รีวิว WARRIORS OF FUTURE นักรบแห่งอนาคต

รีวิว WARRIORS OF FUTURE นักรบแห่งอนาคต ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ อันยิ่งใหญ่ ในการสร้างผลงานไซไฟของซูเปอร์สตาร์ฮ่องกง กู่เทียนเล่อ และนี่ก็คือหนังฮ่องกงที่เพิ่งจะสร้างปรากฏการณ์เขย่าบ็อกซ์ออฟฟิศมาหมาดๆ ที่เป็นการประชันบทบาทของทีมนักแสดง ระดับแม่เหล็กของวงการ กันมาเต็ม [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว WARRIORS OF FUTURE นักรบแห่งอนาคต เรื่องราวในอนาคตอันใกล้ บนโลกที่สภาวะอากาศไม่เอื้ออำนวยต่องการดำรงชีวิต ทำให้มนุษย์ต้องมีการปรับตัวในการใช้ชีวิตที่แสนอย่างลำบาก แต่ปรากฏว่ามีอุกกาบาตปริศนาพุ่งตกลงมา พร้อมกับนำเอาสิ่งมีชีวิต ประเภทพืชปริศนา มาเติบโตอยู่บนโลก แม้ว่ามันจะช่วยกรองสภาพอากาศบนโลกดีขึ้น

แต่กลับพบว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่กำลังเป็นภัยคุกคาม อีกกองกำลังทหารต้องเผชิญหน้ากับแผนการ และสิ่งที่ไม่คาดคิด โลกเกิดความเสียหายจากมลภาวะ และภัยพิบัติ และเถาวัลย์เอเลี่ยนชื่อ แพนดอร่า ที่เติบโตอย่างรวดเร็วได้มาถึงยังโลก และสร้างหายนะที่ร้ายแรงยิ่งขึ้น ทีมต่อสู้ต้องออกปฏิบัติการ แข่งกับเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวันสิ้นโลก และนั่นคือโลกใน นักรบแห่งอนาคต

หนังแอ็คชั่นไซไฟ ทุนสร้าง 45 ล้านเหรียญสหรัฐ ของฮ่องกงที่ กำกับโดยนักทำวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ NG YUEN-FAI เป็นการกำกับเรื่องแรกของเขา ซึ่งก็ทำให้หนังเรื่องนี้ เน้นหนักไปจุดขายฉากไซไฟเต็มกระหน่ำทั้งเรื่อง แทบไม่มีฉากไหนเลยที่ไม่พึ่ง CG ซึ่งผลงานที่ออกมาก็นับว่าดีใช้ได้

เรื่องราวพยายามขายแนวคิดของหน่วยทหารแห่ง อนาคตที่ต่อสู้กับเอเลี่ยน และยังมีต้นไม้ยักษ์เป็นตัวเอกของเรื่อง นอกจากนี้ยังมีมนุษย์ต่างดาวมหึมาสัญจรไปมา ในอาคารที่ถูกทิ้งร้างในบริเวณใกล้เคียง เหมือน CG คัทซีนในเกม อลังการมากๆ เน้นการต่อสู้ที่รวดเร็ว และมีการออกแบบสัตว์ ลวดลายบนตัวเป็นอักษรจีน มีลักษณะคล้ายมังกร หรือสัตว์ในตำนานของจีน และหุ่นยนต์ทหารไล่ตามฮีโร่ การต่อสู้ในชุดเกราะของทหาร รายละเอียดของชุด และหุ่นมีความสวยงามสมจริง รวมถึงการขับหนีหุ่นยนต์ยักษ์ และไล่ตามฉากยาวๆ ก็สนุกและตื่นเต้นมาก ดูไม่เบื่อตั้งแต่ต้นจนจบ

WARRIORS OF FUTURE นักรบแห่งอนาคต หนังฮ่องกงที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลกับรายได้กว่า 80 ล้านเหรียญฮ่องกง และเพิ่งจะสร้างปรากฏการณ์เขย่าบ็อกซ์ออฟฟิศมาหมาดๆ กับหนังแอคชั่นไซไฟฟอร์มใหญ่ ที่ใช้ทุนสร้างเกือบ 2 พันล้านบาท เป็นฝีมืองานสร้างของผู้กำกับ อู๋ซวนฮุ่ย ที่ขึ้นมาชิมลางสร้างหนังเรื่องนี้ หลังจากที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการกำกับเทคนิคพิเศษมาหลายปี ที่เป็นการประชันบทบาทของทีมนักแสดงระดับแม่เหล็กของวงการ ตัวพ่อตัวแม่ยกขบวนกันมาเต็มๆ อีกทั้งยังใส่คอนเซ็ปต์ล้ำโลกในอนาคตออกมา พร้อมกับงานออกแบบซีจีที่เล่นใหญ่ ใส่ไม่ยั้ง

ประเภท : แอ็คชั่น, ผจญภัย, ไซไฟ
ผู้กำกับ : อู๋ซวนฮุ่ย
นักแสดงนำ : กู่เทียนเล่อ, หลิวชิงหวิน
ช่องทางการรับชม : NETFLIX

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix  

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง ATHENA อเธน่า

รีวิวหนัง ATHENA อเธน่า หนังฝรั่งเศส แนวดราม่าปัญหาสังคม เมื่อมีคลิปเด็กชายวัย 13 ปี ถูกตำรวจ 3 คนรุมทำร้ายจนตาย ตำรวจยังหาตัวคนผิดมาลงโทษไม่ได้ จึงกลายเป็นความโกรธแค้นในชุมชน อเธน่า ระเบิดขึ้น กลายเป็นการลุกฮือทั้งประเทศ [ ไม่สปอย ]

รีวิวหนัง ATHENA อเธน่า เรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์เหตุจลาจล ที่ลุกลามบานปลายขึ้นในพื้นที่เมืองของฝรั่งเศส โดยมีจุดเริ่มต้น จากที่มีคลิปหลุดแชร์ออกไปในโซเชียล พบเห็นเด็กหนุ่มถูกกลุ่มชายในชุดเครื่องแบบ เจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายและปล่อยเสียชีวิต เป็นชนวนเหตุทำให้ผู้คนในชุมนุม อเธน่า ลุกฮือขึ้นมาเรียกร้องความเป็นธรรม โดยมีพี่ชายทั้ง 2 คนของเด็กคนนั้น เป็นผู้ขับเคลื่อนทิศทางในเหตุการณ์โกลาหลครั้งนี้ และต้องการให้ตำรวจจับกุมคนที่ทำผิดมาลงโทษ เขาจึงรวมพลวัยรุ่นหัวรุนแรงในชุมชน และก่อจารจลขึ้นจนกลายเป็น สงครามกลางเมืองที่แสนวุ่นวาย สุดท้ายแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร ต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง

หนังนำเสนอเรื่องราวแทบทั้งเรื่อง ผ่านเทคนิคการถ่ายทำแบบ LONG TAKE หรือก็คือให้กล้องวิ่งตามตัวละครไปตลอดทั้งเรื่อง ทำให้เราได้เหมือนกับเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆ ทั้งกดดัน วุ่นวาย และลุ้นระทึก โดยเฉพาะฉากเปิดเรื่องที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมากจริงๆ ทำให้อยากดูต่อมากๆ ยังหยิบใส่ประเด็นเรื่องความแตกต่าง ด้านเชื้อชาติและศาสนาที่สะท้อนถึงกลุ่ม ผู้อพยพที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นในประเทศ ท่ามกลางการสู้รบปรบมือกับ กลุ่มที่ไม่เห็นชอบและเหยียดเชื้อชาติภายในประเทศ เป็นหนังจลาจลสุดเข้มข้น ที่โดดเด่นด้วยลีลาการเล่าเรื่อง สร้างความตื่นตาให้กับผู้ชมตลอดเวลา

ด้านองค์ประกอบ และโปรดักชั่นดีไซน์ถือว่าทำออกมาได้ดี หนังเต็มไปด้วยฉากปะทะของเหตุจลาจล และต้องวางบล็อกกิ้งต่างๆ ออกมาได้เป๊ะตามสูตรสำเร็จของการถ่ายทำแบบวันช็อต แต่ละฉากทำออกมาได้ค่อยข้างสมบูรณ์ ทั้งภาพและแสงสีต่างๆ จัดได้ว่าจัดวางออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ถือว่าเป็นหนังจลาจลจากฝรั่งเศส ที่ทำออกมาได้ดีทีเดียว การใช้วันเทคเป็นการถ่ายทอดนั้นไม่ยืดยานเกินไป ความเข้มข้นของเนื้อหาค่อนข้างหนักแน่น และชัดเจนดี ดูได้แล้วบน NETFLIX

ประเภท : แอ็คชั่น, ดราม่า, ระทึกขวัญ
ผู้กำกับ : โรแมง แกฟราส
นักแสดงนำ : ดาลี เบนซ์ซาลาห์, อันโธนี บาฮอน, ซามี ซลีมาน

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix  

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง Black Adam

รีวิวหนัง Black Adam อภิมหาภาพยนต์แอ็คชั่น ไซไฟ ชุปเปอร์ฮีโร่ จากค่าย DC โดยมีเดอะร็อคนำแสดง กับการเปิดบทบาท แอนตี้ฮีโร่ ที่เป็นได้ทั้งดีแลร้าย คาดเดาไม่ได้เลย หนังซูเปอร์ฮีโร่สไตล์เดอะร็อค ที่ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลงมาก เพราะเน้นแอ็กชั่นมันส์บันเทิงตลอด 2 ชั่วโมง [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวหนัง BLACK ADAM เป็นเวลาเกือบ 5,000 ปีแล้วหลังจากที่เขาได้รับพลังอันมหาสาลจากเทพเจ้าอียิปต์ และถูกคุมขังอย่างรวดเร็วตอนนี้ Black Adam พร้อมที่จะเป็นอิสระจากหลุมขุมขัง บนพื้นโลกของเขาแล้ว พร้อมที่จะปลดปล่อยความยุติธรรม ในแบบของเขาให้กับโลกสมัยใหม่ หลังจากจองจำมาอย่างยาวนาน แล้วพร้อมที่จะระเบิดมหาอำนาจ แห่งความยุติธรรมของตน บนโลกมนุษย์ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง แต่เขากลับพบว่ามีอยู่อย่างเดียวที่ยังไม่เปลี่ยนไป

ในโลกปัจจุบัน ดินแดนคาห์นดักที่เคยรุ่งเรืองในอดีต กลายเป็นดินแดนที่เสื่อมโทรม มีคนกลุ่มหนึ่งที่ถูกเรียกว่าแก๊งอินเตอร์ มุ่งหมายครอบครองมงกุฎซับบาส มีอาเดรียน่า หญิงสาวอีกคนที่ตกอยู่ท่ามกลางเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ เมื่อจู่ๆ Black Adam ถูกปลุกขึ้นมาทำให้เหล่าฮีโร่นาม จัสตัซ โซไซตี้ ออกปฏิบัติภารกิจผู้พิทักษ์

เรื่องนี้ที่พยายามปลุกปั้น และเข็นขึ้นมาให้กลายความเป็นจริง ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นทศวรรษทีเดียว และเดอะร็อกเองก็มีส่วนร่วมในหลายๆ องค์ประกอบของหนังเรื่องนี้ ที่มันก็สัมผัสได้ และแสดงออกมาเป็นภาพที่ได้เห็นอยู่ใน 2 ชั่วโมงเต็ม ของหนังฮีโร่เรื่องนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามาตรฐานของหนัง DC เริ่มทำออกมาได้ดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว

CG เนียนกริ๊บ เอฟเฟ็ค ตรึงตา จัดใส่มาไม่ยั้งมือ เสริมด้วยดนตรีประกอบสุดเร้าใจ ใครดูก็คงบอกว่ามันสุดๆ ถือว่าเป็นการกลับสานต่อ ของจักรวาล DC อีกครั้งหนึ่ง ผลลัพธ์ออกมาตรงตามมาตรฐานเดิม ของหนัง DC ที่เคยเห็นกันมา หนังเรื่องนี้ยังได้ยกระดับ และสร้างความแปลกใหม่

ส่วนแคสติ้งนักแสดงชุดใหญ่ ที่แท็กทีมกันอย่างทุ่มเท ช่วยให้หนังดูทรงพลังขึ้นอีกถือว่า DC สามารถทำหนังเรื่องนี้ ออกมาได้ดีและคุ้มค่าแก่การรับชมจริงๆ แฟนๆDC ห้ามพลาดเด็ดขาด

ภาพยนต์แนว : แอ็คชั่น , ผจญภัย , แฟนตาซี
ผู้กำกับ : เจาเม โกเยต-เซร์ร่า
นำแสดงโดย : ดเวย์น จอห์นสัน, ซาร่าห์ ชาฮิ, เพียร์ซ บรอสแนน


ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์  

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms


รีวิว The One Hundred ๑๐๐ ร้อยขา

รีวิว The One Hundred ๑๐๐ ร้อยขา หนังสัตว์ประหลาดสัตว์สยองเรื่องล่าสุดของค่ายเนรมิตรหนัง ฟิล์ม ค่ายหนังที่กล้าลุกขึ้นมาสร้างตำนาน บทใหม่ให้วงการภาพยนตร์ไทย กล้าคิด กล้าทำ กล้าสร้างหนัง ฉีกกรอบเดิมๆ หลังจากที่เราได้ดู Leio ไลโอโคตรแย้ยักษ์ และ The World of Killing People คืนหมีฆ่า ไปกันแล้ว จากแย้ มาหมี และปิดท้ายปีนี้ด้วย ตะขาบ

รีวิว The One Hundred ๑๐๐ ร้อยขา

ไม่เพียงทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนแปลงไป แต่หายนะครั้งใหม่กำลังคืบคลานโดยที่ไม่มีใครรู้ตัว เมื่อกลุ่มนักเดินทางจากต่างประเทศต้องถูกกักตัวอยู่ในสถานที่ซึ่งภาครัฐได้จัดหาให้ นำพายูทูบเบอร์สองพี่น้อง ฟิล และน้องสาว เฟม ต้องมาพักที่เดียวกันกับครอบครัวของ ลีโอ หนุ่มหัวร้อน กับน้องสาวจอมซน ลีน่า และพ่อที่เป็นใบ้ทั้ง 5 ต้องโดนแยกห้องพักกักตัวอยู่ในโรงแรมศรีจันทร์เพ็ญเป็นเวลา 14 วัน แต่ไม่ทันพ้นข้ามคืน

เหตุการณ์ผิดปกติก็เกิดขึ้นอย่างเป็นปริศนา ร้อนถึงผู้จัดการวิทย์ และพนักงานโรงแรมต้องพยายามปิดบังข่าว ความผิดปกติครั้งนี้ แต่ยิ่งปิดบังอำพราง กลับยิ่งพบความสยองแบบไม่คาดคิด เมื่อสัตว์ร้อยขาเยื้องย่างเขามาค่อยๆ ยึดร่างผู้คนในโรงแรม จนสัตว์ร้ายแพร่ขยายเผ่าพันธุ์มรณะ จำนวนมหาศาล พวกเขาจะต้านทานพวกมันได้อย่างไร ในสถานที่ปิดตายแห่งนี้ [ ต้องไปลุ้นกันเอา ]

กำกับโดย ภาคภูมิ วงษ์จินดา และ ชาลิต ไกรเลิศมงคลสองผู้กำกับฝีมือเยี่ยม ที่มีจากความชื่นชอบ และสนใจในเรื่องของสัตว์ประหลาดอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องสัตว์ในตำนานของไทย ผสมผสานความเชื่อเหนือธรรมชาติ ทั้งคู่เลยมีไอเดียที่จะสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมา สร้างให้มันเป็นมอนสเตอร์สายพันธุ์ไทยที่แตกต่าง ดุร้าย น่ากลัวไม่แพ้มอนสเตอร์ของต่างชาติเลยทีเดียว CG ถือว่าทำออกมาได้ดี เลยละเรื่องนี้ ขอตรบมือให้ความกล้า กล้าคิด กล้าทำ กล้าสร้าง กล้าฉีกแนวเดิมๆ

ภาพยนต์แนว : สยองขวัญ , ระทึกขวัญ
กำกับโด: ภาคภูมิ วงษ์จินดา และ ชาลิต ไกรเลิศมงคล
นำแสดงโดย :ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล, นิ้ง ชัญญา แมคคลอรี่ย์, เบน เบนจามิน โจเซฟ วานี, เดวิด อัศวนนท์, เบสท์ ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์, อันดา กุลฑิรา ยอดช่าง, กวาง วรรณปิยะ ออมสินนพกุล

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว หนัง สยองขวัญ

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า

รีวิวหนัง Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า เลดี้บั๊ก กับภารกิจครั้งสำคัญที่ทำให้เขา ต้องปะทะกับนักฆ่าจากทั่วโลก ทุกคนต่างมีเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกัน แต่ก็ต้องต่อกรกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ บนรถไฟที่เร็วที่สุดของญี่ปุ่น [ ไม่สปอยนะ ]


รีวิวหนัง Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า การปูเรื่องตัวละครหลายตัว คล้ายกับภาพยนตร์สไตล์ กาย ริชชี่ ผู้กำกับชื่อดัง กล่าวคือให้ความสำคัญกับตัวละคร ตัวรองๆทั้งหมด เพื่อให้เรื่องราวยุ่งเหยิงวุ่นวาย ก่อนจะไปคลายปมทุกอย่างในช่วงบทสรุปสุดท้าย แบบหนังอาชญกรรมตลกร้าย นอกจากนี้ ภาพยนตร์ BULLET TRAIN ยังมีความกวนประสาทในบทสนทนา ให้อารมณ์แบบดูหนังยียวนกวนอารมณ์ ในแบบเดียวกับ เควนติน ทาแรนติโน่

จุดเด่นของ BULLET TRAIN คือมุกตลกของนักแสดงที่มาพร้อมกันแบบรัวๆ แต่ละคนปล่อยออกมาฮาแบบไม่มียั้ง ซึ่งมุกนี่เกิดจากการที่ผู้กำกับ เปิดโอกาสให้นักแสดงแต่ละคนที่มาเข้าฉาก จะบทเยอะบทน้อย ก็ปล่อยให้ด้นสดบทพูดเองตามใจชอบ ไม่อิงไม่เน้นตามบทพูดมากจนเกินไป จุดนี้เองเป็นข้อดีที่ดึงศักยภาพนักแสดงออกมาได้แบบเต็มที่ การเล่าเรื่องนั้น DAVID LEITCH ผู้กำกับตั้งใจจะเล่าเรื่องหลัก ของภาพยนตร์ตัดสลับกับการเล่าเรื่องภูมิหลัง ของตัวละคร ที่เล่าออกมาได้ราบรื่น แบบไม่มีติดขัด มีส่วนผสมของความ ตลก ยียวน แบบลงตัว

BULLET TRAIN ถือเป็นหนังแอ็กชั่นชุลมุนที่เล่าเรื่องได้สนุก ฉากแอ็กชั่นทำออกมาได้ดี ฉากความวุ่นวายก็ทำออกมาได้ดี และตัวละครล้วนสร้างสีสันให้กับหนังได้อย่างมาก ถือว่าเป็นหนังฟอร์มใหญ่ส่งท้ายซัมเมอร์ 2022 ที่ค่อนข้างน่าพอใจ ถ้าเคยชอบผลงานชิ้นก่อนๆของ เดวิด ลีทช์ ทั้ง JOHN WICK ภาคแรก, DEADPOOL ภาคสอง และ FAST & FURIOUS ภาคแยก น่าจะเพลิดเพลินกับหนังเรื่องนี้ ท่ามกลางหนังภาคต่อหรือรีเมกมากมาย นานๆจะมีหนังออริจินัลโผล่เข้ามาให้ชมในช่วงนี้ รับชมได้แล้วบน NETFLIX


ภาพยนต์แนว : แอคชั่น, ระทึกขวัญ, คอมเมดี้
ผู้กำกับ : เดวิด ลิตช์
นักแสดงนำ : แบรด พิตต์, โจอี้ คิง, แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง Seoul Vibe  ซิ่งทะลุโซล

รีวิวหนัง Seoul Vibe  ซิ่งทะลุโซล ภาพยนตร์ย้อนยุคแนวแอ็คชันคอเมดี้ เรื่องใหม่จาก NETFLIX ที่ไม่เพียงแต่รวมนักแสดงเล็กใหญ่ ไปจนถึงไอดอลไว้อย่างคับคั่งเท่านั้น แต่ยังสามารถพาผู้ชมเจาะเวลาย้อนไปมองประวัติศาสตร์เกาหลีในยุคค.ศ. 1988 ที่นอกจากจะบันทึกช่วงเวลาแห่งการเติบโตของประเทศเกาหลีใต้ ในปีที่เป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวหนัง Seoul Vibe  ซิ่งทะลุโซล เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผู้คนในกรุงโซล ต่างทวีความตื่นเต้นในช่วงเวลาไม่กี่วัน ก่อนจะถึงพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 1988 นักซิ่งจากทีม ซางกเยดงซูพรีม ได้รับข้อเสนอที่มิอาจปฏิเสธ และต้องเข้าไปพัวพันกับการสืบสวนคดีเงินสินบนของบุคคลสำคัญ โดยมีสมาชิกประกอบด้วย ดงอุค นักดริฟต์มือหนึ่งผู้ยึดถือใน AMERICAN DREAM และอยากย้ายไปอยู่สหรัฐอเมริกา ดีเจจอห์น, บ๊กนัม ผู้นำทาง, ยุนฮี เจ้าแห่งการปลอมตัวบนมอเตอร์ไซค์ และ จุนกี แมคไกเวอร์แห่งซางกเยดง และทำหน้าที่เป็นสาย ซิ่งลอบเอาหลักฐานออกมาแฉให้ได้ เพื่อแลกกับการลบความผิดของพวกเขาเอง ปฏิบัติการของพวกเขาเริ่มต้นขึ้นแล้ว

เกาหลีใต้ในปี 1988 นำเสนอได้อย่างน่าสนใจมากๆ น่าสนใจตรงที่ไม่ได้แค่ เอาเนื้อเรื่องไปสวมใส่กับยุคสมัย และเหตุการณ์จริง แต่ตัวหนังเลือกที่จะหยิบเอาบรรยากาศ ของคนในกรุงโซลเวลานั้นมาใช้จริงๆ ทั้งบรรยากาศโอลิมปิกฟีเวอร์ ของคนเกาหลีใต้ที่เกิดขึ้น หลังการสิ้นสุดของรัฐบาลเผด็จการทหาร พอแนวคิดประชาธิปไตยเบ่งบานจากตะวันตก และแนวคิดเสรีนิยม AMERICAN DREAM ก็ติดสอยห้อยตามมา การหยิบเอาบรรยากาศ ทางการเมืองในช่วงเปลี่ยนผ่าน ผ่านการสะท้อน และเสียดสีบุคคลสำคัญที่คุณก็รู้ว่าใคร ซึ่งอันนี้ต้องชื่นชมว่าตัวหนังทำการบ้าน และเอามาเสนอได้ดี

โดยรวมหนังเรื่องนี้เป็นหนังขาซิ่งกรุงโซล จากเกาหลีใต้ ต้องยอมรับว่าช่วงฉากเปิดกับฉากปิดของหนังถือว่าทำได้น่าประทับใจและน่าสนใจไม่น้อย และเป็นจุดที่โอเคที่สุดของหนัง กับเนื้อหาที่ดูได้เพลินๆยังให้อารมณ์แบบ ทีเล่นทีจริงไปสักหน่อย นั่นจึงทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่สนุก แต่ยังค่อนข้างขาดเสน่ห์ที่ควรจะมีอยู่ไปสักหน่อย แต่กระนั้นทีมแคสติ้งนักแสดงของเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นแม่เหล็ก และไฮไลต์ของเรื่องนี้ ที่ช่วยทำให้ภาพรวมของหนัง สามารถประคับประคองไปตลอดทางได้อยู่ ฉากซิ่งและเชือดเฉือนต่างๆทำออกมาได้คมจริงๆ รับชมได้แล้วบน NETFLIX

ภาพยนต์แนว : แอ็คชั่น, คอมเมดี้, อาชญากรรม
ผู้กำกับ : มุนฮยอนซอง
นักแสดงนำ : ยูอาอิน, โกคยองพโย, อีกยูฮยอง, พัคจูฮยอน

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว Buppesanniwat 2 บุพเพสันนิวาส 2


รีวิว Buppesanniwat 2 บุพเพสันนิวาส 2 ต้องบอกเลยว่า มาแรงไม่หยุดแบบฉุดไม่อยู่กับ บุพเพสันนิวาส 2 หนังฟอร์มยักษ์ จากละครดังระดับตำนาน ที่สร้างกระแส ออเจ้า ฟีเวอร์ด้วยประวัติศาสตร์ของยุคกรุงศรีอยุธยา สู่การปรับโฉมเป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวของกรุงรัตนโกสินทร์ [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว Buppesanniwat 2 บุพเพสันนิวาส 2 สำหรับคนไหนที่รอคอยภาคต่อ ของละครดังของไทย บุพเพสันนิวาส หยิบเอาผลงานละคร บุพเพสันนิวาส 2561 ที่เคยสร้างกระแส พี่หมื่น การะเกด ที่เคยกวาดเรตติงละครสูงทะลุถึง 18.6 ส่วน วันพุธ-พฤหัสบดี ที่ออกอากาศเพลาใด เทรนด์ทวิตเตอร์ก็ติดอันดับมิได้ขาดสาย มาสร้างในรูปแบบภาพยนตร์

ในชาตินี้ ภพ หรือ ขุนสมบัติบดี เป็นผู้เชื่อในบุพเพสันนิวาสและตามจีบ แม่หญิงเกสร เพราะรูปร่างหน้าตาเหมือนกับนางในฝันที่เขาฝันถึงทุกคืนแต่ เกสร ไม่เชื่อในบุพเพสันนิวาส เป็นผู้หญิงหัวก้าวหน้า ร่ำเรียนวิชากับบาทหลวง ปาลเลอกัวซ์ รวมถึงภาษาอังกฤษ และพอเธอได้พบกับ เมธัส เธอก็สนใจเขามากกว่าเพราะ เมธัส หน้าฝรั่งพูดภาษาอังกฤษได้ และใช้ภาษาแปลกเหมือนมาจากอนาคต

เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ไทยยุครัชกาลที่ 3 ที่ตัวละครเอกทั้งสามต้องเข้าไปพัวพันคือ การมีบทบาทของนักธุรกิจชาวต่างชาติคนดังอย่าง นายหันแตร เจ้าของห้างฯ แห่งแรกในประเทศไทย ที่เสมือนเป็นหนึ่งในตัวร้ายในหน้าตำราเรียนวิชาประวัติศาสตร์ไทย เพราะมีความขัดแย้งทางการค้ากับราชสำนัก ซึ่งในหนังหมายถึง เสด็จในกรม เกี่ยวกับเรือกลไฟ เอ็กสเปรส ที่นำมาเสนอขายแก่สยามประเทศ นอกจากนี้ หนังยังมีบุคคลสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ไทยยุคนั้นคนอื่นๆอีกเช่น สุนทรภู่ และ หมอบรัดเลย์

โดยรวมแล้ว ต้องบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้นั้นค่อนข้าง ที่จะเรียกเสียงฮาได้ตลอดทั้งเรื่องเลย ตามสูตรหนังของค่าย GTH ที่ยังคงกลิ่นอายความเป็น ละครพีเรียดอิงประวัติศาสตร์สไตล์ ออเจ้า ได้อย่างสนุกสนาน เป็นหนังแฟนเซอร์วิสที่แฟนละครหลงรัก แต่ก็ยังมีพื้นที่กว้างให้คนที่ไม่เคยดูละครได้ตามทันแบบสนุกๆ หนังมีทั้งฉากฮาๆ ปนความโรแมนติกชวนฟิน และปิดท้ายด้วยแอ็คชั่นสุดมัน ตัวหนังเกือบ 3 ชั่วโมงที่หลายคนอาจรู้สึกว่ามันยาวเกินไป แต่ก็ถือว่าเป็นความบันเทิงที่เหมาะเอาไว้ดูแบบเพลินๆ ได้ฮาได้ฟินแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ดูได้แล้วบน NETFLIX

ผู้กำกับ : ADISORN TRESIRIKASEM
ผู้แต่ง : PATTARANAD BHIBOONSAWADE
ดารานำ : TANAWAT WATTANAPUTI, RANEE CAMPEN, PARIS INTARAKOMALYASUT

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว Fullmetal Alchemist  The Final Alchemy

รีวิว Fullmetal Alchemist  The Final Alchemy ฉบับคนแสดงภาคแรกลง Netflix ไปเมื่อ 2017 และนี้คือบทสรุปศึกสงครามแห่งการ เล่นแร่แปรธาตุ ของ Fullmetal Alchemist ทั้ง Fullmetal Alchemist: Final Chapter – The Avenger Scar และ Fullmetal Alchemist: Final Chapter – The Last Transmutation จะลงให้ได้ดูกันบน Netflix แบบ 3 ภาคเลย [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว Fullmetal Alchemist  The Final Alchemy ภาพยนตร์เรื่องนี้นับเป็นภาคที่ 3 ซึ่งต่อจาก FULLMETAL ALCHEMIST THE REVENGE OF SCAR 2021 ที่เพิ่งออกฉายทาง NETFLIX ไปเมื่อไม่นานมานี้ ภาคนี้จะเล่าต่อจากภาคที่แล้วหลังจากที่ เอ็ดเวิร์ด องค์ชายหลิน และ เอ็นวี่ ถูก กลัตโตนี กลืนกินเข้าไป เอ็ดเวิร์ด ได้หาทางหลุดพ้นออกมาจากท้องของ กลัตโตนี ได้สำเร็จซึ่งในขณะนั้น กลัตโตนี กำลังอยู่กับชายที่เปรียบเสมือนพ่อของพวก โฮมุนครุส ทำให้ เอ็ด ที่ออกมาได้เจอเข้ากับวายร้ายตัวจริงเสียทีหลังจากเจอกัน เอ็ด ก็ได้รู้ว่าพวกนี้กำลังวางแผนการใหญ่ที่อาจคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก เอ็ด และพรรคพวกต้องหาทางที่จะหยุดยั้งแผนการในครั้งนี้ และต้องหาทางที่จะรักษา อัล ให้กลับมามีมาร่างกายเหมือนเดิมให้ได้ สุดท้ายแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร พวกเขาจะต้องพบเจอกับอุปสรรคอะไรบ้างนั้น ทุกคนต้องไปรับชมทาง NETFLIX

ต้องบอกเลยว่าภาคสุดท้ายนี้สนุกมากๆ แต่ที่ดีกว่าเดิมคือน่าจะเป็นเพราะบทซึ่งอิงมาจากการ์ตูน ที่มันมีมุมมองที่น่าสนใจ คือพอดูแล้วรู้เลยว่าการ์ตูนต้นฉบับต้องดีแน่ๆ ทั้งเรื่องแก่นแท้ที่จะต้องสูญเสียสิ่งที่เราหวงแหน และยังมีอีกหลายประเด็นที่น่าหยิบยกมาเล่น แต่ก็พอเข้าใจเพราะนี่เป็นหนัง มันจึงไม่ได้มีเวลาอะไรมากมาย ซึ่งภาคนี้นับว่าทำได้ดี ไม่ได้เน้นแต่แอ็คชั่นมากมาย แถมยังมีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ การดำเนินเรื่องน่าติดตาม และดึงดูดได้ดี ดูได้แล้วบน NETFLIX

ภาพยนต์แนว : แฟนตาซี, แอ็คชั่น, ไซไฟ
นักแสดง : เรียวสุเกะ ยามาดะ, ทซึบาสะ ฮอนดะ, ดีน ฟูจิโอกะ, มิซาโกะ เร็นบุตซึ, คานาตะ ฮอนโกะ, ยูสุเกะ โอนุกิ, ชินจิ อูจิยามะ, ยูอินะ คุโรชิมะ, แม็คเคนยู, อาโตมุ มิซุอิชิ

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว THE WORLD OF KILLING PEOPLE คืนหมีฆ่า

รีวิว THE WORLD OF KILLING PEOPLE คืนหมีฆ่า ภายใต้หน้ากากหมี ที่ถูกปิดบังเอาไว้ กำลังจะนำมาซึ่งชะตากรรม ที่เปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล ความลับ ที่คุณไม่อยากให้ใครรู้ เรื่องราวที่คุณไม่อยากให้ใครเห็น กำลังถูกเฝ้ามอง จากสายตาคู่หนึ่ง ในสถานที่ปิดตายแห่งนี้ [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว THE WORLD OF KILLING PEOPLE คืนหมีฆ่า

เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนรัก ที่ตัดสินใจจะไปใช้เวลาช่วงวันหยุดด้วยกัน ในบ้านหลังหนึ่งกลางป่าใหญ่ แต่เรื่องราวกลับไม่ได้สนุกสนานอย่างที่พวกเขาคิด เพราะพวกเขากับถูกจ้องมองจากอะไรบางอย่างตลอดเวลา และเหมือนยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ สิ่งที่พวกเขาพยายามจะปิดซ่อนไว้ กลับกำลังจะถูกเปิดเผยออกมา การไล่ล่าสุดแสนระทึกในสถานที่ปิดตาย จึงเริ่มก่อตัวขึ้น พวกเขาจะหนีได้ไหม หรือจะลุกขึ้นสู้กันมันได้หรือเปล่า ต้องไปติดตามกันเอง

หนังเล่าถึงกับกลุ่มเพื่อนสนิท 5 คน ที่ต้องการหาเวลาพักผ่อนไปตั้งแคมป์ไฟ หลังจากที่ไม่ได้เจอกันนาน จึงจองรีสอร์ทที่พักเพื่อให้ทุกคนได้มาสังสรรค์ และสนุกร่วมกันในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ และเมื่อความสนุกเริ่มต้นขึ้น ความสยดสยองก็ได้คืบคลานเข้ามาภายใต้หน้ากากหมี ที่มาพร้อมอาวุธพร้อมเชือดทุกคน พล็อตเรื่องน่าติดตามมากๆ [ พล็อตเรื่อง มีส่วนคล้าย ซีรี่ส์จีนเรื่องหนึ่ง ซึ่งแอดชอบมากๆ ซึ่งฆาตกรเป็นคนที่คาดไม่ถึงจริงๆ ]

ภาพยนตร์อีกเรื่องจากค่ายเนรมิตรหนังฟิล์ม ที่ยังคงโดดเด่นด้วยคอนเซปต์ ของเรื่องที่น่าสนใจ และชวนติดตามเช่นเดิม นอกจากเป็นแนวไล่เชือดแล้ว ยังเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ ระหว่างเพื่อนที่เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย เพื่อนที่คุณไว้ใจมากที่สุด อาจจะเผยธาตุแท้ออกมาให้ได้เห็น กลุ่มเพื่อนที่ต้องหนีตายจากฆาตรกรหน้ากากหมี

ในค่ำคืนสุดหฤโหด ซึ่งนอกจากต้องหนีเอาตัวรอดแล้ว ยังต้องตามล่าหาความจริงว่า แท้ที่จริงแล้ว ฆาตกรภายใต้หน้ากากหมีนั้นเป็นใคร เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาร่วมเอาชีวิตรอดจากการไล่ล่าของหน้ากากหมี ปริศนาพร้อมกัน ภายใต้หน้ากากหมีนั้นเป็นใคร มาเอาใจช่วยให้พวกเขารอดพ้นค่ำคืนสุดหฤโหดนี้ ไปพร้อมกันกับภาพยนตร์คืนหมีฆ่า

ภาพยนต์แนว : เขย่าขวัญ, ระทึกขวัญ
นำแสดงโดย : ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล, ภัชทา จันทร์เงิน, ชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์
ผู้กำกับ : ลี ทองคำ, กานต์พงศ์ บรรจงพินิจ

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ระทึกขวัญ

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวซี่รี่ย์ Echoes เสียงสะท้อน

รีวิวซี่รี่ย์ Echoes เสียงสะท้อน ซีรีส์แนว ลึกลับ ระทึกขวัญ เรื่องราวการสลับตัวของพี่น้องฝาแฝด ที่เป็นมากกว่าเรื่องเล่นๆ กับปมซับซ้อนของฝาแฝด ที่เหมือนกันราวกับแกะ ขนาดคนไกล้ตัวยังแยกไม่ออก  มาค้นหาปริศนา ความจริง กันได้พร้อมกัน [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวซี่รี่ย์ Echoes เสียงสะท้อน เรื่องราวของฝาแฝด จีน่า และ เลนี่ ฝาแฝดที่มีความลับบางอย่างที่มีเพียงเธอ 2 คนเท่านั้นที่รู้ ความลับนั้นก็คือ เธอทั้งคู่มักชอบสลับตัวกันใช้ชีวิตมาตั้งแต่ยังเด็ก โดยทั้ง 2 คนจะสลับตัวกันไปใช้ชีวิตของอีกคนในวันเกิดของทุกปี ทั้งคู่จะไม่มีความลับต่อกัน และจะพูดคุยกันอยู่ตลอดซึ่งตัวของ เลนี่ จะอาศัยอยู่ที่บ้านเกิดกับสามีและพ่อในเมาท์ เอ็คโค่ รัฐเวอร์จิเนียส่วน จีน่า เธอย้ายไปอาศัยอยู่ที่ ลอสแอนเจลิส

ทว่าอยู่มาวันหนึ่งก็เกิดเรื่องประหลาดขึ้นเมื่อจู่ๆ เลนี่ ได้หายตัวไปทำให้ จีน่า ที่อยู่ในแอลเอต้องเดินทางกลับมายังบ้านเกิดเพื่อตามหาฝาแฝดของตน แต่เมื่อมาถึง จีน่า ได้พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ เพราะมีหลายอย่างที่ เลนี่ ไม่ได้บอกกับเธอจากนั้น จีน่า จึงเริ่มสืบหาความจริงว่าแท้จริงแล้ว เลนี่ หายไปไหน และเกิดอะไรขึ้นที่นี่บ้างตอนที่เธอไม่อยู่ สุดท้ายแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ต้องไปติดตามกัน

การดำเนินเรื่องกระชับ ปมซับซ้อน พลิกปมตลอดไม่น่าเบื่อ คลายปมเก่าและเปิดปมใหม่ทุกอีพี เน้นเล่าเรื่องผ่านมุมมองของ เลนี่ ส่วนที่เหลือค่อยๆคลายปมเพิ่มขึ้นผ่านมุมมองของ จีน่า สนุกต่อเนื่อง โดยรวมภาพสวยทั้งเรื่อง ตอนจบอาจสร้างคำถามมากมาย แต่ก็พอรับได้หากเทียบกับตอนจบของซีรีส์หลายเรื่องจาก NETFLIX [ บอกเลยว่าแอดชอบมาก เนื้อเรื้อง พล็อตเรื่อง ล้ำมากๆ ]

ซี่รี่ย์เรื่องนี้เป็นแนวสืบสวนสอบสวน จิตวิทยาระทึกขวัญ แรกๆก็ไม่เท่าไหร่พอดูไปเรื่อยๆกลับรู้สึกว้าวมาก [ ไม่น่าเชื่อว่าจะมี ซีรี่ส์แนวนี้ออกมาให้ดู ] ดูได้แบบเพลินๆจนจบ เนื้อเรื่องค่อนข้างซับซ้อน มีการซ่อนปมปริศนาต่างๆเอาไว้ และก็จะค่อยๆเล่าและเฉลยปม ออกมาทีละนิด อาจจะมีงงอยู่บ้าง เนื่องจาก 2 ฝาแฝดคู่นี้สลับตัวไปมากันตลอด เสื้อผ้าหน้าผม และรูปลักษณ์ภายนอก ไม่สามารถแยกออกว่าใครเป็นใคร ดูได้แล้วบน NETFLIX

ประเภท : ระทึกขวัญ, สืบสวนสอบสวน, หักมุม
ผู้กำกับ : วาเนสซ่า เกซี่
นักแสดงนำ : มิเชลล์ โมนาแฮน, แมตต์ โบเมอร์, แคเรน โรบินสัน, โจนาธาน ทักเกอร์, ดาเนียล ซันจาตา, อาลี สโตรกเกอร์, เกเบิล สวันลันด์, โรซานนี่ ซายาส, ไมเคิล โอนีลล์

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms