเลยจริงๆ ดูได้แล้ววันนี้บน NETFLIX

ประเภท : ดราม่า แอ็คชั่น
กำกับโดย : เอ็ดเวิร์ด บาซาลเกตต์
นักแสดงนำ : อเล็กซานเดอร์ เดรย์มอน,แฮร์รี กิลบี,มาร์ค โรวลีย์

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว NETFLIX

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง Tid Noi ทิดน้อย อั้ม พัชราภา คืนจอภาพยนตร์อีกครั้ง

การหวนคืนสู่จอเงินอีกครั้งในรอบหลายปี ของ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ นักแสดงสาวเจ้าบทบาท ทีมาประกบคู่กับ อนันดา เอเวอริงแฮม ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจากค่าย M39 และดาราตลกระดับแถวหน้า เท่ง เถิดเทิง [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวหนัง Tid Noi ทิดน้อย เรื่องราวมุมมองความสัมพันธ์ของสามตัวละครอย่าง นาค มาก และ ทิดน้อย แน่นอนว่าเพียงชื่อตัวละครเราคงจะนึกเรื่อง นางนาก ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ ดำเนินเรื่องผ่านตัวละครของ ทิดน้อย ชายผู้มั่นคงในความรักแท้ ที่ดูแลสาวงามประหนึ่งนางในดวงใจทว่าความรักของ ทิดน้อย กลับไม่ง่ายเมื่อมีอีกหนึ่งหนุ่มที่เข้ามาทำให้ใจของ นางนาค นั้นหวั่นไหวและรักเธอไม่แพ้กัน จึงทำให้เกิดเป็นความสัมพันธ์อันซับซ้อน และความอลหม่านในการสานต่อความรักของพวกเขา

ต้องบอกเลยว่า เห็นหน้า เท่ง เถิดเทิง ทำให้นึกถึงแก๊งสามช่าทันที เพราะแต่ละฉากนั้นทำขึ้นมา เพื่อเน้นการเล่นมุกตลก ของนักแสดงในเรื่อง เหมือนดูรายการตลกทางโทรทัศน์ จังหวะการตัดต่อ และการลำดับเรื่องราวในภาพยนตร์ ทำออกมาได้อย่างนุ่มนวล และลื่นไหลเป็นอย่างดี มีการแบ่งลำดับในการเล่าเรื่องพาร์ทหลัก

พาร์ทของตัวละครก็ทำได้ดี มีความหนักเบาของอารมณ์สลับกันไป มีจุดเชื่อมโยงของแต่ละฉาก ให้ได้เห็นว่าตัวละครนั้นคือใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร และเพื่ออะไร มีเป้าหมายของตัวละครวางไว้อย่างชัดเจน อีกทั้งการใส่มุกตลกเข้ามา มีการจัดสรรลำดับให้ผู้ชมสามารถ ยิ้มตามออกมาได้อย่างเป็นระยะ ผสานไปกับความดราม่าแบบกลมกล่อม

พล็อตการดำเนินเรื่อง ต้องบอกเลยว่าว่า สามารถเดาทางในการดำเนินเรื่องได้ตั้งแต่ต้น จนถึงปลายทางของเรื่อง ด้วยการนำเอาพื้นฐาน ของเรื่องราว นางนาก มาเล่าเรื่องโดยเพิ่มตัวละครของ ทิดน้อย ลงไปเท่านั้น มันอาจจะมีความแปลกใหม่ในฉากของตัวละคร ทิดน้อย แต่หากตัดตัวละครนี้ออกไป เหมือนเรากำลังดู นางนาก ในอีกเวอร์ชั่นเลย

ถือว่าเป็นภาพยนตร์อีกคอมเมดี้ ดราม่า ที่สามารถดูได้อย่างเพลินๆ อาจจะไม่ได้มีความแปลกใหม่ แต่ถือว่าองค์ประกอบการแสดง การถ่ายทอดอารมณ์ ของตัวละครทำออกได้น่าพึงพอใจ เราได้สัมผัสความรักแท้ ที่ไม่ได้ครอบครอง แต่เธอยังคงเป็นความสุขของหัวใจ และฉากใหม่ที่เสริมเข้ามา พาให้เราได้สนุกไปแบบครบรส

ประเภทหนัง : คอมเมดี้ , ดราม่า
ผู้กำกับ : เท่ง เถิดเทิง
นำแสดงโดย : อั้ม พัชราภา, เท่ง เถิดเทิง, อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม
ความยาวหนัง 87 นาที

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวซีรี่ส์ BEEF คนหัวร้อน เนื้อเรื่อง สะท้อนสังคมปัจจุบัน จริงๆ

อากาศร้อน อย่าร้อนตาม เมื่อคนสองคนทะเลาะกัน จากจุดเล็กๆ กลายเป็นใหญ่โต และค้นลึกไปถึงบาดแผลที่ฝังใจ และมันเชื่อมโยงกับคนดู ทุกชาติ ทุกภาษา โดยเฉพาะ ชาวเอเชีย [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวซีรี่ส์ BEEF คนหัวร้อน

ซีรีส์เล่าถึงความขัดแย้ง อันยืดเยื้อระหว่างหนึ่งหนุ่มหนึ่งสาวแปลกหน้า ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียคู่หนึ่ง หลังจากที่รถยนต์ของพวกเขา เกือบกระทบกระทั่งกันในลานจอดรถแห่งหนึ่ง ที่แอลเอ จนทำให้ฝ่ายชายต้องตะโกนด่า และฝ่ายหญิงต้องยกนิ้วกลาง โดยมีเสียงแตรรถคอยเร่งเร้าอารมณ์อันร้อนแรงให้ยิ่งคุโชน ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะออกซิ่งรถไล่ล่ากัน ภายใต้สภาวะสติหลุด [ แบบที่เราเห็นในบ้านเราเลย ]

และปล่อยให้ความโกรธเข้าครอบงำ จนคิดไปเองว่าตนไม่มีอะไรจะเสีย ขอแค่ได้ระบายออกพลังด้านลบ กับใครสักคน เป็นพอ ซึ่งการทะเลาะอันเล็กน้อยนี้ ก็ได้นำพวกเขาไปสู่ชุดเหตุการณ์ชวนหัวร้อนอื่นๆ ที่เกินจะคาดเดา แต่ขณะเดียวกัน ก็กลับค่อยๆ เปิดเปลือยความเป็นมนุษย์ อันเปราะบางของพวกเขาออกมาทีละน้อยด้วย [ ซีรี่ส์ เข้ามาถูกที่ถูกเวลามาก ช่วงนี้บ้านเรา คนหัวร้อนมาก ]

การแก้แค้น คือควรทำโดยทิ้งช่วง ให้ทุกอย่างสงบก่อน แล้วค่อยลงมือถึงจะสาแก่ใจ แบบไม่สนหน้าอินหน้าพรม เป็นไงเป็นกัน ลุยมันตอนนี้ไปเลย แบบฟิวขาดแล้วเอาไม่อยุด ฉุดไม่อยู่ สติหลุด [ สุดท้ายก็ ไหว้สวย รายกระเช้า รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ] ต้องบอกเลยว่า พล๊อตเรื่องทำออกมาได้น่าสนใจมากๆ เข้ากับช่วงนี้จริงๆ อยากให้ไทยเรา ทำซีรี่ส์แบบนี้บ้าง ไม่ใข่แต่ตบตีแย่งสามีกัน ตลก ผี

ถ้าอากาศช่วงเดือนเมษายน พฤษภาคม อากาศก็ร้อน รถก็ติด ค่าไฟก็แพง ค่าแรงแสนถู ความก็ดันต่ำ ขอแนะนำเลยกับ BEEF ซีรีส์สุดเครียด สุดหัวเสีย สุดสนุกหรรษาแห่งปี ในแนวดาร์ก,คอมเมดี้ และความเป็นเอเชีย อเมริกัน ที่บันดาลโทสะใส่กันบนท้องถนน ด้วยการหงุดหงิดแล้วแจกกล้วย บีบแตร ขับรถไล่ล่า ด่าสบถ จนเหตุการณ์นำไปสู่ความวินาศสันตะโร [ เหมือนไทยเราจริงๆ ] ซีรีส์ความยาวตอนละประมาณ 30 นาที จำนวน 10 ตอนจบ ดูได้แล้วบน NETFLIX

ประเภท: ดราม่า, คอเมดี้
กำกับโดย :ลี ซอง จิน
นักแสดงนำ :สตีเวน ยอน ,อาลี หว่อง, เดวิด โช, หนุ่มมาซิโน, โจเซฟ ลี, แพตตี้ ยาสุทาเกะ
ความยาว: 10 ตอน
ช่องทางการรับชม: NETFLIX

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว NETFLIX

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวซีรี่ส์ Shadow and Bone 2 ตำนานกรีชา ซีซั่น 2

SHADOW AND BONE ตำนานกรีชา ซีซั่น 2 กลับมาทวงตำแหน่ง TOP 10 ของ NETFLIX อีกครั้ง กับเรื่องราวที่เข้มข้น แฟนตาซีจัดเต็ม การผจญภัย การเมือง ปมรัก 4 เส้า เพิ่มความเร้าใจ ด้วยการตามล่าสัตว์วิเศษในตำนาน การขยายอาณาเขตของแดนพยับเงา การต่อสู้กับดาร์คลอร์ด ที่รวมทีมผู้มีพลังพิเศษครบทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวซีรี่ส์ Shadow and Bone 2 อาลีนา สตาร์คอฟ ต้องหลบหนีเอาตัวรอด เธอคือประกายแห่งความหวังของบางฝ่าย และเป็นกบฏผู้ต้องสงสัยในสายตาของอีกฝ่าย เธอหมายมั่นที่จะทำลายแดนพยับเงา และปกป้องราฟกาจากหายนะ แต่นายพลคิริแกนหวนกลับมาสานต่อสิ่งที่เริ่มต้นไว้ให้สำเร็จ เมื่อมีกองกำลังสัตว์ประหลาดใหม่จากแดนพยับเงาสุดแข็งแกร่งชวนสะพรึง และกองทัพกรีชาใหม่ที่น่าขยาดเป็นกำลังเสริม

คิริแกน จึงอันตรายยิ่งกว่าเคย อาลีนาและมัลจะต้องรวบรวมพันธมิตรใหม่ ที่ทรงพลังและเริ่มเดินทางท่องไปทั่วทวีปเพื่อตามหาสิ่งมีชีวิตในตำนาน 2 ตัวที่จะเพิ่มพลังให้กับเธอ จึงจะมีโอกาสต่อกรกับเขาได้ ส่วนพวกโครว์ต้องสร้างพันธมิตรใหม่ที่ เคตเทอร์ดัม ขณะรับมือกับศัตรูเก่า และความเคียดแค้นแต่เก่าก่อนที่คุกคามทั้งถิ่นฐานในย่านบาร์เรลและชีวิตของทุกคน เมื่อมีโอกาสลงมือปล้นสุดเสี่ยง พวกโครว์จึงได้โคจรมาพบกับผู้เรียกสุริยะในตำนานอีกครั้ง

ในส่วนฉากแฟนตาซี ภาคนี้จัดเต็มกว่าภาคก่อน ตั้งแต่นางเอกที่มีสกิลต่อสู้ ด้วยพลังแสงเพิ่มขึ้น พลังใหม่ของนายพลคิริแกนที่สร้างเงาอมตะขึ้นมา เป็นบอดี้การ์ดส่งไปไล่ล่าใครก็ได้ กับลูกน้องของนายพล ที่แต่ละคนจะได้บัฟพลังขึ้นกันหมดทั้งทีม ทำให้ฉากน้ำแข็ง ลม ไฟ มีท่าใหม่ๆโดดเด่นขึ้นไปอีก

นอกจากนี้ก็ยังมีตัวละครโจรสลัดที่ มีพลังต่อสู้กับพลังของกรีชารวมกัน และตัวเรื่องยังพาไปพบกับเผ่า ชูฮันที่ เป็นเชื้อชาติของนางเอกซึ่งจริงๆ ก็คือคนจีนนี่แหละ แล้วก็มีตัวละครใหม่ระดับตำนาน ปรากฎขึ้นที่นี่แบบสกิลเว่อร์วังมาก ระดับเกินนายพลคิริแกนอีก ซึ่งน่าจะถูกนำไปใช้ในภาคต่อไปด้วย

ประเภท : แฟนตาซี ,ความลึกลับ
กำกับโดย :โบลา โอกัน
นักแสดงนำ :เจสซี่ เมย์ ลี , อาร์ชี่ เรโนซ์,เฟรดดี้ คาร์เตอร์,อมิตา สุมาน ,คิต ยัง, เบน บาร์นส์, แดเนียล แกลลิแกน,และ คาลาฮาน สก็อกแมน

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว NETFLIX

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง The Anchor เจาะข่าวผี เมื่อโลกแห่งความจริง ไม่ได้มีแค่ผี

รีวิวหนัง THE ANCHOR เจาะข่าวผี

จองเซรา ผู้ประกาศข่าวสาวประจำสถานี YBC เธอยืนอยู่บนความสำเร็จในฐานะผู้ทรงอิทธิพล ของวงการสื่อมานานหลายปี ทว่าเมื่อพ้นจากหน้าที่กลับมีชีวิตส่วนตัวอันน่าอึดอัดใจ เนื่องด้วยคนเป็นแม่อย่าง อีโซจอง คอยจ้ำจี้จ้ำไชเคี่ยวเข็ญเธออย่างหนักตั้งแต่เล็กจนโต กระทั่งวันหนึ่งก่อนถึงเวลารายงานข่าวเพียงไม่กี่นาที จองเซรา ได้รับโทรศัพท์จากหญิงสาวปริศนา ปลายสายอ้างว่าเธอกับลูกสาวกำลังถูกฆาตกรรม ซ้ำยังขอร้องให้จองเซราช่วยนำเสนอข่าว การตายของเธอด้วยตัวเอง

เพื่อนร่วมงานต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า กรณีดังกล่าวเป็นเพียงการโทรมากลั่นแกล้งทว่า จองเซรา กลับรู้สึกตะหงิดใจจึงรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง สภาพศพอันน่าสยดสยองที่เธอเห็นคาตา เริ่มรบกวนชีวิตประจำวัน ซ้ำร้ายวิญญาณผู้หญิงที่ถูกฆาตกรรมยังปรากฏตัวให้ จองเซรา เห็นจนกระทบต่อหน้าที่การงาน เธอจึงจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการบำบัดจิตใจกับ ชเวอินโฮ จิตแพทย์หนุ่มผู้กำลังสืบค้นเบื้องหลังคดีฆาตกรรม ดังกล่าวอยู่เช่นกัน กระทั่ง จองเซรา ได้ค้นพบคำตอบของเหตุการณ์ปริศนา ที่ตามหลอกหลอนเธอมาตลอดชีวิต

เจาะข่าวผี ถือเป็นภาพยนตร์ทริลเลอร์ที่มีพล็อตน่าสนใจ ใช้จุดแข็งอย่างการตีแผ่วงการสื่อสารมวลชน มาคลุกเคล้าปะปนกับรสชาติระทึกขวัญ สั่นประสาทคนดูด้วยวิธีเล่าเรื่องทางจิตวิทยา บางจังหวะมีองค์ประกอบที่ต้องอาศัยการตีความอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดของบทสนทนา การส่งผ่านของแต่ละฉาก ตลอดจนการนำเสนอผี ที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกนึกคิด ของมนุษย์ด้วย บทของหนังทำออกมาได้สมบูรณ์แบบ

เป็นภาพยนตร์แนว สยองขวัญ ระทึกขวัญ ลึกลับ อีกเรื่องที่ได้ประสบความสำเร็จมากในประเทศเกาหลีใต้ และยังสามารถทุบสถิติทำรายได้เปิดตัวแรงขึ้นอันดับ 1 หนังใหม่ เรียกได้ว่าเป็นหนังเขย่าขวัญของปี 2022 ที่ค่อนข้างมาแรงเลยทีเดียว โดยตัวลครหลักได้รับบทโดย ชอนอูฮี นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ที่มีภาพยนตร์และซีรี่ย์มากมายที่เธอแสดง และนักแสดงนำชายอย่าง ชินฮาคยุน ที่สามารถคว้ารางวัลแพ็กซัง สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากซีรีส์สุดเข้มข้นอย่าง BEYOND EVIL 2021 ดูได้แล้วบน Netflix

ประเภท :ลึกลับ ระทึกขวัญ
กำกับโดย :จอง จีฮยอน
นักแสดงนำ :ชุน วู-ฮี ชิน ฮาคยุน ลี เฮ-ยัง

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว NETFLIX

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว PUSS IN BOOTS: THE LAST WISH

รีวิว PUSS IN BOOTS: THE LAST WISH กลับมาอีกครั้ง กับเจ้าเหมียวยอดนักสู้ ในรอบทศวรรษ กับการสารต่อตำนาน ผู้ที่ไม่เกรงกลัวผู้ใด พุซ อิน บู๊ทส์ เค้าได้เดินทาง สู่แบล็ค ฟอเรสต์ เพื่อค้นหาวิชชิ่งสตาร์ในตำนาน [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว PUSS IN BOOTS: THE LAST WISH หลังผจญภัยเสี่ยงตายมานานในที่สุด พุซ เจ้าเหมียวนักดาบทรงเสน่ห์ ก็ต้องเผชิญหน้าความกลัวเป็นครั้งแรก เมื่อเขาได้พบกับ หมาป่ามัจจุราช ที่มาย้ำเตือนว่าต่อไปนี้ พุซ จะเหลือชีวิตสุดท้ายก่อนไปพบยมบาล พุซ เลือกเนรเทศตัวเองไปพักพิงกับ มาม่าลูน่า ผู้ให้ที่พักพิงเหมียวจรจัดที่นั่น พุซ ได้พบกับ เพอร์โร เจ้าหมาชิวาว่าจรจัดที่คิดว่าตัวเองเป็นแมว และผูกสัมพันธ์กัน แต่แล้วความสงบที่ พุซ ฝันหาก็เป็นอันจบสิ้น หลังการมาเยือนของ โกลดีล็อกส์ และครอบครัวหมีที่มาจ้างเขาให้ไปขโมยแผนที่ สู่ดาวประทานพร

ซึ่งผู้ที่ครอบครองแผนที่ดังกล่าวคือ แจ็ก ออร์เนอร์ หนุ่มร่างท้วมเจ้าของโรงงานผลิตขนมปัง แต่ไม่ใช่ พุซ แค่คนเดียวที่ต้องการแผนที่ดังกล่าวเพราะเขาได้พบกับ คิตตี้ ซอฟต์พอวส์ เหมียวถ่านไฟเก่าที่ฝีมือเหนือกว่าเขาอย่างเห็นได้ชัด แต่เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน คิตตี้ พุซ และ เพอร์โร จึงออกเดินทางตามหาดาวประทานพร โดยมีคู่แข่งคือ แจ็ก ออร์เนอร์ และครอบครัวหมีของ โกลดีล็อกส์

สำหรับอนิเมชั่นเรื่องนี้ ต้องขอชมเป็นอันดับแรกเลยก็คือ คุณภาพของการถ่ายทอดงานภาพได้สวยมากๆ มีความเท่ การเคลื่อนไหวในซีนแอ็คชั่น จะออกแนวสต๊อบโมชั่นซึ่งที่ชื่นชม และชื่นชอบมากๆเลยคือ ซีนแอ็คชั่นแต่ละฉาก ดีไซน์ท่วงท่าการต่อสู้ด้วยอาวุธต่างๆ หรือปฎิสัมพันธ์กับสิ่งของรอบข้าง และความต่อเนื่องของซีนนั้นได้แบบดี แล้วมุมกล้องก็ว้าวมาก

อย่างกับเล่นเกมที่มีคัทซีนมันๆเลย ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะดีไซน์แอ็คชั่น และการตัดต่อมาได้ดีขนาดนี้ ด้านตัวเนื้อเรื่อง ให้แง่คิดต่างๆ ถือว่าดีมากเลยละ ไม่รู้หรอกว่าเด็กๆดูแล้วจะเก็ตแค่ไหน แต่บทภาคนี้เป็นบทที่ดี เขียนออกมาได้กลมกล่อม แทรกความฮา ความตื่นเต้น แง่คิดมาได้แบบเนียนๆยันจบเลย

ถือว่าเป็นหนังอนิเมชั่น ที่ค่อนข้างให้ผลลัพธ์ ออกมาได้อย่างน่าประหลาดใจไม่น้อย มาในภาคนี้กลับเต็มไปด้วยแนวการพัฒนาที่ดีขึ้นในทุกทาง บทหนังแข็งแรง การเล่าเรื่องมีจังหวะ คาแรกเตอร์ต่างๆ เต็มไปด้วยมิติ กลายเป็นองค์ประกอบที่นำมายำรวมกัน แล้วทำออกมาได้ดีมาก ถือว่าเป็นอนิเมชั่นที่ไม่ควรพลาดเลยอีกหนึ่งเรื่อง โดยเฉพาะเหล่าทาสแมว รับรองว่าเรื่องนี้จะทำให้คุณหลงรักแมวส้ม อย่างพุชมากขึ้นอีกเยอะเลย ห้ามพลาดเด็ดขาด

ประเภทหนัง : แอนิเมชั่น / ผจญภัย / แอคชั่น
ผู้กำกับ : โจ ครอว์ฟอร์ด, จานูล เมอร์คาโด
นำแสดงโดย : อันโตนิโอ บันเดรัส , ซัลมา ฆาเยก , ฟลอเรนซ์ พิว

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว หนังน่าดูปี 2023

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง Lady Chatterley’s Lover ชู้รักเลดี้แชตเตอร์เลย์

รีวิวหนัง Lady Chatterley’s Lover ชู้รักเลดี้แชตเตอร์เลย์ เมื่อชีวิตแต่งงาน ไม่สมบูรณ์แบบ เธอจึงโหยหาสิ่งที่ขาด มาเติมเต็ม ภาพยนตร์ โรแมนติก ดราม่า ที่มีเนื้อหา 18+ เร้าร้อน เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์เชิงชู้สาว ระหว่างชายผู้ใช้แรงงาน และสตรีชั้นสูง [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวหนัง Lady Chatterley’s Lover ชู้รักเลดี้แชตเตอร์เลย์

เรื่องราวของหญิงสาวจากตระกูลชั้นสูงอย่าง คอนสตันซ์ เธอนั้นได้แต่งงานกับ คหบดีชั้นสูงอย่าง เซอร์คลิฟฟอร์ด แชตเตอร์ลีย์ เขานั้นเป็นชายหนุ่มรูปงามหน้าตาดี เมื่อทั้งสองแต่งงานกันมาสักพัก เซอร์คลิฟฟอร์ด เขานั้นได้รับบาดเจ็บจากไปออกสงคราม จนทำให้ร่างกายจากเอวไปถึงท่อนล่างของเขานั้น เป็นอัมพาตตลอดชีวิต และเขานั้นก็ไม่สามารถที่จะสร้างความสุขทางเพศให้กับ คอนสตันซ์ ได้อีกต่อไป เธอนั้นวางแผนที่จะอยากมีลูก เป็นครอบครัวที่อบอุ่น

แต่ไม่มีทางเป็นไปได้ จากนั้นเธอจึงเปิดฉากคบชู้กับคนสวนที่มีชื่อว่า โอลิเวอร์ เมลเลอร์ส หลายต่อหลายครั้งจนอยู่มาวันหนึ่ง เธอนั้นตั้งท้องซึ่งนั้นคือลูกสายเลือดแท้ๆของ โอลิเวอร์ เมลเลอร์ส จากนั้นเขาได้ถูกไล่ออกจากงาน และทั้งสองก็วางแผนกันไว้ว่า จะหนีออกไปเริ่มต้นใหม่ด้วยกันกับเธอ จากนั้น คอนสตันซ์ เธอจึงขอหย่าจากสามีของเธอ เพื่อไปใช้ชีวิตกับหนุ่มชนชั้นแรงงาน

ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เราได้เห็นว่า ความรักไม่ได้เกิดขึ้นแค่จิตใจ แต่มันสามารถเกิดขึ้นได้กับองค์ประกอบของร่างกายด้วย [ ซึ่งปัจจุบันก็มีให้เห็น ภรรยาไปมี สามีใหม่ เพราะสามีเก่าไม่สามารถให้ความสุขได้ ]

ภาพยนตร์สร้างขึ้นจากนิยายคลาสสิก สะท้อนความเป็นมนุษย์ที่ดำรงอยู่ในสังคม เป็นเรื่องราวของการนอกใจ ที่ถูกนำเสนอมาในเรื่องราวของ ชู้รักเลดี้แชตเตอร์เลย์ ที่เปิดเผยความเลื่อมล้ำทางสังคม และความแตกต่างจากระบบชนชั้น เรื่องราวที่ถูกสร้างขึ้นจากช่วงเวลา หลังการเกิดสงครามในอังกฤษ ผ่านหญิงสาวที่แต่งงานเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ภายในวงสังคมของคนชั้นสูง หากแต่กลับล้มเหลวไม่เป็นท่า

หนังสะท้อนความนอกใจ การแหกกฏเกณฑ์ของสังคม และผิดศิลธรรม ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้น กลายเป็นหนังอีโรติก ที่เกิดฉากรักแสนโรแมนติก ย้อนยุค ดราม่า อิโรติก18+ ก่อนจะจบลงไปแบบไม่ทำร้ายจิตใจคนดู หนังโรแมนติกย้อนยุค เรื่องนี้บอกได้เลยว่า คอหนังโรแมนติก ดราม่า ที่ลึกซึ้ง เข้มข้น เร่าร้อน และด่ำดิ่งไปในห้วงของความรัก ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ควรพลาดจริงๆดูได้แล้วบน NETFLIX

ภาพยนต์แนว :โรแมนติก,ดราม่า
กำกับโดย :LAURE DE CLERMONT-TONNERRE
นักแสดงนำ :เอ็มม่า คอร์ริน แจ็ค โอคอนเนลล์

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว NETFLIX

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง Fearless Love ทวงคืน

รีวิวหนัง Fearless Love ทวงคืน นี้คือภาพยนตร์ไทย ที่แฟนๆรอคอย โดยเฉพาะแฟนคลับของ แดน-วรเวช ดานุวงศ์, บีม-กวี ตันจรารักษ์ และ แพทตี้-อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา โดยเฉพาะ บีม-กวี ตันจรารักษ คุณพ่อหน้าใหม่ไฟแรงลูก 4 บอกเลยว่า ในด้านการแสดงนี้ ไม่เคยแผ่วเลย [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวหนัง Fearless Love ทวงคืน

เรื่องราวของ ดิน และ พลอย ทั้งสองนั้นเป็นแฟนกันมานานแล้ว และทำงานเป็น YOUTUBER ชื่อดังที่หาเงินโดยหาคอนเทนต์ความรักของพวกเขา ให้กับแฟนๆได้รับชมกันบ่อยๆ แต่ตอนนี้ความรักของพวกเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะทั้งสองไม่ได้รักกันแล้ว แต่ที่อยู่ด้วยกันเพราะต้องคอยทำคอนเทนต์ต่างๆให้แฟนๆได้รับชมกัน เพราะตอนนี้ข่าวที่ว่าพวกเขามีปัญหากันก็เริ่มเผย่ออกไป

ทำให้เรตติ้งในการรับชมของพวกเขาตกลงเป็นอย่างมาก จากนั้นทั้งสองจึงต้องหาวิธี ที่จะทำให้คนดูกับมาติดตามพวกเขาอีกครั้ง โดยการคิดหาวิธีทำคอนเทนต์ที่น่าสนใจ อยู่มาวันหนึ่งเขานั้นได้พบกับ บริบูรณ์ เขานั้นเป็นยูทูปเปอร์ไลฟ์โค้ช ที่หาเงินโดยใช้ลูกเล็กๆของเขาในการหากินตอนนี้ บริบูรณ์ กำลังหาวิธีหนีจากอดีตภรรยาของเขา ที่จะมาท่วงลูกของเขาไป จากนั้นทั้งสามคนจึงตกลงกันว่า จะเดินทางไปเรื่อยๆเพื่อหาคอนเทนต์ แต่ทว่าในขณะที่ขับรถ

จู่ก็ได้มีลุงคนหนึ่งโผล่ออกมาจากที่มืดทำให้พวกเขาหลบรถออกไป จนเกิดอุบัติเหตุทำให้ไม่สามารถไปต่อได้ ลุงพล ที่ทำตัวแปลกอาสาที่จะให้ที่พักกับพวกเขา จากนั้นเมื่อพวกเขาไปถึงที่พักที่อยู่ห่างไกลถนน เป็นบ้านหลังเก่าๆที่น่าขนลุก พวกเขาตั้งใจว่าจะทำคอนเทนต์เกี่ยวกับที่นี้ แต่ทว่าพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับวิญญาณเฮี้ยนของ ขุนอำมหิตตราชัย ที่จะมาท่วงเอาบางอย่างจากพวกเขา

ต้องบอกเลยว่าเป็นหนังที่ มีโมเมนต์หวานๆ ระหว่าง แดน-แพทตี้ ที่เราจะได้เห็นทั้งในบทบาทของ ดิน-พลอย และวิดีโอหวานๆ จาก แดน-แพทตี้ ที่แทรกอยู่ในเรื่อง ส่วนนี้แฟนๆ ของทั้งคู่ต้องอิ่มอกอิ่มใจกันแน่นอน

โดยภาพรวมนั้นถือว่าหนังได้มอบรสชาติที่อร่อย เดี๋ยวหวาน เดี๋ยวเค็ม เดี๋ยวเผ็ด แบบสลับไปมาตลอด 2 ชั่วโมง ความสยองขวัญฉากตุ้งแช่ ทำให้คนดูต้องกรี๊ด และสะดุ้งได้ตลอดเรื่อง แต่ที่น่าตกใจคือการหักมุมแบบ อีหยังวะ ฮาแตก แฟนคลับ แดน-บีม ไม่ควรพลาดจริงๆดูได้แล้วบน NETFLIX

ประเภท: ตลก / สยองขวัญ / โรแมนติก
ผู้กำกับ: วรเวช ดานุวงศ์
นำแสดงโดย: วรเวช ดานุวงศ์, อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา, กวี ตันจรารักษ์
ความยาว: 122 นาที

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว NETFLIX

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms