รีวิวหนัง Unlocked แค่ทำโทรศัพท์มือถือหาย ทำไมต้องกลายเป็นศพ

รีวิวหนัง Unlocked แค่ทำโทรศัพท์มือถือหาย ทำไมต้องกลายเป็นศพ แนวเกาหลีระทึกขวัญ ฆาตกรผ่านโทรศัพท์มือถือ สุดโหด โรคจิต มื่อฆาตกรสุดโฉด มองเห็นทุกอย่างในโทรศัพของเรา ถือว่าดูแล้วจนไม่กล้าจับโทรศัพท์อีกเลย ปรื้อๆๆ [ สปอยนิดๆ ]

รีวิวหนัง Unlocked แค่ทำโทรศัพท์มือถือหาย ทำไมต้องกลายเป็นศพ อีนามี เป็นพนักงานการตลาดของบริษัทสตาร์ตอัปแห่งหนึ่ง เธอมักแวะเวียนไปช่วยงานที่ร้าน ขายเครื่องดื่มของพ่อบ้างยามที่ว่าง ชีวิตก็ไม่ต่างจากคนทั่วไปที่ขยันตั้งใจทำงาน สนุกสังสรรค์กับเพื่อนฝูงหลังงาน เอ็นจอยบนโลกโซเชียล เป็นคนติดมือถือเหมือนที่เราเห็น [ เป็นที่เราเห็น ทุกวันนี้ แอดเองก็เหมือนกัน ] แล้วคืนหนึ่งเธอก็ทำโทรศัพท์หาย บนรถเมล์ระหว่างเมากลับบ้าน มารู้ตัวอีกทีพร้อมการสร่างเมาในวันรุ่งขึ้น

ต่อมาก็พบว่ามีคนที่เก็บโทรศัพท์ได้นั้นเป็นเสียงผู้หญิง คนในสายแจ้งเธอให้ไปรับได้ที่ร้านซ่อม เพราะเกิดพลาดทำเครื่องตก หน้าจอเลยแตก โดยได้จัดการค่าใช้จ่ายให้เสร็จสรรพแล้ว ที่ร้านซ่อมโทรศัพท์ เธอต้องให้รหัสปลดล็อคเครื่องกับช่างเพื่อทำงาน ใช้เวลารอไม่นาน เธอก็ได้รับโทรศัพท์ของเธอกลับคืนไป แต่นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปิดประตูให้มิจฉาชีพ เข้าสู่เซิร์ฟเวอร์ข้อมูลชีวิตของเธอ และกลายเป็นสตอล์คเกอร์ตามส่องเธอทุกฝีก้าวผ่านกล้องหน้าของเครื่องตั้งแต่นั้นมา

ตัวหนังเปิดมาได้ดีมาก ค่อยๆเล่า และนำพาผู้ชมเข้าสู่ความวุ่นวาย ในชีวิตของผู้คนกับการใช้โทรศัพท์ในแต่ละวัน ได้อย่างน่าสนใจ และถ่ายทอดออกมาได้สมูทมาก เล่าได้สนุก แถมมุมกล้องก็มีความน่าตื่นเต้นเร้าอารมณ์ รวมกับเพลงประกอบที่ใส่มาได้ลงตัว และช่วยปรับอารมรณ์ก่อนเข้าสู่เรื่องราวหลักได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ตัวหนังเองก็มีแก่นหลักที่แข็งแรง และร่วมสมัยมาก อย่างในเรื่องของการใช้สมาร์ทโฟน มันไม่ใช่แค่ใช้เพียงติดต่อสื่อสารแต่เพียงเท่านั้น แต่สมาทร์ทโฟนได้กลายเป็นส่วนสำคัญ ของชีวิตคนในยุคปัจจุบัน [ ยุคนี้ทำอะไร กินข้าว เข้าห้องน้ำ หรือทำอะไร ก็ต้องเล่นมือถือไปด้วย ]

เป็นหนังระทึกขวัญ ที่สะท้อนมุมมองปัญหาของอาชญากรรม ไซเบอร์ในสังคมปัจจุบัน การเล่าเรื่องค่อนข้างไหลลื่น และสามารถบีบคั้นอารมณ์ผู้ชมได้ดี งานกราฟฟิคเล่าไลฟ์สไตล์ของชีวิตบนโทรศัพท์ และเทคนิคการใช้ภาพสมจริงบนจอโทรศัพท์ แทนสายตาสตอล์คเกอร์ก็ทำได้น่าสนใจ แปลกตาไปจากแบบเดิมๆที่เคยเห็นมา ยิ่งเมื่อบอกว่านี่เป็นงานเดบิวท์ของผู้กำกับก็ถือว่าทำออกมาได้ดีจริงๆ คอหนังเกาหลีห้ามพลากเด็ดขาด ดูจบแล้วคุณอาจไม่กล้าเล่นโทรศัพท์อีกเลย

ประเภท : ระทึกขวัญ, อาชญากรรม
กำกับโดย : คิมแทจุน
นำแสดงโดย : อิมชีวาน, ชอนอูฮี, คิมฮีวอน
ช่องทางการรับชม : NETFLIX

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว NETFLIX

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง WHAT TO DO WITH THE DEAD KAIJU ซากนรกไคจู

รีวิวหนัง WHAT TO DO WITH THE DEAD KAIJU ซากนรกไคจู หนังฟอร์มยักษ์ ผลงานเล่นใหญ่ กลางกรุงด้วยซาก ไคจู ที่รอวันทำลายล้าง รัฐบาลจะจัดการอย่างไรกับซาก สัตว์ประหลาดที่นอนตาย ก่อนที่ซากของมัน จะปล่อยก๊าซที่ทำให้ เกาะญี่ปุ่นจมหายในพริบตา [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวหนัง WHAT TO DO WITH THE DEAD KAIJU

เรื่องราวหลังจากที่มวลมนุษยชาติ สามารถเอาชีวิตรอดจากภัยพิบัติ สัตว์ประหลาดขนาดใหญ่อย่าง ไคจู ได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกคนต่างสบายใจ แต่หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เริ่มตระหนัก ได้ว่าพวกเขาจะต้องจัดการกับเศษซากที่มีขนาดใหญ่มากกว่าตึกของพวกมัน แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่พวกเขาสามารถหยุดยั้ง สัตว์ประหลาดตัวใหญ่ที่ทำลายล้างเมือง มาอย่างยาวนานนับทศวรรษ แต่การจัดการกับศพของมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย

เพราะนอกจากมันจะมีขนาดใหญ่ เทียบเท่ากับเมืองทั้งเมืองแล้วภายในของพวกมันยังมี แก๊สสะสมรอวันระเบิดที่จะทำลายล้างเมืองได้ ไม่แพ้กับพวกมันสมัยยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นทางรัฐบาลญี่ปุ่นจึงต้องพยายามทุกวิถีทาง เพื่อหาทางกำจัดเศษซากของพวกมันให้สำเร็จโดยด่วน งานนี้เป็นงานที่จะต้องแข่งขันกับเวลา และต้องทำอย่างระมัดระวัง เพราะหากผิดพลาดเพียงเล็กน้อย จนทำให้ร่างของพวกมันระเบิดหายนะจะเกิดขึ้น ในประเทศญี่ปุ่นแน่นอน

ต้องบอกว่า หนังที่เต็มไปด้วยไอเดียที่แจ่มแจ้ง คอนเซ็ปต์ที่ดีและน่าสนใจไม่เบา ผลลัพธ์ของหนังที่ออกมานั้น ต้องบอกอย่างตรงไปตรงมา น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง เพราะความเจ๋งของแนวคิดต่างๆ ของหนังเรื่องนี้ สามารถเดินไปเคียงข้างกับความประหลาดในการเล่าเรื่องของหนัง ได้ดีมากๆ เป็นหนังเกือบ 2 ชั่วโมงที่ทำให้รู้สึก ให้เราตั้งใจดูมากๆ ถือว่าประสบความสำเร็จ โดยรวมแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือว่าเป็นภาพยนตร์ไอเดียดีมาก ตัวหนังค่อนข้างดีในหลายองค์ประกอบ การแสดงของทีมนักแสดงก็ใส่มาเต็ม ต้องบอกเลยว่าเป็นหนังที่ไอเดียดีจริงๆ

ความยาว : 1 ชั่วโมง 55 นาที
ประเภท : คอมเมดี้, ดราม่า, ไซไฟ
กำกับโดย : ซาโตชิ มิกิ
นำแสดงโดย : เรียวซุเกะ ยามาดะ, ทาโอะ ทสึชิยะ

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว WARRIORS OF FUTURE นักรบแห่งอนาคต

รีวิว WARRIORS OF FUTURE นักรบแห่งอนาคต ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ อันยิ่งใหญ่ ในการสร้างผลงานไซไฟของซูเปอร์สตาร์ฮ่องกง กู่เทียนเล่อ และนี่ก็คือหนังฮ่องกงที่เพิ่งจะสร้างปรากฏการณ์เขย่าบ็อกซ์ออฟฟิศมาหมาดๆ ที่เป็นการประชันบทบาทของทีมนักแสดง ระดับแม่เหล็กของวงการ กันมาเต็ม [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว WARRIORS OF FUTURE นักรบแห่งอนาคต เรื่องราวในอนาคตอันใกล้ บนโลกที่สภาวะอากาศไม่เอื้ออำนวยต่องการดำรงชีวิต ทำให้มนุษย์ต้องมีการปรับตัวในการใช้ชีวิตที่แสนอย่างลำบาก แต่ปรากฏว่ามีอุกกาบาตปริศนาพุ่งตกลงมา พร้อมกับนำเอาสิ่งมีชีวิต ประเภทพืชปริศนา มาเติบโตอยู่บนโลก แม้ว่ามันจะช่วยกรองสภาพอากาศบนโลกดีขึ้น

แต่กลับพบว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่กำลังเป็นภัยคุกคาม อีกกองกำลังทหารต้องเผชิญหน้ากับแผนการ และสิ่งที่ไม่คาดคิด โลกเกิดความเสียหายจากมลภาวะ และภัยพิบัติ และเถาวัลย์เอเลี่ยนชื่อ แพนดอร่า ที่เติบโตอย่างรวดเร็วได้มาถึงยังโลก และสร้างหายนะที่ร้ายแรงยิ่งขึ้น ทีมต่อสู้ต้องออกปฏิบัติการ แข่งกับเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวันสิ้นโลก และนั่นคือโลกใน นักรบแห่งอนาคต

หนังแอ็คชั่นไซไฟ ทุนสร้าง 45 ล้านเหรียญสหรัฐ ของฮ่องกงที่ กำกับโดยนักทำวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ NG YUEN-FAI เป็นการกำกับเรื่องแรกของเขา ซึ่งก็ทำให้หนังเรื่องนี้ เน้นหนักไปจุดขายฉากไซไฟเต็มกระหน่ำทั้งเรื่อง แทบไม่มีฉากไหนเลยที่ไม่พึ่ง CG ซึ่งผลงานที่ออกมาก็นับว่าดีใช้ได้

เรื่องราวพยายามขายแนวคิดของหน่วยทหารแห่ง อนาคตที่ต่อสู้กับเอเลี่ยน และยังมีต้นไม้ยักษ์เป็นตัวเอกของเรื่อง นอกจากนี้ยังมีมนุษย์ต่างดาวมหึมาสัญจรไปมา ในอาคารที่ถูกทิ้งร้างในบริเวณใกล้เคียง เหมือน CG คัทซีนในเกม อลังการมากๆ เน้นการต่อสู้ที่รวดเร็ว และมีการออกแบบสัตว์ ลวดลายบนตัวเป็นอักษรจีน มีลักษณะคล้ายมังกร หรือสัตว์ในตำนานของจีน และหุ่นยนต์ทหารไล่ตามฮีโร่ การต่อสู้ในชุดเกราะของทหาร รายละเอียดของชุด และหุ่นมีความสวยงามสมจริง รวมถึงการขับหนีหุ่นยนต์ยักษ์ และไล่ตามฉากยาวๆ ก็สนุกและตื่นเต้นมาก ดูไม่เบื่อตั้งแต่ต้นจนจบ

WARRIORS OF FUTURE นักรบแห่งอนาคต หนังฮ่องกงที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลกับรายได้กว่า 80 ล้านเหรียญฮ่องกง และเพิ่งจะสร้างปรากฏการณ์เขย่าบ็อกซ์ออฟฟิศมาหมาดๆ กับหนังแอคชั่นไซไฟฟอร์มใหญ่ ที่ใช้ทุนสร้างเกือบ 2 พันล้านบาท เป็นฝีมืองานสร้างของผู้กำกับ อู๋ซวนฮุ่ย ที่ขึ้นมาชิมลางสร้างหนังเรื่องนี้ หลังจากที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการกำกับเทคนิคพิเศษมาหลายปี ที่เป็นการประชันบทบาทของทีมนักแสดงระดับแม่เหล็กของวงการ ตัวพ่อตัวแม่ยกขบวนกันมาเต็มๆ อีกทั้งยังใส่คอนเซ็ปต์ล้ำโลกในอนาคตออกมา พร้อมกับงานออกแบบซีจีที่เล่นใหญ่ ใส่ไม่ยั้ง

ประเภท : แอ็คชั่น, ผจญภัย, ไซไฟ
ผู้กำกับ : อู๋ซวนฮุ่ย
นักแสดงนำ : กู่เทียนเล่อ, หลิวชิงหวิน
ช่องทางการรับชม : NETFLIX

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix  

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง Black Adam

รีวิวหนัง Black Adam อภิมหาภาพยนต์แอ็คชั่น ไซไฟ ชุปเปอร์ฮีโร่ จากค่าย DC โดยมีเดอะร็อคนำแสดง กับการเปิดบทบาท แอนตี้ฮีโร่ ที่เป็นได้ทั้งดีแลร้าย คาดเดาไม่ได้เลย หนังซูเปอร์ฮีโร่สไตล์เดอะร็อค ที่ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลงมาก เพราะเน้นแอ็กชั่นมันส์บันเทิงตลอด 2 ชั่วโมง [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวหนัง BLACK ADAM เป็นเวลาเกือบ 5,000 ปีแล้วหลังจากที่เขาได้รับพลังอันมหาสาลจากเทพเจ้าอียิปต์ และถูกคุมขังอย่างรวดเร็วตอนนี้ Black Adam พร้อมที่จะเป็นอิสระจากหลุมขุมขัง บนพื้นโลกของเขาแล้ว พร้อมที่จะปลดปล่อยความยุติธรรม ในแบบของเขาให้กับโลกสมัยใหม่ หลังจากจองจำมาอย่างยาวนาน แล้วพร้อมที่จะระเบิดมหาอำนาจ แห่งความยุติธรรมของตน บนโลกมนุษย์ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง แต่เขากลับพบว่ามีอยู่อย่างเดียวที่ยังไม่เปลี่ยนไป

ในโลกปัจจุบัน ดินแดนคาห์นดักที่เคยรุ่งเรืองในอดีต กลายเป็นดินแดนที่เสื่อมโทรม มีคนกลุ่มหนึ่งที่ถูกเรียกว่าแก๊งอินเตอร์ มุ่งหมายครอบครองมงกุฎซับบาส มีอาเดรียน่า หญิงสาวอีกคนที่ตกอยู่ท่ามกลางเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ เมื่อจู่ๆ Black Adam ถูกปลุกขึ้นมาทำให้เหล่าฮีโร่นาม จัสตัซ โซไซตี้ ออกปฏิบัติภารกิจผู้พิทักษ์

เรื่องนี้ที่พยายามปลุกปั้น และเข็นขึ้นมาให้กลายความเป็นจริง ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นทศวรรษทีเดียว และเดอะร็อกเองก็มีส่วนร่วมในหลายๆ องค์ประกอบของหนังเรื่องนี้ ที่มันก็สัมผัสได้ และแสดงออกมาเป็นภาพที่ได้เห็นอยู่ใน 2 ชั่วโมงเต็ม ของหนังฮีโร่เรื่องนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามาตรฐานของหนัง DC เริ่มทำออกมาได้ดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว

CG เนียนกริ๊บ เอฟเฟ็ค ตรึงตา จัดใส่มาไม่ยั้งมือ เสริมด้วยดนตรีประกอบสุดเร้าใจ ใครดูก็คงบอกว่ามันสุดๆ ถือว่าเป็นการกลับสานต่อ ของจักรวาล DC อีกครั้งหนึ่ง ผลลัพธ์ออกมาตรงตามมาตรฐานเดิม ของหนัง DC ที่เคยเห็นกันมา หนังเรื่องนี้ยังได้ยกระดับ และสร้างความแปลกใหม่

ส่วนแคสติ้งนักแสดงชุดใหญ่ ที่แท็กทีมกันอย่างทุ่มเท ช่วยให้หนังดูทรงพลังขึ้นอีกถือว่า DC สามารถทำหนังเรื่องนี้ ออกมาได้ดีและคุ้มค่าแก่การรับชมจริงๆ แฟนๆDC ห้ามพลาดเด็ดขาด

ภาพยนต์แนว : แอ็คชั่น , ผจญภัย , แฟนตาซี
ผู้กำกับ : เจาเม โกเยต-เซร์ร่า
นำแสดงโดย : ดเวย์น จอห์นสัน, ซาร่าห์ ชาฮิ, เพียร์ซ บรอสแนน


ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์  

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms


รีวิวหนัง Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า

รีวิวหนัง Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า เลดี้บั๊ก กับภารกิจครั้งสำคัญที่ทำให้เขา ต้องปะทะกับนักฆ่าจากทั่วโลก ทุกคนต่างมีเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกัน แต่ก็ต้องต่อกรกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ บนรถไฟที่เร็วที่สุดของญี่ปุ่น [ ไม่สปอยนะ ]


รีวิวหนัง Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า การปูเรื่องตัวละครหลายตัว คล้ายกับภาพยนตร์สไตล์ กาย ริชชี่ ผู้กำกับชื่อดัง กล่าวคือให้ความสำคัญกับตัวละคร ตัวรองๆทั้งหมด เพื่อให้เรื่องราวยุ่งเหยิงวุ่นวาย ก่อนจะไปคลายปมทุกอย่างในช่วงบทสรุปสุดท้าย แบบหนังอาชญกรรมตลกร้าย นอกจากนี้ ภาพยนตร์ BULLET TRAIN ยังมีความกวนประสาทในบทสนทนา ให้อารมณ์แบบดูหนังยียวนกวนอารมณ์ ในแบบเดียวกับ เควนติน ทาแรนติโน่

จุดเด่นของ BULLET TRAIN คือมุกตลกของนักแสดงที่มาพร้อมกันแบบรัวๆ แต่ละคนปล่อยออกมาฮาแบบไม่มียั้ง ซึ่งมุกนี่เกิดจากการที่ผู้กำกับ เปิดโอกาสให้นักแสดงแต่ละคนที่มาเข้าฉาก จะบทเยอะบทน้อย ก็ปล่อยให้ด้นสดบทพูดเองตามใจชอบ ไม่อิงไม่เน้นตามบทพูดมากจนเกินไป จุดนี้เองเป็นข้อดีที่ดึงศักยภาพนักแสดงออกมาได้แบบเต็มที่ การเล่าเรื่องนั้น DAVID LEITCH ผู้กำกับตั้งใจจะเล่าเรื่องหลัก ของภาพยนตร์ตัดสลับกับการเล่าเรื่องภูมิหลัง ของตัวละคร ที่เล่าออกมาได้ราบรื่น แบบไม่มีติดขัด มีส่วนผสมของความ ตลก ยียวน แบบลงตัว

BULLET TRAIN ถือเป็นหนังแอ็กชั่นชุลมุนที่เล่าเรื่องได้สนุก ฉากแอ็กชั่นทำออกมาได้ดี ฉากความวุ่นวายก็ทำออกมาได้ดี และตัวละครล้วนสร้างสีสันให้กับหนังได้อย่างมาก ถือว่าเป็นหนังฟอร์มใหญ่ส่งท้ายซัมเมอร์ 2022 ที่ค่อนข้างน่าพอใจ ถ้าเคยชอบผลงานชิ้นก่อนๆของ เดวิด ลีทช์ ทั้ง JOHN WICK ภาคแรก, DEADPOOL ภาคสอง และ FAST & FURIOUS ภาคแยก น่าจะเพลิดเพลินกับหนังเรื่องนี้ ท่ามกลางหนังภาคต่อหรือรีเมกมากมาย นานๆจะมีหนังออริจินัลโผล่เข้ามาให้ชมในช่วงนี้ รับชมได้แล้วบน NETFLIX


ภาพยนต์แนว : แอคชั่น, ระทึกขวัญ, คอมเมดี้
ผู้กำกับ : เดวิด ลิตช์
นักแสดงนำ : แบรด พิตต์, โจอี้ คิง, แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว LOU แกะรอยในความมืด

รีวิว LOU แกะรอยในความมืด หนังฟอร์มเล็กเปลี่ยนมาขึ้นอันดับ 1 บน NETFLIX กันได้เรื่อยๆ ยิ่งเรื่องนี้ก็มาแบบเงียบๆ ไม่ต้องโปรโมตอะไรเลย ทั้งนักแสดงนำและผู้กำกับ หน้าหนังที่มี 1 ป้า 1 สาวสะพายปืน สวมชุดกันฝน ท่ามกลางสายฝน และฉากแอ็กชั่นดุเดือดให้ได้ลุ้นกัน แบบมันจริงๆ

รีวิว LOU แกะรอยในความมืด เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในสถานที่ที่ห่างไกลแห่งหนึ่ง แม่ม่ายลูกติด HANNAH เธออาศัยอยู่กับลูกสาวของเธอ VEE แม่ลูกคู่นี้ได้เช่าบ้านของยายแก่คนหนึ่งนามว่า LOU อยู่มาวันหนึ่งในกลางดึกเกิดพายุฝนโหมกระหน่ำ VEE ลูกสาวของ HANNAH ได้ถูกลักพาตัวจากบ้านไปอย่างปริศนา HANNAH จึงได้ไปขอความช่วยเหลือจาก LOU ทว่ารถทุกคันได้ถูกเจาะยางจนหมด

ทั้งคู่จึงไม่สามารถออกไปแจ้งคนนอกหรือแจ้งตำรวจได้ ด้วยเหตุนี้ LOU จึงอาสาที่จะช่วยเธอตามหาลูกสาวกลับมา ซึ่งแท้จริงแล้วในเหตุการณ์ครั้งนี้มีความลับบางอย่างที่ถูกปิดบังเอาไว้ สุดท้ายแล้วทั้งคู่จะสามารถช่วยชีวิต VEE กลับมาได้หรือไม่ และทั้งคู่ต้องพบเจอกับอุปสรรคอะไรบ้างนั้น ทุกคนต้องไปรับชม รับชมได้แล้วทาง NETFLIX

LOU เหมือนจะเป็นหญิงชราธรรมดา แต่ก็มีความสามารถไม่ต่างไปกับผู้ชายวัยฉกรรณ์ เพราะเขาปูทางให้ว่าเธอนั้นเป็นถึงอดีต CIA ภาคสนาม 26 ปี แต่ด้วยความที่เธอชราแล้ว ก็เป็นเรื่องยากที่จะต่อสู้กับผู้ชาย แต่หนังเขาก็ทำให้เราเห็นว่าเธอสู้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี บทที่จะต่อสู้แบบดิบๆ ก็จริงจังดูแล้วก็รู้สึกว่าเจ็บจริง โดยเฉพาะฉากต่อสู้ในกระท่อมระหว่างเธอกับผู้ชาย 2 คน เหมือนเราดูหนังเรื่อง เจสัน บอร์น ก็ไม่ปาน

ดูจบแล้วต้องบอกเลยว่า เรื่องนี้มันดีจริงๆ ไม่คิดว่าหนังจะเล่นแบบนี้ ไม่ว่าจะด้วยภาพที่สวยงาม มีลูกเล่นด้านภาพแล้ว ตัวที่สำคัญเลยคือบท ที่ต้องบอกเลยว่าทีมงานได้ของดีอยู่กับมือเลย เรื่องราวของเรื่องนี้ดูเผินๆ เป็นหนังทริลเลอร์ตามล่าทั่วไป แต่เรื่องราวที่อยู่ในนั้นกลับซับซ้อน แต่ก็ย่อยได้ง่าย และน่าสนใจ เน้นเรื่องราวความเป็นครอบครัว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ทิ้งความลุ้นระทึกที่เราสามารถรู้สึก และกดดันไปกับตัวละครได้เลย [ แอดชอบมากหนังแนวนี้ ]

ในส่วนหนักแสดงคัวละคร LOU นี่บอกเลยว่าดีมาก เล่นไม่ต้องเยอะไม่ต้องเก่งเวอร์วัง แต่มีลูกฮึดลูกชน ดูแล้วมันสุกจริงๆ ดูแล้วมันใช่เลยเชื่อในตัวละคร LOU ได้เลยว่าเธอดูแบกหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ตนจนจบได้ดี แทบจะไม่กังขาเลย โดยรวมทั้งหมดแล้วเรื่องนี้สนุกและดีมากๆ ดูแล้วไม่เสียดายเวลา น้อยครั้งจะเจอหนังในสตรีมมิ่งดีๆ ดูได้แล้วบน NETFLIX

ภาพยนต์แนว : แอ็คชั่น,ระทึกขวัญ
กำกับโดย : แอนนา โฟเออร์สเตอร์
นักแสดงนำ : LOGAN MARSHALL-GREEN, MATT CRAVEN และ RIDLEY ASHA BATEMAN

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว Fullmetal Alchemist The Revenge of Scar

รีวิว Fullmetal Alchemist The Revenge of Scar พบกับภาพยนตร์ แอ็คชั่น ไซไฟ ฟอร์มยักษ์ ของ NETFLIX อย่าง FULLMETAL ALCHEMIST THE REVENGE OF SCAR เป็นภาพยนตร์ที่ดัดเเปลงมาจาก มังงะ ยอดฮิต ที่จะมีทั้งหมด 2 ภาค ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

รีวิว Fullmetal Alchemist The Revenge of Scar โดยภาคแรกในชื่อ FULLMETAL ALCHEMIST THE REVENGE OF SCAR: สการ์ชำระแค้น จะทำการฉายในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ส่วน FULLMETAL ALCHEMIST THE FINAL ALCHEMY ปัจฉิมบ คือภาคที่ 2 จะเข้าฉายในวันที่ 24 กันยายน 2565 นี้ บอกเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ทำให้คุณผิดหวัง เพราะไม่ต้องรอที่จะรับชมภาคต่อเป็นปีๆ

เอ็ดเวิร์ด และ อัลฟองเซ เอลริค 2 พี่น้องนักเล่นแร่แปรธาตุที่สูญเสียร่างกาย จากการพยายามชุบชีวิตแม่ พวกเขาจึงออกเดินทางเพื่อตามหาวิธีเอาร่างกายกลับคืนมาและในภาค THE REVENGE OF SCAR จะเป็นเนื้อหาที่ต่อจากภาคปี 2017 โดยในภาคนี้ เอ็ดเวิร์ด ได้เลื่อนขั้นเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุของทางการและกำลังเดินทางไปที่เซ็นทรัลซิตี้พร้อมกับ อัลฟองเซ ในขณะนั้นพวกเขาก็ได้เจอกับ หลิน เหยา โอรสแห่งราชอาณาจักรชิน ผู้ออกตามหาศิลานักปราชญ์เพื่อเอาไปต่อรอง ในการขึ้นเป็นจักรพรรดิและยังมี เหม่ย จาง องค์หญิงแห่งตระกูลจาง ก็ได้เดินทางมาที่นี่เพื่อแย่งชิงตำแหน่ง จักรพรรดิเช่นกัน

ในขณะนั้น เอ็ดเวิร์ด ก็พบว่า เอนวี ศัตรูเก่ายังไม่ตายซ้ำร้ายยังปรากฏตัวพร้อมกับ โฮมุนครูส กลุ่มใหม่ที่จะทำให้ทั้งประเทศลุกเป็นไฟ และเมื่ออยู่ๆก็มีชายชื่อ สการ์ ออกตามล่านักเล่นแร่แปรธาตุของทางการซึ่ง เอ็ดเวิร์ด ก็คือหนึ่งในเป้าหมายของ สการ์ และที่เขาทำไปทั้งหมด ก็เพื่อแก้แค้นให้กับชาว อิชวาล ชนชาติของตนที่ถูกทางการ สั่งกวาดล้างเมื่อหลายปีก่อน

ด้านงานภาพ และโปรดักชั่น ถือว่าทำออกมาได้ดี การโปรดักชั่นก็จัดเต็ม งาน CG ก็ทำออกมาได้ดี ติดอย่างเดียวเลยคือเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม โดยเฉพาะผมของพระเอก ที่มองยังไงมันก็ดูเหมือนวิค [ มีใครคิดเหมือนแอดบ้าง ] ซึ่งก็น่าจะเป็นแบบนั้น แต่นอกนั้นคือดีหมด มุมกล้องต่างๆ การถ่ายทำให้ฉากแอ็คชั่นก็ทำได้ดี แฟนอนิเมะ มังงะไม่ควรพลาดเด็ดขาด ดูได้แล้วบน NETFLIX

ภาพยนต์แนว : แอ็คชั่น ไซไฟ
กำกับโดย : โซริ ฟุมิฮิโกะ
นักแสดงนำ : เรียวสุเกะ ยามาดะ ,อาโตมุ มิซุอิชิ

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว Emergency Declaration ไฟลต์คลั่งฝ่านรกชีวะ

รีวิว Emergency Declaration ไฟลต์คลั่งฝ่านรกชีวะ เที่ยวบินพาณิชย์กลางน่านฟ้า ที่ถูกคนร้ายจู่โจมด้วยชีวภาพโดยไม่คาดคิด กำลังจะคร่าชีวิตคนทั้งลำ การดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด ท่ามกลางสถานการณ์ที่เหมือนไร้ทางออก ไร้แม้สนามบินให้ลงจอด ไม่มีทางหนี  ไม่มีทางออก งานนี้จะจบยังไง ระทึกจนทำให้ผู้ชมลุ้นจนนั่งไม่ติดเลยละ [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว Emergency Declaration ไฟลต์คลั่งฝ่านรกชีวะ เรื่องราวหายนะครั้งใหญ่บนเที่ยวบินนรกจาก กรุงโซล สู่ ฮาวาย เมื่อหนึ่งในผู้โดยสารเกิดเสียชีวิตอย่างปริศนา ทำให้เกิดความโกลาหลไปทั่วทั้งลำ กัปตันจึงต้องประกาศเหตุฉุกเฉินและขอลงจอดกะทันหัน แต่การขอลงจอดครั้งนี้ยากกว่าที่คิด ด้วยความสูงและความเร็วที่ไม่สามารถควบคุมได้ จึงต้องเดิมพันด้วยความเป็น และความตายของลูกเรือ และผู้โดยสารทั้งลำ โดยไม่มีใครคาดคิดเลยว่า หายนะจากเที่ยวบินนี้จะทำให้โลกทั้งใบกลายเป็นนรก

การก่อการร้ายด้วยเชื้อโรค [ อาวุทชีวภาพแต่ไม่มีซอมบี้นะ ] ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกว่า เหมือนเรื่องจริงในช่วงโควิดนี้ได้เลย ดูไปก็คอยจับแมสที่ใส่ตลอดอินไปกับเรื่องมาก และจุดตรงนี้แหละที่ทำให้เหตุการณ์ต่างๆ ในเรื่องมันจึงดูสมเหตุสมผลไปหมด และเราสามารถจินตนาการได้โดยง่ายว่าเมื่อเกิดขึ้นเราจะรู้สึกยังไง มันยิ่งทำให้ลุ้นตามเข้าไปอีก บอกได้เลยว่าหลังจากดูจบแล้ว ทำให้คิดว่าโควิดจะกลับมาาอีกยังไงยังงั้น [ บอกเลยว่าอุตสาหกรรมหนังของเกาหลี ไปไกลมากๆ หันมองกลับมาที่ไทย วนลูปอยู่ที่ ตลก ผี รัก นักเรียน ]

ถือว่าเป็นหนังหายนะที่ดูแล้วโคตรสนุกลุ้นระทึก ไปกับตัวหนังตลอดทั้งเรื่อง หนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังที่ดูเพลินสุดๆ ที่มีครบทุกอารมณ์เลย แล้วมีสิ่งที่น่าสนใจเยอะมากไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องของหนัง ที่โคตรเข้มข้นที่แบบแม่นยำทุกจังหวะ ที่ทำให้เราได้เห็นถึงสัญชาตญาณดิบของมนุษย์ ที่อยู่ภายใต้จิตใจที่โคตรจะน่ากลัวแถม สะเทือนอารมณ์แบบสุดๆ หนังมีประเด็นการเมือง ภาวะความเป็นผู้นำ สอดเข้ามาตลอดทั้งเรื่อง ทำให้หนังดูสมจริงมากยิ่งขึ้นไป แถมยังมีเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ ที่เราก็สามารถเทียบเคียงกับเหตุการณ์จริงได้ ไม่ใช่หนังที่คนเกาหลีเท่านั้นจะเข้าใจ แต่เป็นหนังที่เราในฐานะคนนอกก็อินไปด้วยได้เลย

หลังจากดูหนังจบ ก็อดคิดถึงหนังไทยไม่ได้ เกาหลีเขาเดินทางมาไกลมากแล้วจากอดีต ซึ่งเขาก็เดินมาตลอด พัฒนาวงการหนังของเขาตลอด ถ้าถามว่าประเทศเราจะสามารถเป็นอย่างเขาได้ไหม บอกได้เลยว่าได้ แต่เราต้องเริ่มจากบทที่ดีก่อน แม้ประเทศเราจะมีแต่หนังตลก หรือ หนังผี แต่ถ้าเราเริ่มจากบทที่ดี วันนึงหนังตลกของเราก็จะกลายเป็นหนังที่ดีในสายตาชาวโลกได้เหมือนกัน [ หนังไทยส่วยใหญ่ที่กล้าฉีกแนว แต่บทมันหลวม คนเลยไม่ค่อยชอบ อย่ากเห็นหนังไทย ไปไกลเหมือน เกาหลี จีน ญี่ปุ่น ฝากคนไทย สนับสนุนหนังไทยด้วยกันนะครับ ]

ผู้กำกับ : ฮัน แจ-ริม
นำแสดงโดย : SONG KANG-HO, LEE BYUNG-HUN, JEON DO-YEON

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง fullmetal alchemist

รีวิวหนัง fullmetal alchemist หนังไลฟ์แอ็คชั่น คนแสดงที่สร้างจากการ์ตูนญี่ปุ่น เพื่อสาวกเน็ตฟลิกซ์ โดยเฉพาะ จากมังงะชื่อดังอย่าง Fullmetal Alchemist แขนกลคนแปรธาตุ ที่ต้องบอกเลยว่า เป็นอีกเรื่องที่ แฟนมังงะรอคอย และให้ความสนใจกับแฟนๆ มากทีเดียว [ ม่สปอยนะ ]

รีวิวหนัง fullmetal alchemist เอ็ดเวิร์ด และ อัลฟองเซ เอลริค สองพี่น้องตระกูล เอลริค ต้องสูญเสียแม่ที่รักไปอย่างกะทันหันด้วยโรคระบาด ทั้งคู่จึงตัดสินใจใช้วิชาแปรธาตุในการ ชุบชีวิตมนุษย์ ซึ่งถือเป็นวิชาต้องห้ามของการเล่นแร่แปรธาตุ เพื่อคืนชีวิตให้กับแม่ของตน แต่ด้วยสัจจะของโลกแล้ว ไม่สามารถสร้างชีวิตขึ้นมากจากความว่างเปล่าได้ เอ็ด และ อัล ต้องแลกด้วยร่างกาย เอ็ด แลกด้วยขา อัล แลกด้วยร่างกายทั้งหมด เมื่อกลับขึ้นมากจากประตูสัจจะ เอ็ด พบว่าร่างของน้องชายหายไปทั้งหมด จึงแลกด้วยแขน และดึงวิญญาณของน้องชาย มาผนึกไว้ในชุดเกราะด้วย ตราวงแหวนเลือด

พันเอก รอย มัสแตง แห่งกองทัพทราบเรื่องเห็นว่าเอ็ดมีฝีมือ ถึงขนาดสามารถผนึกวิญญาณได้ จึงเสนอให้เอ็ดเข้าเป็น นักเล่นแร่แปรธาตุของทางการ เพื่อที่ เอ็ด จะได้รับสิทธิต่างๆจากทางการ และเป็นการสะดวกยิ่งขึ้นในการหาวิธีกลับเป็นเหมือนเดิม เอ็ด ได้ตอบตกลงเข้านักเล่นแร่แปรธาตุของทางการ ได้ฉายาว่า นักเล่นแร่แปรธาตุเหล็กไหล จากการที่เขาสามารถใช้วิชาแปรธาตุ ได้โดยไม่ต้องใช้วงแหวนแปรธาตุ และเริ่มออกตามหา ศิลานักปราชญ์ เป็นศิลาวิเศษณ์ที่ทำให้สามารถใช้พลังการแปรธาตุ ที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์การแลกเปลี่ยน

หนังสร้างความแปลกใจให้เราหลายอย่าง ตั้งแต่เห็นเทรลเลอร์ก็นึกว่าจะเข้าโรง เช่นเดียวกับหนังจากมังงะเรื่องอื่น แต่ว่ากลับกลายเป็นว่าลง เน็ตฟลิกซ์ มาให้เราดูเลยละ ด้าน CG ของหนังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ติดความเป็นการ์ตูนเยอะไปหน่อย [ เพราะสร้างจาก การ์ตูนนี่หว่า ] จะเน้นความสมจริง ในส่วนคอสตูมแฟนซีของตัวร้ายทั้งหลาย ที่ทำออกมาได้ดีเข้ากับนักแสดง คอสเพลย์จากฉบับมังงะแปะเลย ดูแล้วให้ความรู้สึกว่าดูมังงะเลยละ ทำให้หนังติดอารมณ์การ์ตูนตลอด ความดุดันกดดันแบบหนังแอ็คชั่นมาเต็ม บอกเลยว่าแฟนมังไม่ควรพลาดแน่นอน ดูได้แล้วบน Netflix

นักแสดงนำ : เรียวสุเกะ ยามาดะ, ทซึบาสะ ฮอนดะ, ดีน ฟูจิโอกะ
ภาพยนต์แนว : แอ็คชั่น ผจญภัย, ไซไฟแฟนตาซี,
ผู้กำกับ : ฟูมิฮิโกะ โซริ

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง Yasothon แหยมยโสธร

รีวิวหนัง Yasothon แหยมยโสธร เรื่องราวความรัก ของหนุ่มสาวชาวอีสาน เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา หรือ หม่ำ จ๊กม๊ก ตลกชื่อดัง กลับมาอีกครั้งพร้อมทำหน้าที่เป็นทั้งผู้กำกับ และนักแสดงเหมือนเดิม พร้อมหนีบนักร้องสาวอย่าง เจเน็ต เขียว มาร่วมแจมความฮา กันกระจุยกระจาย เต็มท้องทุ่งยโสธร [ ไม่สปอยนะ ]

แหยมยโสธร 1

หมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดยโสธร ทอง และ สร้อย กำลังจีบกันอย่างชนิดที่ว่าหวานจนน้ำตาลท่วมทุ่ง ในขณะที่ แหยม น้าชายคนเดียวของ ทอง ถูก เจ้ย สาวคล้ำคมขำ ตามตื๊อตามจีบ แหยม ชนิดหัวปักหัวปำ ทั้งสี่เป็นอันรู้กันว่า เจ้ย หลงรัก แหยม และพยายามทุกทางให้ แหยม ตอบรับน้ำใจอันนี้แม้ว่า ทอง กับ สร้อย จะช่วยลุ้นให้ทั้งคู่ลงเอยกันเสียที แต่ แหยม ก็ไม่เคยหันมาสนใจ


ในส่วนความรักของ ทอง และ สร้อย กำลังไปกันได้ด้วยดี แต่ทั้งคู่ยังคงต้องหลบๆซ่อนๆจาก คุณนายดอกท้อ คุณป้า ของ สร้อย นั้นจงเกลียดจงชังความจนของ ทอง ขัดขวางความรักทั้งคู่ทุกวิถีทาง โดยการส่ง สร้อย ไปอยู่บางกอกบางกอก ความรักระหว่าง สร้อย และ ทอง จะสมหวังหรือ แหยม และ เจ้ย จะร่วมหอลงโรงกันได้หรือเปล่า ต้องไปติดตามกัน

แหยมยโสธร 2

20 ปีผ่านไป แหยม และ เจ้ย แต่งงานกันมาจนมีทายาทถึง 12 คนลูกๆ ต่างก็แยกย้ายกันไปมีครอบครัวกันหลายคน มีเพียงลูกสาวคนสวย แว่ และลูกชายคนเล็ก คำผาน ที่ยังอยู่ด้วย แหยม ตอนนี้เป็นกำนันที่ยำเกรงของชาวบ้าน ทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องหวงลูกมาก ปลัดธนู หนุ่มรูปงามจากเมืองกรุงมาประจำการที่ยโสธร ได้เทียวมาตามจีบลูกสาว ส่วน คำผาน ก็เห่อแฟชั่น และกลายเป็นแนวร่วมของ ปลัดธนู ที่คอยช่วยดูทางหนีทีไล่ให้

จ้ย อยากได้ปลัดหนุ่มเป็นลูกเขยมากๆ แต่ก็ขัดใจ กำนันแหยม งานนี้ปลัดหนุ่มกับ กำนันแหยม จะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ และปัญหาจิปาถะของชาวบ้าน ยังมีเรื่องใหญ่อย่างการปิดตลาดปล้นของโจรร้าย เสือหยองลำพอง รออยู่อีกด้วเรื่องราวจะลงเอยยังใง ปลัดกับแว่ จะสมหวังหรือไม่ ต้องไปติดตามกัน

แหยม ยโสธร 3

เวลาผ่านฝน ผ่านหนาว ผ่านร้อนมาอีกหลายฤดู แหยม กับ เจ้ย ลูกๆก็โตจนเรียนจบหรือ ไม่ก็ออกเรือนกันไปหมด เหลือแค่เพียง คำผาน ที่ยังเรียนไม่จบ ซ้ำชั้น ม.ศ.5 มาสามปี ร้างความระเหี่ยใจให้กับ แหยม และ เจ้ย เรื่อยมาวันหนึ่ง คฑาเทพ ลูกชายอีกคนของ แหยม กำลังจะเรียนจบกฎหมาย กลับมาเยี่ยมบ้านช่วงปิดเทอม


ระหว่างทางกลับบ้าน คฑาเทพ ก็ได้พบกับ รำพัน หญิงสาวที่เดินทางกลับมาพร้อมกันโดยบังเอิญ และทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกเห็น ความรักของทั้งคู่คงจะผลิบาน อย่างที่ควรจะเป็น หากแต่ว่า รำพัน ดันเป็นลูกสาวคนโตของ กำนันปอย เพื่อนรักเพื่อนแค้นในอดีตที่ไปแย่งแฟนเก่าของ แหยม มานั่นคือ รำพึง ซึ่งยังมี รำเพย ลูกสาวอีกคนที่เป็นถึงดาวประจำโรงเรียนที่ คำผาน ดันตกหลุมรักเข้าให้อีก เรื่องราวจะจบยังไง ทั้งสองคู่จะสมหวังไหม ต้องไปติดตามกัน

นี้คือเรื่องเรื่องราวความรักของรุ่นพ่อ ส่งต่อสู่รุ่นลูก ที่มักจะถูกกีดกันและไม่เห็นด้วย มันจะลงเอยแบบไหน แถมยังมีเรื่องราวความรักสุดแสบ หักเหลี่ยมเฉือนคม รักซ้อนซ่อนเงื่อนของรุ่นพ่อแม่ ให้ต้องติดตามกันต่ออีก ได้ครื้นเครงอลเวง ม่วนฮักแบบยกกำลังสามเลยละ ดูได้แล้วทั้ง 3 ภาคบน NETFLIX

การันตีความสนุกความฮา ขำจนขากรรไกรค้าง โดยทีมนักแสดงสายฮา
หม่ำ จ๊กม๊ก , เจเน็ต เขียว , แวววาว วงษ์คำเหลา , อนุวัติ ทาระพันธุ์ , เพทาย วงษ์คำเหลา , สายสิน วงษ์คำเหลา ฯลฯ
พร้อมแจ้งเกิดทีมนักแสดงชุดใหม่ ที่จะมาทำให้คุณหลงใหลในการถ่ายทอดตำนานรักครั้งใหม่ บิ๊กเอ็ม-ลิขิต บุตรพรม , ฟ้า-อิงฟ้า เกตุคำ , บิวตี้-รัตติยาภรณ์ ภักดีล้น ,นกเอี้ยง-จิตรลดาพร กันหาวรรค , เฉิน เชิญยิ้ม ฯลฯ
และเซอร์ไพรส์ไปกับ มด-เอ็นดู วงษ์คำเหลา ภรรยาสุดที่เลิฟของผู้กำกับฯ ที่ยอมมาเล่นหนังแบบเต็มๆ เป็นครั้งแรกในชีวิต

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

1 2 3 11