รีวิวหนัง Tid Noi ทิดน้อย อั้ม พัชราภา คืนจอภาพยนตร์อีกครั้ง

การหวนคืนสู่จอเงินอีกครั้งในรอบหลายปี ของ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ นักแสดงสาวเจ้าบทบาท ทีมาประกบคู่กับ อนันดา เอเวอริงแฮม ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจากค่าย M39 และดาราตลกระดับแถวหน้า เท่ง เถิดเทิง [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวหนัง Tid Noi ทิดน้อย เรื่องราวมุมมองความสัมพันธ์ของสามตัวละครอย่าง นาค มาก และ ทิดน้อย แน่นอนว่าเพียงชื่อตัวละครเราคงจะนึกเรื่อง นางนาก ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ ดำเนินเรื่องผ่านตัวละครของ ทิดน้อย ชายผู้มั่นคงในความรักแท้ ที่ดูแลสาวงามประหนึ่งนางในดวงใจทว่าความรักของ ทิดน้อย กลับไม่ง่ายเมื่อมีอีกหนึ่งหนุ่มที่เข้ามาทำให้ใจของ นางนาค นั้นหวั่นไหวและรักเธอไม่แพ้กัน จึงทำให้เกิดเป็นความสัมพันธ์อันซับซ้อน และความอลหม่านในการสานต่อความรักของพวกเขา

ต้องบอกเลยว่า เห็นหน้า เท่ง เถิดเทิง ทำให้นึกถึงแก๊งสามช่าทันที เพราะแต่ละฉากนั้นทำขึ้นมา เพื่อเน้นการเล่นมุกตลก ของนักแสดงในเรื่อง เหมือนดูรายการตลกทางโทรทัศน์ จังหวะการตัดต่อ และการลำดับเรื่องราวในภาพยนตร์ ทำออกมาได้อย่างนุ่มนวล และลื่นไหลเป็นอย่างดี มีการแบ่งลำดับในการเล่าเรื่องพาร์ทหลัก

พาร์ทของตัวละครก็ทำได้ดี มีความหนักเบาของอารมณ์สลับกันไป มีจุดเชื่อมโยงของแต่ละฉาก ให้ได้เห็นว่าตัวละครนั้นคือใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร และเพื่ออะไร มีเป้าหมายของตัวละครวางไว้อย่างชัดเจน อีกทั้งการใส่มุกตลกเข้ามา มีการจัดสรรลำดับให้ผู้ชมสามารถ ยิ้มตามออกมาได้อย่างเป็นระยะ ผสานไปกับความดราม่าแบบกลมกล่อม

พล็อตการดำเนินเรื่อง ต้องบอกเลยว่าว่า สามารถเดาทางในการดำเนินเรื่องได้ตั้งแต่ต้น จนถึงปลายทางของเรื่อง ด้วยการนำเอาพื้นฐาน ของเรื่องราว นางนาก มาเล่าเรื่องโดยเพิ่มตัวละครของ ทิดน้อย ลงไปเท่านั้น มันอาจจะมีความแปลกใหม่ในฉากของตัวละคร ทิดน้อย แต่หากตัดตัวละครนี้ออกไป เหมือนเรากำลังดู นางนาก ในอีกเวอร์ชั่นเลย

ถือว่าเป็นภาพยนตร์อีกคอมเมดี้ ดราม่า ที่สามารถดูได้อย่างเพลินๆ อาจจะไม่ได้มีความแปลกใหม่ แต่ถือว่าองค์ประกอบการแสดง การถ่ายทอดอารมณ์ ของตัวละครทำออกได้น่าพึงพอใจ เราได้สัมผัสความรักแท้ ที่ไม่ได้ครอบครอง แต่เธอยังคงเป็นความสุขของหัวใจ และฉากใหม่ที่เสริมเข้ามา พาให้เราได้สนุกไปแบบครบรส

ประเภทหนัง : คอมเมดี้ , ดราม่า
ผู้กำกับ : เท่ง เถิดเทิง
นำแสดงโดย : อั้ม พัชราภา, เท่ง เถิดเทิง, อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม
ความยาวหนัง 87 นาที

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว PUSS IN BOOTS: THE LAST WISH

รีวิว PUSS IN BOOTS: THE LAST WISH กลับมาอีกครั้ง กับเจ้าเหมียวยอดนักสู้ ในรอบทศวรรษ กับการสารต่อตำนาน ผู้ที่ไม่เกรงกลัวผู้ใด พุซ อิน บู๊ทส์ เค้าได้เดินทาง สู่แบล็ค ฟอเรสต์ เพื่อค้นหาวิชชิ่งสตาร์ในตำนาน [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว PUSS IN BOOTS: THE LAST WISH หลังผจญภัยเสี่ยงตายมานานในที่สุด พุซ เจ้าเหมียวนักดาบทรงเสน่ห์ ก็ต้องเผชิญหน้าความกลัวเป็นครั้งแรก เมื่อเขาได้พบกับ หมาป่ามัจจุราช ที่มาย้ำเตือนว่าต่อไปนี้ พุซ จะเหลือชีวิตสุดท้ายก่อนไปพบยมบาล พุซ เลือกเนรเทศตัวเองไปพักพิงกับ มาม่าลูน่า ผู้ให้ที่พักพิงเหมียวจรจัดที่นั่น พุซ ได้พบกับ เพอร์โร เจ้าหมาชิวาว่าจรจัดที่คิดว่าตัวเองเป็นแมว และผูกสัมพันธ์กัน แต่แล้วความสงบที่ พุซ ฝันหาก็เป็นอันจบสิ้น หลังการมาเยือนของ โกลดีล็อกส์ และครอบครัวหมีที่มาจ้างเขาให้ไปขโมยแผนที่ สู่ดาวประทานพร

ซึ่งผู้ที่ครอบครองแผนที่ดังกล่าวคือ แจ็ก ออร์เนอร์ หนุ่มร่างท้วมเจ้าของโรงงานผลิตขนมปัง แต่ไม่ใช่ พุซ แค่คนเดียวที่ต้องการแผนที่ดังกล่าวเพราะเขาได้พบกับ คิตตี้ ซอฟต์พอวส์ เหมียวถ่านไฟเก่าที่ฝีมือเหนือกว่าเขาอย่างเห็นได้ชัด แต่เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน คิตตี้ พุซ และ เพอร์โร จึงออกเดินทางตามหาดาวประทานพร โดยมีคู่แข่งคือ แจ็ก ออร์เนอร์ และครอบครัวหมีของ โกลดีล็อกส์

สำหรับอนิเมชั่นเรื่องนี้ ต้องขอชมเป็นอันดับแรกเลยก็คือ คุณภาพของการถ่ายทอดงานภาพได้สวยมากๆ มีความเท่ การเคลื่อนไหวในซีนแอ็คชั่น จะออกแนวสต๊อบโมชั่นซึ่งที่ชื่นชม และชื่นชอบมากๆเลยคือ ซีนแอ็คชั่นแต่ละฉาก ดีไซน์ท่วงท่าการต่อสู้ด้วยอาวุธต่างๆ หรือปฎิสัมพันธ์กับสิ่งของรอบข้าง และความต่อเนื่องของซีนนั้นได้แบบดี แล้วมุมกล้องก็ว้าวมาก

อย่างกับเล่นเกมที่มีคัทซีนมันๆเลย ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะดีไซน์แอ็คชั่น และการตัดต่อมาได้ดีขนาดนี้ ด้านตัวเนื้อเรื่อง ให้แง่คิดต่างๆ ถือว่าดีมากเลยละ ไม่รู้หรอกว่าเด็กๆดูแล้วจะเก็ตแค่ไหน แต่บทภาคนี้เป็นบทที่ดี เขียนออกมาได้กลมกล่อม แทรกความฮา ความตื่นเต้น แง่คิดมาได้แบบเนียนๆยันจบเลย

ถือว่าเป็นหนังอนิเมชั่น ที่ค่อนข้างให้ผลลัพธ์ ออกมาได้อย่างน่าประหลาดใจไม่น้อย มาในภาคนี้กลับเต็มไปด้วยแนวการพัฒนาที่ดีขึ้นในทุกทาง บทหนังแข็งแรง การเล่าเรื่องมีจังหวะ คาแรกเตอร์ต่างๆ เต็มไปด้วยมิติ กลายเป็นองค์ประกอบที่นำมายำรวมกัน แล้วทำออกมาได้ดีมาก ถือว่าเป็นอนิเมชั่นที่ไม่ควรพลาดเลยอีกหนึ่งเรื่อง โดยเฉพาะเหล่าทาสแมว รับรองว่าเรื่องนี้จะทำให้คุณหลงรักแมวส้ม อย่างพุชมากขึ้นอีกเยอะเลย ห้ามพลาดเด็ดขาด

ประเภทหนัง : แอนิเมชั่น / ผจญภัย / แอคชั่น
ผู้กำกับ : โจ ครอว์ฟอร์ด, จานูล เมอร์คาโด
นำแสดงโดย : อันโตนิโอ บันเดรัส , ซัลมา ฆาเยก , ฟลอเรนซ์ พิว

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว หนังน่าดูปี 2023

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง TILL WE MEET AGAIN ภารกิจรักด้ายแดง

รีวิวหนัง TILL WE MEET AGAIN ภารกิจรักด้ายแดง หนังไต้หวันที่เป็นกระแส และกวาดรายได้ถล่มทลาย ในรอบปีที่ผ่านมา หนังที่หยิบเอาความเชื่อ และความรักมาผูกโยงเข้าไว้ด้วยกัน จึงกลายออกมาเป็นหนัง ที่มี่เสน่ห์ [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวหนัง TILL WE MEET AGAIN ภารกิจรักด้ายแดง อลัน ถูกฟ้าผ่าตายทำให้เขาเสียชีวิตทันที อย่างที่ไม่ทันได้ตั้งตัว วิญญาณของ อลัน เดินทางเข้าสู่โลกหลังความตายมันทำให้เขาสูญเสียความทรงจำในชาติก่อน โลกหลังความตายส่งให้เขา ต้องไปฝึกฝนทำหน้าที่เป็นเทพเจ้าแห่งความรัก และที่นี่เองทำให้เขาได้พบกับ พิ้งกี้ ที่จะต้องมาเป็นคู่หูของเขาโดยที่ทั้งคู่ จะต้องกลับขึ้นมายังโลกมนุษย์เพื่อทำหน้าที่จับคู่ ให้คนมารักกันด้วยด้ายแดง

อลัน อยู่บนโลกมนุษย์นานเท่าไร มันยิ่งทำให้เขาอยากตามหา ว่าเขาคือใครในชาติก่อน จนเขาได้มาเจอกับ เสียวหมี่ คนรักของเขาซึ่งมันทำให้ภาพในอดีตค่อยๆกลับคืนมา และภารกิจสำคัญที่สุดก็คือการผูกด้ายแดง ให้กับอดีตคนรักของเขา เสียวหมี่ กับใครสักคนที่จะรักและดูแล เสียวหมี่ ไปตลอดกาล

เนื้อหาหนังทีทำออกมา ดูเพลินได้ตลอดทั้งเรื่อง ด้วยความที่เป็นหนังรักแฟนตาซี นั่นจึงเป็นเสน่ห์ทำให้หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาได้ครบรส รูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของหนังไต้หวันจริงๆ หนังที่หยิบประเด็นนั้นใส่ประเด็นนี้เข้ามาปะปนในเรื่องเดียวกัน ทั้งที่ยังไม่สามารถแบกรับ และถ่ายทอดทั้งหมดที่มีอยู่ในมือได้ทั้งหมด ทำให้แกนหลักที่เป็นเรื่องความรัก ในภารกิจจับคู่ที่มีเสน่ห์อันตราตรึงใจ ทำออกมาได้ดีมาก

ไม่แปลกใจที่กลายเป็นหนังไต้หวัน ที่ประสบความสำเร็จแห่งปี เพราะหลายองค์ประกอบ ค่อนข้างเหมาะเจาะ ที่มอบความบันเทิงให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี ประเด็นต่างๆของหนังยังไม่สามารถบีบคั้น และเล่าได้ดีเพียงพอ สื่อออกมาให้คนดู รวมทั้งการหยิบเอาประเด็นความเชื่อหลังความตาย และหลักคำสอนทางศาสนา เข้ามาเชื่อมโยงเข้าเป็น ในรูปแบบหนังที่ดูได้สนุก และเมื่อทีมนักแสดงนำทั้ง 3 คนมาอยู่ด้วยกัน ต่างฝ่ายต่างสนับสนุนกันและกัน และขับเคลื่อนหนังเรื่องนี้ออกมาได้สนุกและเพลิดเพลินใจได้เป็นอย่างดี ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ที่มีทั้งเสียงหัวเราะ และน้ำตาคละเคล้ากันไป

ความยาว : 2 ชั่วโมง 8 นาที
ประเภท : คอมเมดี้, ดราม่า, แฟนตาซี
กำกับโดย : กิดเดนส์ โค
นำแสดงโดย : ไค เคอ, จิ้งเกิ้ล หวัง, วิเวียน ซ่ง

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว หนังน่าดูปี 2023

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวอนิเมชั่น Strange World ลุยโลกลึกลับ

รีวิวอนิเมชั่น Strange World ลุยโลกลึกลับ ได้เวลาออกเดินทาง สู่ดินแดนที่เหล่าสัตว์วิเศษ ในจินตนาการ ที่กำลังรอไปสร้างตำนานบทใหม่ และรับมือกับภารกิจ สุดอันตรายที่จะมาท้าทาย ความสามารถของพวกเขา ตระกูลนี้ [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวอนิเมชั่น Strange World ลุยโลกลึกลับ เรื่องราวสองพ่อลูกนักสำรวจ เยเกอร์ และ เสิร์ชเชอร์ ออกเดินทางเพื่อค้นพบโลกใบใหม่ แต่เป็นพืชพันธุ์สีเขียวที่ชื่อว่าแพนโดทำให้ เสิร์ชเชอร์ เปลี่ยนใจนำมันกลับไปสร้างชื่อ ยังอวาโลเนีย ปล่อยให้ เยเกอร์ เดินทางออกสำรวจโลกตามลำพัง 25 ปีต่อมา เสิร์ชเชอร์ ได้สร้างครอบครัว และมีลูกชายอย่าง อีธาน ผู้กำลังค้นหาตัวตน และกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งรัก และเขินอายทุกครั้งเมื่อได้พบกับ ดีอาโซ่ หนุ่มแสนเท่ที่เขาแอบหมายปอง แต่เมื่อเกิดวิกฤติพืชพันธุ์ในอวาโลเนียกำลังล้มตาย เสิร์ชเชอร์ พร้อมด้วยครอบครัวของเขาจำต้องออกผจญภัยอีกครั้ง ในขณะเดียวกันการเดินทางครั้งนี้อาจทำให้ อีธาน ค้นพบตัวเองและกล้าพอที่จะบอกความปรารถนาลึกๆ ในใจกับพ่อของเขาเสียที

อนิเมชั่นจาก DISNEY ทั้งที แน่นอนว่าคุณภาพ ของเทคนิคการสร้างย่อมไม่ธรรมดา ภาพคอมพิวเตอร์กราฟิก3 มิติ ยังสวยงาม การเคลื่อนไหวลื่นไหล นุ่มนวลตามมาตรฐาน ของยักษ์ใหญ่แห่งวงการ อนิเมชั่น อยู่แล้ว อีกทั้งในช่วงเหตุการณ์ย้อนอดีต บอกเล่าวีรกรรมของเยเกอร์ เคลด ก็เล่าด้วยภาพ 2 มิติในสไตล์หนังสือภาพ และการ์ตูนคอมิก ซึ่งทำออกมาได้งามไม่แพ้กัน

โลกลึกลับแฟนตาซีสุดพิสดาร อีกทั้งหนังยังให้ข้อคิดดีงาม ตัวหนังยังเปิดเผยชัดเจนว่าตัวละครอีธาน เป็นเกย์ที่มีแฟนเป็นผู้ชายแบบเป็นตัวเป็นตน ทั้งยังเป็นที่รับรู้ และยอมรับของครอบครัว และคนรอบข้าง เรื่องนี้แฝงข้อคิดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ไว้ได้อย่างสร้างสรรค์ และน่าสนใจ ทั้งยังสอดคล้องกับทฤษฎีกายา ซึ่งเป็นแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมที่กำลัง เป็นที่สนใจในปัจจุบัน

ที่โดดเด่นเหนื่ออื่นใดคือฉากซึ่งออกแบบมาได้ดีเยี่ยม เต็มเปี่ยมด้วยสีสันสดใส ไม่ว่าจะเป็นฉากบ้านไร่แพนโดของครอบครัวเคลด ดินแดนอะวาโลเนียที่ดูเป็นเมืองแนวสตีมพังค์แบบรักษ์ธรรมชาติ และโลกใต้พิภพซึ่งเต็มไปด้วยทัศนียภาพ และสิ่งมีชีวิตสุดวิจิตรพิสดาร เอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวมากกว่า คออนิเมชั่นห้ามพลาดเด็ดขาด

ประเภท : อนิเมชั่น, แอคชั่น, ผจญภัย
กำกับโดย : ดอน ฮอล
เขียนบทโดย : กุย งิวเยน
พากย์เสียงโดย : เดนนิส เควด และ เจค จิลเลนฮอล

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว อนิเมชั่น

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวซีรีส์ Big Mouth ซีรี่ส์อาชญากรรม สุดมัน ลุ้นระทึก จากเกาหลี

รีวิวซีรีส์ Big Mouth ซีรี่ส์อาชญากรรม สุดมัน ลุ้นระทึก จากเกาหลี ทนายดวงซวย ที่ชะตาพลิกผัน กลายมาเป็นนักต้มตุ๋น อัจริยะในชั่วข้ามคืน แต่โทษทัณฑ์ ที่โดนยัดเยียด มีหรือที่ใครจะยอมรับ ชะตาไม่ใช่เรื่องที่ควรกระทำ หนทางเดียว ที่เหลืออยู่ คือต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อเอาชีวิตรอด และเปิดโปงความจริงให้ได้ [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวซีรีส์ Big Mouth ซีรี่ส์อาชญากรรม สุดมัน ลุ้นระทึก จากเกาหลี

พัคชองโฮ ทนายความที่เก่งแต่ปาก แต่อัตราการชนะมีเพียงน้อยนิด จนคนต่างตั้งฉายาให้เขามา BIG MOUTH วันหนึ่งเขาได้รับ ให้ว่าความกับคดีใหญ่คดีหนึ่ง แต่เขานั้นไปลูกความลับของลูกความเข้า เขาจึงพยายามเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง กับสาธารณชนแต่เขากับประสบอุบัติเหตุเสียก่อน ระหว่างที่เขาฟื้นขึ้นมา เข้าก็ถูกตำรวจจับตัวข้อหาเสพสารเสพติด และเมื่อตำรวจเข้าไปตรวจค้น ที่สำนักความทนายความของเขา ก็ไปพบว่าที่สำนักทนายความซุกซนทรัพย์สินไว้มากมาย เมื่อตำรวจสืบต่อไปก็พบว่า ทรัพย์สินพวกนั้นเป็นของ อาชญากรข้ามชาติที่ถูกขนานนามว่า BIG MOUTH และตำรวจก็เลยเชื่อว่าอาชญากรนามว่า BIG MOUTH ที่จริงก็คือ พัคชองโฮ ทนายความที่เก่งแต่ปากคนนี้นี่เอง [ คนอะไรจะดวงซวยขนาดนี้ ]

ด้านเทคนิคการสร้าง งานภาพ และโปรดักชั่นต่างๆ ส่วนนี้ก็ถือว่าจัดหนักจัดเต็ม ทำได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว โทนสีภาพที่ใช้ก็ช่วยสร้างบรรยากาศให้ซีรีส์ดูมืดหม่น และจริงจังมากขึ้น เพราะเรื่องนี้จะย้อมด้วยสีโทนเย็นแทบตลอดทั้งเรื่อง มันทำให้ดูจริงจังมากขึ้น แถมตอนท้ายที่ทำภาพเป็นขาวดำ ก็เหมือนกับการสื่อว่าพระเอกได้เปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งหากใครจำตอนต้นได้ว่าภาพก็ขาวดำเหมือนกัน นั่นก็อาจจะสื่อว่าเสียงพระเอกที่เล่าตอนต้นเรื่องนั้น คือพระเอกที่กลายเป็น BIG MOUSE ไปแล้ว

ส่วนในด้านเสื้อผ้าหน้าผม โลเคชั่นในการถ่ายทำ ทุกอย่างทำออกมาได้ดีเยี่ยมหมด ต้องยอมรับเลยว่าทุกวันนี้เกาหลีเขาเก่งจริงๆ ผลงานภาพยนตร์ และซีรีส์ของเขานี่จริงจังและไปไกลมากๆ [ หันมาที่ไทย วนหลูปอยู่กับ ตลก รัก นักเรียน ผี ]
สรุปโดยรวมก็คือเป็นซีรีส์ที่สนุกเรื่องหนึ่ง โดยส่วนตัวแอดชอบมาก เพราะมีหารหักมุมไปมา เกมพลิงตลอด ถือว่าดูได้สนุกเพลินๆ ซึ่งหากใครที่ชอบซีรีส์แนวสืบหาความจริง แอดแนะนำเลยว่าน่าจะชอบซีรีส์เรื่องนี้ได้ไม่ยาก

ซีรี่ส์แนว : ระทึกขวัญ , ลึกลับ , ดราม่า
กำกับโดย : โอชุงฮวัน
นักแสดงนำ : อีจงซอก , อิมยุนอา , คิมจูฮอน

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ซีรี่ส์ เกาหลี

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวซีรี่ส์ REVENGE OF OTHERS

รีวิวซีรี่ส์ REVENGE OF OTHERS แนวล้างแค้นเอาคืน ของนักเรียนมัธยมปลาย ผลงานของ พัคโซโลมอน จากซีรีส์มัธยมซอมบี้ All of Us Are Dead ประกบคู่ ชินเยอึน เนื้อเรื่องแนวสืบสวนสอบสวนซ่อนดราม่า เข้มข้นสนุกน่าติดตาม สาวกซีรีส์เกาหลีไม่ควรพลาด [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวซีรี่ส์ REVENGE OF OTHERS เรื่องราวของ อ๊กชานมี เด็กสาวมัธยมปลายที่เป็นนักกีฬายิงปืนอยู่ที่ปูซาน เธอมีพี่ชายฝาแฝดอยู่หนึ่งคน ทั้งคู่เป็นเด็กกำพร้ามาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งตอนอายุ 8 ขวบ พี่ชายของเธอได้ถูกครอบครัวหนึ่งรับเลี้ยงและได้ย้ายไปอยู่ที่โซล อ๊กชานมี ติดต่อพี่ชายเธออยู่เสมอทว่าจู่ๆ ในระหว่างที่ทั้ง 2 วิดีโอคอลหากันจู่ๆ พี่ชายเธอก็วางสายไปแบบไม่บอกไม่กล่าว หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน เธอถึงได้รู้ข่าวว่าพี่ชายเธอเสียชีวิตแล้ว

เธอจึงเดินทางมายังโซล แต่ปรากฎว่าตำรวจสรุปคดีว่าพี่ชายเธอฆ่าตัวตาย งานนี้เธอจึงตัดสินใจย้ายไปเรียนโรงเรียนของพี่ชายที่โซล เพื่อสืบหาว่าใครเป็นคนฆ่าพี่ชายของเธอซึ่งเธอได้รู้จักกับ จีซูฮอน เด็กหนุ่มที่จะมาช่วยเธอในการสืบคดีครั้งนี้ พร้อมกับไล่แก้แค้นสั่งสอน พวกนักเรียนที่ชอบรังแกคนอื่น สุดท้ายแล้วเรื่องราวทั้งหมด จะลงเอยอย่างไร ต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง [ แอดบอกเลยว่า สนุกมาก ลุ้นทุกตอน ]

นักแสดงนำคือดีมาก ส่วนปมของตัวละครบทรองอื่นๆ ก็มีหลายปม คือทุกตัวละครดูแล้วเหมือนเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือเป็นหนึ่งในต้นเหตุของคดีฆาตกรรมปริศนา ซึ่งบทละครก็เขียนมาให้ดูสนุก และน่าติดตามมาก ในขณะที่เส้นเรื่องความรักก็ค่อยๆ สร้างเหตุการณ์ให้พระเอกนางเอกเข้ามาใกล้ชิด เกี่ยวข้องกันอยู่ตลอดเวลา ใครที่ชื่นชอบซีรีส์แนวนี้ ห้ามพลาดเด็ดขาด [ แอดนี้ชอบมากๆ ] ซีรีส์มี 12 ตอนจบเท่านั้น อย่าพลาดเด็ดขาด

ซีรี่ส์แนว : ลึกลับสอบสวน,อาชญากรรม,ระทึกขวัญ
นักแสดง : พัคโซโลมอน,ชินเยอึน
ผู้กำกับ : คิมยูจิน

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ซีรี่ส์ เกาหลี

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง Black Adam

รีวิวหนัง Black Adam อภิมหาภาพยนต์แอ็คชั่น ไซไฟ ชุปเปอร์ฮีโร่ จากค่าย DC โดยมีเดอะร็อคนำแสดง กับการเปิดบทบาท แอนตี้ฮีโร่ ที่เป็นได้ทั้งดีแลร้าย คาดเดาไม่ได้เลย หนังซูเปอร์ฮีโร่สไตล์เดอะร็อค ที่ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลงมาก เพราะเน้นแอ็กชั่นมันส์บันเทิงตลอด 2 ชั่วโมง [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวหนัง BLACK ADAM เป็นเวลาเกือบ 5,000 ปีแล้วหลังจากที่เขาได้รับพลังอันมหาสาลจากเทพเจ้าอียิปต์ และถูกคุมขังอย่างรวดเร็วตอนนี้ Black Adam พร้อมที่จะเป็นอิสระจากหลุมขุมขัง บนพื้นโลกของเขาแล้ว พร้อมที่จะปลดปล่อยความยุติธรรม ในแบบของเขาให้กับโลกสมัยใหม่ หลังจากจองจำมาอย่างยาวนาน แล้วพร้อมที่จะระเบิดมหาอำนาจ แห่งความยุติธรรมของตน บนโลกมนุษย์ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง แต่เขากลับพบว่ามีอยู่อย่างเดียวที่ยังไม่เปลี่ยนไป

ในโลกปัจจุบัน ดินแดนคาห์นดักที่เคยรุ่งเรืองในอดีต กลายเป็นดินแดนที่เสื่อมโทรม มีคนกลุ่มหนึ่งที่ถูกเรียกว่าแก๊งอินเตอร์ มุ่งหมายครอบครองมงกุฎซับบาส มีอาเดรียน่า หญิงสาวอีกคนที่ตกอยู่ท่ามกลางเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ เมื่อจู่ๆ Black Adam ถูกปลุกขึ้นมาทำให้เหล่าฮีโร่นาม จัสตัซ โซไซตี้ ออกปฏิบัติภารกิจผู้พิทักษ์

เรื่องนี้ที่พยายามปลุกปั้น และเข็นขึ้นมาให้กลายความเป็นจริง ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นทศวรรษทีเดียว และเดอะร็อกเองก็มีส่วนร่วมในหลายๆ องค์ประกอบของหนังเรื่องนี้ ที่มันก็สัมผัสได้ และแสดงออกมาเป็นภาพที่ได้เห็นอยู่ใน 2 ชั่วโมงเต็ม ของหนังฮีโร่เรื่องนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามาตรฐานของหนัง DC เริ่มทำออกมาได้ดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว

CG เนียนกริ๊บ เอฟเฟ็ค ตรึงตา จัดใส่มาไม่ยั้งมือ เสริมด้วยดนตรีประกอบสุดเร้าใจ ใครดูก็คงบอกว่ามันสุดๆ ถือว่าเป็นการกลับสานต่อ ของจักรวาล DC อีกครั้งหนึ่ง ผลลัพธ์ออกมาตรงตามมาตรฐานเดิม ของหนัง DC ที่เคยเห็นกันมา หนังเรื่องนี้ยังได้ยกระดับ และสร้างความแปลกใหม่

ส่วนแคสติ้งนักแสดงชุดใหญ่ ที่แท็กทีมกันอย่างทุ่มเท ช่วยให้หนังดูทรงพลังขึ้นอีกถือว่า DC สามารถทำหนังเรื่องนี้ ออกมาได้ดีและคุ้มค่าแก่การรับชมจริงๆ แฟนๆDC ห้ามพลาดเด็ดขาด

ภาพยนต์แนว : แอ็คชั่น , ผจญภัย , แฟนตาซี
ผู้กำกับ : เจาเม โกเยต-เซร์ร่า
นำแสดงโดย : ดเวย์น จอห์นสัน, ซาร่าห์ ชาฮิ, เพียร์ซ บรอสแนน


ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์  

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms