รีวิว หนัง คืนยุติ-ธรรม

เมื่อ มวลรวม ความอยุติธรรม ในสังคมไทย ถูกตกตะกอน คนคลั่งเพื่อแก้แค้น จึงบังเกิด [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว หนัง คืนยุติ-ธรรม มานพ ชายหนุ่มผู้มีอนาคตอันสดใส ทั้งเรื่องการงานและความรัก และกำลังจะแต่งงานกับ ดวงใจ แต่อนาคตของเขากลับต้องพังทลาย เมื่อ ดวงใจ โดนเจ้านายที่ชื่อ สิทธิชน ข่มขืน ทำให้มานพโกรธแค้นจึงไปทำร้ายสิทธิชนที่บริษัท นำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเมื่อ สิทธิชน พลั้งมือยิงดวงใจตาย ส่วนมานพได้รับบาดเจ็บสาหัส และตื่นขึ้นมาพร้อมตกเป็นผู้เป็นต้องหาในคดีฆ่าภรรยาตัวเองจนเขาต้องติดคุก

หลังจากออกจากคุกเขาได้พบกับ กานดา จิตแพทย์สาวที่อาสาเข้ามาเยียวยา อาการป่วยทางจิตใจของเขา แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปเธอกลับค้นพบ มานพ อีกคนที่เธอไม่รู้จัก ที่ลุกขึ้นมาตั้งตนเป็นศาลเตี้ยทวงความยุติธรรม แก่สังคมด้วยความรุนแรงในทุกค่ำคืน ยิ่งค่ำคืนล่วงเลยความรุนแรง ก็ทวีความโหดเหี้ยมจนกลายเป็นการนองเลือด และนำไปสู่ความจริงปริศนาที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด

เป็นหนังดราม่าและธริลเลอร์ ยิ่งเรื่องการใช้โรคทางจิตมาเป็นปมขยายเรื่อง ให้มีหักไปหักมาอย่างมีนัยสำคัญก็ด้วย แต่กระนั้น ภาพรวมของหนังถือว่ามีคุณภาพ บางฉากดีมาก ๆ เพลงมีความเกินเบอร์ในฉากบางฉากอยู่เยอะ ราวกับจะช่วยสุดกำลังให้ซีนต่างๆ น่าสนใจอยู่ตลอดเรื่องเหมือนกลัวคนดูเบื่อ

ช่วงแรก เล่าเรื่องหลายชั้นให้คนดูเข้าใจได้ง่ายขึ้นแต่ต้น ทั้งการใช้ข้อความเล่าว่า นี่เป็นการย้อนอดีตถึงเหตุการณ์ ฆ่าหลายศพในคืนเดียวที่ถูกเรียกขานว่า คืนยุติ-ธรรม แล้วยังเล่าชั้นต่างๆ ที่ตัดสลับไปพร้อมกัน ทั้งตัวเหตุการณ์ คืนยุติ-ธรรม เหตุการณ์ที่ทำให้มานพติดคุก เรื่องราวก่อนหน้าที่หมอกานดามารักษามานพ เรื่องราวของหมอกานดา ที่ให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนหลังคดี คืนยุติ-ธรรม

คือหนังมีหลายชั้นและพยายามหลอกล่อคนดูให้ประหลาดใจ กับข้อมูลที่ซ่อนไว้ จนทำให้การเล่าเรื่องที่ควรเคลียร์ๆ อย่างน้อยแยกช่วงเวลาต่างๆ ให้ขาดกันด้วยภาพหรือเทคนิคทางภาพยนตร์ เพียงช่วงแรกที่เรายังมึนกับวิธีเล่าของมัน พอจับทางเรื่องได้ตรงจุดนี้ก็จะไม่เป็นปัญหามากนัก

สิ่งที่ต้องชื่นชม คงเป็นความหาญกล้าในการนำเสนอเรื่องราวแนวดราม่าธริลเลอร์ โดยจับประเด็นเรื่องความ อยุติธรรมต่างๆ ที่คุ้นหูคุ้นตาในข่าวต่างๆ มาประสมใหม่ให้เข้มข้นน่าสนใจ ชวนรู้ชวนดูได้ สร้างพื้นที่ใหม่ๆ ให้วงการหนังไทยได้แก้เลี่ยนบ้าง และต่อเนื่องมาให้ชื่นชมคือการเขียนบท ที่ใส่ใจพยายามให้มีลูกเล่นมากกว่าตีหัวเข้าบ้าน ตรงนี้ขอชื่นชมในความพยายามใส่ใจในการเขียนบท ซึ่งหนังไทยยุคใหม่ๆ เริ่มให้ความสนใจตรงนี้กันมากขึ้น หมดแล้วยุคที่เอาหน้าหนัง เอาดารานำแล้วบทหนังจะเป็นอย่างไรก็ได้ ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้ไม่ดูถูกคนดู น่าจะตรงสุด

ส่วนที่ขอชมสุดติ่งหัวใจ ต้องยกให้การสร้างตัวละครที่ดี และเหล่านักแสดงนำที่ตอบสนองกับการเป็นตัวละครได้ยอดเยี่ยมมากๆ ก๊อต ในบทบาทของ มานพ จัดว่าทำการบ้านเรื่องคนที่มีอาการทางจิตดีสุดๆ ในตอนที่เป็น มานพ น่าประทับใจมากๆ นอกจากนี้ดาราสมบทอื่นๆ ทั้งหน้าใหม่ทั้งรุ่นเก๋า ต่างก็นำเสนอตัวละครผ่านการแสดงได้ดีจริงๆ ต้องบอกว่า การแสดงคือปัจจัยเด่นเด้งสุดในหนังเรื่องนี้จริงๆ และประเด็นนี้ประเด็นเดียวก็พอที่จะให้ทุกคนได้สนุกกับหนังแล้ว [ แต่ที่น่าสงสัยเสียเหลือเกินว่าพระเอกไปฝึกกับจอห์น วิก มาตอนไหนกันนะถึงเก่งเวอร์ขนาดนั้น ] ดูคืนยุติ-ธรรม ได้แล้ว บน Netflix

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์ ไทย

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง Santana : สำหรับคนชอบแอคชั่นเดือดๆจากแอฟฟริกาใต้บน Netflix

แอดมินขอนำเสนอเลยครับสำหรับคนรักหนังแนวแอ็กชั่นไล่ล่าจากประเทศแองโกล่า แอฟฟริกาใต้ที่เพิ่งลง Netflix เกี่ยวกับการไล่ล่าแก้แค้นของสองพี่น้องตระกูลซานตาน่า ที่ต้องการล้างแค้นให้กับพ่อแม่ของเขาที่ถูกฆาตกรรมไปเมื่อ 35 ปีก่อนเนื้อเรื่องจะเป็นยังไงไปดูรีวิวกันเลย เรื่องราวของหนัง จะเล่าถึงพี่น้องซานตาน่า มาทิอัส และดิอัส

ที่พ่อแม่ของพวกเขาถูกฆาตกรรมไปเมื่อ 35 ปีก่อน และปัจจุบัน คนพี่มาทิอัส ได้กลายเป็นนายทหารปราบปรามยาเสพติด และคนน้องดิอัส ได้เป็นหัวหน้าชุดตำรวจปราบปรามยาเสพติด ในขณะที่พวกเขากำลังปฏิบัติหน้าที่ ก็ได้เบาะแสเกี่ยวกับอาชญากรยาเสพติดตัวเป้ง และยังเป็นคนเดียวกับที่เคยฆ่าพ่อแม่ของพวกเขา ทั้งสองพี่น้องจึงหาทางตามล่าคนร้ายให้ได้

เอาละครับมาเข้าเรื่องเนื้อหาสำคัญของเรื่องมีแค่นี้จริงๆ สำหรับหนังจากแอฟฟริกาใต้เรื่องนี้ เป็นการไล่ล่า เพื่อล้างแค้นส่วนตัว และด้วยความเป็นหนังแอ็กชั่น ความโหดมันเลยโผล่มาตั้งแต่ต้นเรื่องที่มันทำให้เราได้เห็นฉากเด็กถูกยิงแต่ความเป็นหนังแอ็กชั่นโดยรวมต้องบอกเลยว่าฉากพวกนี้น้อยเกินมาตรฐานทั่วไปค่อนข้างเยอะ แต่อยากจะให้ทำความเข้าใจและเปิดใจดูด้วย เพราะนี้คือหนังจากแอฟฟริกาใต้ ถ้าทำความเข้าใจได้แบบนี้และเปิดใจดูมันก็พอจะดูได้อยู่บ้าง

ขอสรุปสำหรับหนังเรื่องนี้เลยครับ แอดมินว่าฉากไล่ล่านั้น มีประมาณ 30% จากทั้งเรื่อง ทั้งๆ ที่หน้าหนังมันนำเสนอมาแบบว่า ไล่ล่า ล้างแค้น เจ้าฆ่าพ่อข้า แต่พอดูจริงๆ เนื้อหาน้อยนิด มีแต่น้ำ แต่ฉากแอ็กชั่นก็พอดูได้ ไม่ได้แย่ อยู่ในระดับกลางๆ แล้วเน้นไปดำเนินเรื่องเรื่อยเปื่อย เช่นด้านความรัก หรือดราม่าที่ดูแล้วมันไม่ได้เป็นสาระสำคัญอะไรกับเนื้อเรื่องหลัก แต่ฉากพวกนี้มีเยอะ มันก็เลยดูแปลกๆ ขัดๆ กันกับหนังที่จั่วหัวมาว่าแอ็กชั่นอย่างเนื้อหาหลัก การล้างแค้นให้พ่อแม่ อันนี้ก็ไม่มีมูลเหตุจูงใจให้เราอินไปกับตัวละครได้เลย

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix