รีวิว ซีรีส์ Fate: The Winx Saga

รีวิว ซีรีส์ Fate: The Winx Saga

รีวิว ซีรีส์ Fate: The Winx Saga ฉบับคนไม่เคยดูเวอร์ชันการ์ตูน เป็นอีกครั้งที่เราได้ท่องโลกเวทมนตร์สุดลึกลับ แถมยังได้หวนรำลึกความหลังไปยังวัยเด็กแสนสดใส เมื่อเรื่องราวของเหล่าแฟรี่ที่มีพลังเวทแตกต่างกันไปอย่าง วิงซ์คลับ ซึ่งเคยโลดแล่นบนจอทีวีในฉบับการ์ตูนแอนิเมชันตั้งแต่ปี 2004-2019 ได้กลายเป็นซีรีส์ฉบับคนแสดงภายใต้ชื่อ เฟต เดอะ วิงซ์ ซาก้า บนแพลตฟอร์มความบันเทิงระดับโลกอย่าง Netflix นั่นเอง [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว ซีรีส์ Fate: The Winx Saga นี่ถือเป็นซีรีส์ออริจินัลของเน็ตฟลิกซ์ที่มีกลุ่มเป้าหมายคือวัยรุ่นไปจนถึงผู้ใหญ่ โดยการบิดเรื่องราวต้นฉบับที่สดใสและฟรุ้งฟริ้ง แต่มีกลิ่นอายของความมืดมิด ให้เป็นโทนดาร์ก สมจริง และจริงจังเหมือนกับที่เน็ตฟลิกซ์เคยทำสำเร็จไปแล้วใน RIVERDALE ที่หยิบนำหนังสือการ์ตูนในเครือ Archies มาดัดแปลงให้เป็นเรื่องเป็นจักรวาลได้ จากซีรีส์การ์ตูนสำหรับเด็กผู้หญิงที่เป็นที่นิยมทั้งในไทยและต่างประเทศอย่าง Winx Club จะถูกมาดัดแปลงเป็นซีรีส์ความยาว 6 ตอนที่แฝงไปด้วยโทนเรื่องที่มืดหม่นแต่ก็ยังมีเรื่องของพลังธาตุและเหล่าแฟร์รี่ผู้ใช้พลังในการปราบเหล่าร้าย

เพียงแต่ในครั้งนี้เน็ตฟลิกซ์กล้าที่จะดัดแปลงบางส่วน ที่ทำให้แฟนคลับหลายคนถึงกับหน้าบูด ไม่ว่าจะเป็นการตัดตัวละครฟลอร่า ที่เป็นตัวละครหลักของเรื่องที่เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของอนิเมะ ให้กลายเป็นเทอร่า สาวร่างใหญ่ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเธออีกที เปลี่ยน มูซ่า สาวเอเชี่ยนผมสีน้ำเงินให้กลายเป็นสาวอังกฤษไปแทน ไหนจะรวบตัวละครแก๊งตัวร้ายอย่าง The Trix ให้เป็น บีเอทริก สาวแสบไปโดยปริยาย ตัดตัวละคร เทคน่า ออกไปอีก เรื่องของคอสตูมกับเรื่องย่อที่แค่ปล่อยออกมาก็ทำเอาทุกคนกรีดร้อง ว่าตกลงมันใช่ Winx Club จริงเหรอ

ไม่ต้องปูเรื่องอะไรมากครับ แค่ตอนแรกก็เดินเรื่องทันทีแล้วค่อยมาเล่าปมทีหลัง แค่ยี่สิบนาทีตัวละครต่างๆ ที่สำคัญ ก็มาให้เราได้รู้จักถึงบุคลิก นิสัยใจคออย่างรวดเร็ว ไม่มีอืดอาดยืดยาด ไม่ออกนอกทะเล เล่าเรื่องเร็ว ปล่อยประเด็นไปแบบเรื่อยๆ แต่ค่อยๆ ทิ้งเชื้อความน่าสนใจไว้แต่ละตอน แต่หลังจากนั้นมันจะหักมุมใส่คนดู เล่าเฉลยว่าเป็นแบบนี้ สรุปเป็นอีกแบบ และยังมีเรื่องของความรัก มิตรภาพและพลังธาตุที่ปูมาเป็นระยะๆ ควบคู่กับปมปัญหาของตัวละครที่ใส่เข้ามาอย่างพอดิบพอดี ผสมกับฉากต่อสู้ที่ชวนให้ลุ้นระทึกในแต่ละตอน

ตัวละครทุกตัวก็ไม่ถูกทิ้งมีบทเด่นโชว์พลังเป็นของตัวเองในทุกตอน จบตอนนึงแล้วต้องเปิดดูตอนต่อไป อารมณ์ก็ต่อเนื่องมีทั้งสุข เศร้า เหงา โกรธ และตะลึง โชคดีที่ซีรีส์มีเพียง 6 ตอน แต่มันกลับสร้างความน่าสนใจภายใต้ความไม่หวือหวา เหมือนพยายามให้เราได้เห็นไปกับตัวละคร ก่อนจะพลิกล็อคให้หงายหลังกันเล่น ซึ่งผมว่ามันเวิร์คใช้ได้มาก เพราะแค่ดูตอนแรกจบ ผมก็รู้สึกว่านี่มันไม่ธรรมดาจริงๆ กลายเป็นว่าพอไม่คาดหวังแล้วมันกลับเกินคาด

นอกจากตัวละครผู้ดำเนินเรื่องแล้ว สิ่งที่น่าประทับใจสำหรับ Fate: The Winx Saga นั่นคือการปรับบรรยากาศการดำเนินเรื่องให้มีความสมจริง มีที่มาที่ไป ไม่ขายฝันจนกลายเป็นซีรีส์สำหรับเด็ก รวมไปถึงงานสร้างที่มีความอลังการ ฉาก แสง สี เสียง รวมทั้งซีจีพลังเวทมนตร์ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี แต่หวังว่าจะดีขึ้นอีกในซีซั่นต่อไป ติดอยู่ไม่กี่อย่างคือจำนวนตอนที่น้อยไปหน่อย จนกระทบต่อการดำเนินเรื่องบางช่วงบางตอนที่เร็วจนเกินไป ขาดการเล่ารายละเอียดที่มาที่ไปอย่างน่าเสียดาย และยังมีบทพูดที่คนธรรมดาไม่พูดกันในชีวิตประจำวันหลุดเข้ามาจนขัดอารมณ์เล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม แค่ซีซั่นแรกก็ทำออกมาได้ดีจนติดอันดับซีรีส์ยอดฮิต ทะยานขึ้นอันดับ 1 บน Netflix ในหลายประเทศและคาดหวังว่าซีซั่น 2 จะมีอะไรให้ตื่นเต้นมากขึ้น สามารถรับชม Fate: The Winx Saga ได้แล้ววันนี้ทาง Netflix รับรองว่าเหล่าแฟรี่จะพาทุกคนเพลิดเพลินไปกับการท่องโลกเวทมนตร์ครั้งนี้อย่างแน่นอน

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix 

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms