รีวิว Raya and the Last Dragon  รายากับมังกรตัวสุดท้าย

รีวิว Raya and the Last Dragon  รายากับมังกรตัวสุดท้าย อนิเมชั่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ แต่อะไรคือแรงดึงดูดที่พาให้ดิสนีย์อยากผลิตหนังที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ประเทศเล็ก ๆ ที่ประชากรในแต่ละประเทศอยู่เพียงหลักสิบหลักร้อยล้านคน ต่างกับที่เคยพยายามบุกตลาดจีนที่มีประชากรอยู่หลักพันล้านด้วยมู่หลาน [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว Raya and the Last Dragon  รายากับมังกรตัวสุดท้าย เรื่องราวของดินแดน คูมันตรา ที่มีเผ่าต่างๆรวมกัน 5 เผ่าตามอวัยวะสำคัญของมังกร ที่ปกป้องดูแลดินแดนแห่งนี้คือ เผ่าหัวใจ เผ่าเขี้ยว เผ่ากรงเล็บ เผ่าสันหลัง และ เผ่าหาง มีสายน้ำที่เชื่อมต่อความสัมพันธ์ของแต่ละเผ่า และรวมกันเป็น คูมันตรา

คูมันตรา นั้นเคยเป็นปึกแผ่นอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งการรุกรานของดรุน อสูรร้าย ที่เข้ามาทำลายทุกอย่างทำลายทุกชีวิตให้กลายเป็นหิน พร้อมการแตกแยกดินแดน คูมันตรา ออกเป็นเสี่ยงไม่สามารถรวมกันได้ มังกร ที่คอยปกป้องก็สู้จนตัวตาย เหลือไว้แค่หินมณี มังกร ซึ่งเป็นหินที่รวมเอาพลังของมังกรพี่น้องทั้งสี่ตัวไว้ แล้วฝากไว้กับมังกรน้องนุชตัวสุดท้องที่ชื่อว่า ซิซู ที่ยังมีชีวิตอยู่แต่ได้หายสาบสูญไปกว่า 500 ปี

ก่อนที่หิมมณีมังกรจะตกอยู่ในความดูแลของเผ่าหัวใจที่มี เบญจา เป็นราชันของเผ่ามี รายา เป็นลูกสาว เบญจา มีความต้องการที่จะรวมทั้งห้าเผ่าขึ้น เป็นภูมันตราอีกครั้ง ก่อนที่จะถูก นัมมาอารี เจ้าหญิงเผ่าเขี้ยว หักหลังโดยอาศัยความไว้ใจ แย่งชิงหินมณีมังกรจนแตกเป็น 5 เสี่ยง พร้อมทั้งปลุกดรุนขึ้นมาทำลายชีวิตทุกคนให้กลายเป็นหินอีกครั้ง

เวลาผ่านไปเจ้าหญิง รายา จึงได้ออกเดินทางพร้อม ตุ๊ก ตุ๊ก สัตว์เลี้ยวตัวสนิทไปยังเผ่าต่างๆเพื่อตามหา ซิซู มังกรตัวสุดท้าย และรวมหินมณีมังกรให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อคืนชีวิตให้กับทุกชีวิต และคืนความเป็นปึกแผ่นให้กับดินแดนคูมันตราอีกครั้ง

จุดเด่นคืองานด้านโปรดักชั่น ดีไซน์ ที่ผสมผสานเอาวัฒนธรรมอาเซียนทั้ง ไทย ชวา บาหลี และอื่นๆเช่นในเรื่องของอาหาร เราจะเห็น ต้มยำกุ้ง ห่อหมก สะเต๊ะ หรือการดีไซน์คอสตูม ดีไซน์ฉากที่มีทั้งวัดแบบไทยๆ ปราสาทที่คล้ายแบบขอม หรือบาหลี สีสันแบบชวา มีตลาดน้ำแบบบ้านเรา ผสมรวมกันเป็นคูมันตรา ดินแดนที่มีเสน่ห์สุดๆ  นี่คืองานที่คนดูอย่างเราที่ภูมิใจ และดีใจมากที่เห็นมิติความเป็นไทย ความเป็นอาเซียนในหนังเรื่องนี้

ประเภท : อนิเมชั่น, แอคชั่น, ผจญภัย
ผู้กำกับ : ดอน ฮอลล์ และคาร์ลอส โลเปซ เอสตราด้า
พากย์เสียงโดย : เคลลี่ มารี ทราน, อควาฟิน่า, เจ็มม่า ชาน, แดเนียล เด คิม, แซนดร้า โอ, เบเนดิกท์ หว่อง, ไอแซค หวัง, ธาเลีย ทราน, อลัน ทูไดก์, ลูซีล ซุง, แพตตี้ แฮริสัน

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว อนิเมชั่น

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว The Autumn Ballad  ชิวเยียน ยอดหญิงพลิกชะตา

รีวิว The Autumn Ballad  ชิวเยียน ยอดหญิงพลิกชะตา ซีรี่ส์จีนแนวย้อนยุค โรแมนติก สืบสวน ซีรี่ส์เรื่องนี้มีนักแสดงมากความสามารถมา ร่วมแสดงมากมายทั้ง เฉียวซิน ที่มารับบทเป็น ชิวเหยียน บุตรธิดาจากภรรยารอง ที่ถูกผลักไสให้ออกจากตระกูล โดยถึงแม้เธอจะถูกไล่ออกจากตระกูล ทำให้เธอสามารถค้นหาวิธีเอาตัวรอดได้ แม้วิธีการอาจจะไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องที่สุดก็ตามที [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว The Autumn Ballad  ชิวเยียน ยอดหญิงพลิกชะตา เรื่องราวของหญิงสาว ชิวเหยียน ที่ต้องก้าวผ่านคำสบประมาทของคนในครอบครัวตัวเอง เธอต้องตัดสินชีวิต และเลือกเดินทางในรูปแบบของตนเอง เพื่อให้ก้าวออกจากตระกูลของเธอ ไม่ต้องอาศัยบารมีใคร แต่ความคิดและการกระทำต่อจากนั้น มันช่างมีอุปสรรคซะเหลือเกิน จนเธอได้มาเจอกับ อ๋องเหลียงอี้ ชายผู้เย็นชา แต่มีไหวพริบ เก่ง ฉลาด เข้ามาเป็นคู่ประชันสติปัญญา จากคู่ปรับจนกลายเป็นคู่ที่รู้ใจที่คอยเคียงข้าง สุดท้ายแล้วพวกเขาทั้งคู่ ก็จะครองรักและมีความสุข ในแบบที่เป็นของตนเองหรือไม่ ต้องไปติดตามกันได้

การดำเนินเรื่องของซีรีส์นั้น ตัวละครที่เป็นผู้ดำเนินเรื่องก็คือ ชิวเยียน ถูกละเลยจากครอบครัวจนวันหนึ่งเธอได้วางแผนที่จะหนีจากตระกูลของเธอ เพื่อไปสร้างชีวิตใหม่ที่ไม่มีใครมาบงการชีวิตของเธออีกต่อไป แถมวิธีการดำเนินก็ยังถ่ายทอดเรื่องราวในอดีต กับการดิ้นรนสู้ชีวิตของหญิงสาวในสมัยก่อน ซึ่งก็จะแสดงให้เห็นถึงบุตรสาว ที่โดยส่วนมากแล้วจะไม่ค่อยได้รับความเอ็นดู หรือความรักใคร่จากครอบครัวมากนัก พวกเขาจะปล่อยให้ลูกๆได้ต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด จากสังคมด้วยตัวของตนเอง

โดยรวมแล้วซีรี่ส์เรื่องนี้ เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบซีรี่ส์แนวย้อนยุค ปมสืบสวน เส้นเรื่องหลักก็คือการตามสืบ ตามแก้ไขคดีต่างๆ ที่ชุลมุนวุ่นวายชวนให้ติดตาม นอกจากนี้ยังมีความโรแมนติกของคู่พระนาง ให้เราได้ฟินกันอีกด้วย การดำเนินถือว่าดีถึงดีเยี่ยมเลยแหละ และตัวเนื้อเรื่องก็จะใส่เนื้อหา ต่างให้น่าติดตามเป็นระยะๆ ทำให้ซีรีย์ไม่น่าเบื่อ เรื่องนี้ไม่ใช่แนวโรแมนติกเลย แต่จะออกแนวสืบสวนสอบแบบเข้มข้นด้วย ว่าด้วยเรื่องเคมีคู่พระนางนั้น ก็เคมีเข้ากันมากๆคอสตูมเสื้อผ้าซีรีส์เรื่องนี้สวยทุกชุด ตั้งแต่ชุดนักแสดงหลังไปถึงนักแสดงสบทบ และโลเคชั่นเรื่องนี้คือเลิศ สวยทุกฉาก มีความหลากหลายโลเคชั่นทำให้มีความน่าสนใจไม่น่าเบื่อ ดูเพลินมากๆ

จำนวนตอน : 34 ตอน
ประเภท : โรแมนติก, ซีรีย์จีน
ผู้กำกับ : DING YING ZHOU
นำแสดงโดย : เฉียวซิน, สวีเจิ้งซี, หลิวรุ่ยหลิน, สวี่หย่าถิง

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว LOU แกะรอยในความมืด

รีวิว LOU แกะรอยในความมืด หนังฟอร์มเล็กเปลี่ยนมาขึ้นอันดับ 1 บน NETFLIX กันได้เรื่อยๆ ยิ่งเรื่องนี้ก็มาแบบเงียบๆ ไม่ต้องโปรโมตอะไรเลย ทั้งนักแสดงนำและผู้กำกับ หน้าหนังที่มี 1 ป้า 1 สาวสะพายปืน สวมชุดกันฝน ท่ามกลางสายฝน และฉากแอ็กชั่นดุเดือดให้ได้ลุ้นกัน แบบมันจริงๆ

รีวิว LOU แกะรอยในความมืด เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในสถานที่ที่ห่างไกลแห่งหนึ่ง แม่ม่ายลูกติด HANNAH เธออาศัยอยู่กับลูกสาวของเธอ VEE แม่ลูกคู่นี้ได้เช่าบ้านของยายแก่คนหนึ่งนามว่า LOU อยู่มาวันหนึ่งในกลางดึกเกิดพายุฝนโหมกระหน่ำ VEE ลูกสาวของ HANNAH ได้ถูกลักพาตัวจากบ้านไปอย่างปริศนา HANNAH จึงได้ไปขอความช่วยเหลือจาก LOU ทว่ารถทุกคันได้ถูกเจาะยางจนหมด

ทั้งคู่จึงไม่สามารถออกไปแจ้งคนนอกหรือแจ้งตำรวจได้ ด้วยเหตุนี้ LOU จึงอาสาที่จะช่วยเธอตามหาลูกสาวกลับมา ซึ่งแท้จริงแล้วในเหตุการณ์ครั้งนี้มีความลับบางอย่างที่ถูกปิดบังเอาไว้ สุดท้ายแล้วทั้งคู่จะสามารถช่วยชีวิต VEE กลับมาได้หรือไม่ และทั้งคู่ต้องพบเจอกับอุปสรรคอะไรบ้างนั้น ทุกคนต้องไปรับชม รับชมได้แล้วทาง NETFLIX

LOU เหมือนจะเป็นหญิงชราธรรมดา แต่ก็มีความสามารถไม่ต่างไปกับผู้ชายวัยฉกรรณ์ เพราะเขาปูทางให้ว่าเธอนั้นเป็นถึงอดีต CIA ภาคสนาม 26 ปี แต่ด้วยความที่เธอชราแล้ว ก็เป็นเรื่องยากที่จะต่อสู้กับผู้ชาย แต่หนังเขาก็ทำให้เราเห็นว่าเธอสู้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี บทที่จะต่อสู้แบบดิบๆ ก็จริงจังดูแล้วก็รู้สึกว่าเจ็บจริง โดยเฉพาะฉากต่อสู้ในกระท่อมระหว่างเธอกับผู้ชาย 2 คน เหมือนเราดูหนังเรื่อง เจสัน บอร์น ก็ไม่ปาน

ดูจบแล้วต้องบอกเลยว่า เรื่องนี้มันดีจริงๆ ไม่คิดว่าหนังจะเล่นแบบนี้ ไม่ว่าจะด้วยภาพที่สวยงาม มีลูกเล่นด้านภาพแล้ว ตัวที่สำคัญเลยคือบท ที่ต้องบอกเลยว่าทีมงานได้ของดีอยู่กับมือเลย เรื่องราวของเรื่องนี้ดูเผินๆ เป็นหนังทริลเลอร์ตามล่าทั่วไป แต่เรื่องราวที่อยู่ในนั้นกลับซับซ้อน แต่ก็ย่อยได้ง่าย และน่าสนใจ เน้นเรื่องราวความเป็นครอบครัว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ทิ้งความลุ้นระทึกที่เราสามารถรู้สึก และกดดันไปกับตัวละครได้เลย [ แอดชอบมากหนังแนวนี้ ]

ในส่วนหนักแสดงคัวละคร LOU นี่บอกเลยว่าดีมาก เล่นไม่ต้องเยอะไม่ต้องเก่งเวอร์วัง แต่มีลูกฮึดลูกชน ดูแล้วมันสุกจริงๆ ดูแล้วมันใช่เลยเชื่อในตัวละคร LOU ได้เลยว่าเธอดูแบกหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ตนจนจบได้ดี แทบจะไม่กังขาเลย โดยรวมทั้งหมดแล้วเรื่องนี้สนุกและดีมากๆ ดูแล้วไม่เสียดายเวลา น้อยครั้งจะเจอหนังในสตรีมมิ่งดีๆ ดูได้แล้วบน NETFLIX

ภาพยนต์แนว : แอ็คชั่น,ระทึกขวัญ
กำกับโดย : แอนนา โฟเออร์สเตอร์
นักแสดงนำ : LOGAN MARSHALL-GREEN, MATT CRAVEN และ RIDLEY ASHA BATEMAN

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว Fullmetal Alchemist The Revenge of Scar

รีวิว Fullmetal Alchemist The Revenge of Scar พบกับภาพยนตร์ แอ็คชั่น ไซไฟ ฟอร์มยักษ์ ของ NETFLIX อย่าง FULLMETAL ALCHEMIST THE REVENGE OF SCAR เป็นภาพยนตร์ที่ดัดเเปลงมาจาก มังงะ ยอดฮิต ที่จะมีทั้งหมด 2 ภาค ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

รีวิว Fullmetal Alchemist The Revenge of Scar โดยภาคแรกในชื่อ FULLMETAL ALCHEMIST THE REVENGE OF SCAR: สการ์ชำระแค้น จะทำการฉายในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ส่วน FULLMETAL ALCHEMIST THE FINAL ALCHEMY ปัจฉิมบ คือภาคที่ 2 จะเข้าฉายในวันที่ 24 กันยายน 2565 นี้ บอกเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ทำให้คุณผิดหวัง เพราะไม่ต้องรอที่จะรับชมภาคต่อเป็นปีๆ

เอ็ดเวิร์ด และ อัลฟองเซ เอลริค 2 พี่น้องนักเล่นแร่แปรธาตุที่สูญเสียร่างกาย จากการพยายามชุบชีวิตแม่ พวกเขาจึงออกเดินทางเพื่อตามหาวิธีเอาร่างกายกลับคืนมาและในภาค THE REVENGE OF SCAR จะเป็นเนื้อหาที่ต่อจากภาคปี 2017 โดยในภาคนี้ เอ็ดเวิร์ด ได้เลื่อนขั้นเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุของทางการและกำลังเดินทางไปที่เซ็นทรัลซิตี้พร้อมกับ อัลฟองเซ ในขณะนั้นพวกเขาก็ได้เจอกับ หลิน เหยา โอรสแห่งราชอาณาจักรชิน ผู้ออกตามหาศิลานักปราชญ์เพื่อเอาไปต่อรอง ในการขึ้นเป็นจักรพรรดิและยังมี เหม่ย จาง องค์หญิงแห่งตระกูลจาง ก็ได้เดินทางมาที่นี่เพื่อแย่งชิงตำแหน่ง จักรพรรดิเช่นกัน

ในขณะนั้น เอ็ดเวิร์ด ก็พบว่า เอนวี ศัตรูเก่ายังไม่ตายซ้ำร้ายยังปรากฏตัวพร้อมกับ โฮมุนครูส กลุ่มใหม่ที่จะทำให้ทั้งประเทศลุกเป็นไฟ และเมื่ออยู่ๆก็มีชายชื่อ สการ์ ออกตามล่านักเล่นแร่แปรธาตุของทางการซึ่ง เอ็ดเวิร์ด ก็คือหนึ่งในเป้าหมายของ สการ์ และที่เขาทำไปทั้งหมด ก็เพื่อแก้แค้นให้กับชาว อิชวาล ชนชาติของตนที่ถูกทางการ สั่งกวาดล้างเมื่อหลายปีก่อน

ด้านงานภาพ และโปรดักชั่น ถือว่าทำออกมาได้ดี การโปรดักชั่นก็จัดเต็ม งาน CG ก็ทำออกมาได้ดี ติดอย่างเดียวเลยคือเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม โดยเฉพาะผมของพระเอก ที่มองยังไงมันก็ดูเหมือนวิค [ มีใครคิดเหมือนแอดบ้าง ] ซึ่งก็น่าจะเป็นแบบนั้น แต่นอกนั้นคือดีหมด มุมกล้องต่างๆ การถ่ายทำให้ฉากแอ็คชั่นก็ทำได้ดี แฟนอนิเมะ มังงะไม่ควรพลาดเด็ดขาด ดูได้แล้วบน NETFLIX

ภาพยนต์แนว : แอ็คชั่น ไซไฟ
กำกับโดย : โซริ ฟุมิฮิโกะ
นักแสดงนำ : เรียวสุเกะ ยามาดะ ,อาโตมุ มิซุอิชิ

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว OM CRUSH ON ME อโยธยา มหาละลวย

รีวิว OM CRUSH ON ME อโยธยา มหาละลวย ภาพยนตร์ไทยแนว แอ็คชั่น โรแมนติก หนังไทยที่มีพื้นหลังเป็นเรื่อง มนต์คาถา สมัยอโยธยา ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์ ที่มีการเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างชาติมากเป็นพิเศษ ทำให้อโยธยาช่วงนั้นมีความหลากหลายด้านเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว OM CRUSH ON ME อโยธยา มหาละลวย เรื่องราวของ เรียวสึ ชายหนุ่มที่มีความเป็นมาคลุมเครือ เขาได้รับการเลี้ยงดูโดยหลวงตา ซึ่งสอนให้เขาได้เรียนรู้วิชาการต่อสู้ และเวทมนตร์คาถา เพื่อใช้ป้องกันตัวในวันข้างหน้า ในวันที่เขาต้องการตามหาแม่ และตามหานางในดวงใจ ออสร้อย หลวงตาได้มอบหมายให้ ทอง เดินทางไปพร้อมกันเพื่อคอยดูแลกันและกัน ระหว่างการเดินทางพวกเขา ตกกระไดพลอยโจนต้องช่วย 2 คู่หู

อาซิม และ จีนล้ง ที่ก่อเรื่องไว้ที่โรงชำเราชายที่นี่เองทำให้ เรียวสึ ได้พบกับ ออสร้อย อีกครั้งแต่ทว่า ด้วยความงามของ ออสร้อย เป็นที่ต้องตาของ ขวัญ ซึ่งเป็นบุตรชายของออกญา คชบาล ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดใน อโยธยา ทำให้ เรียวสึ พยายามทำทุกทางเพื่อชิงตัว ออสร้อย คืนมาวิทยายุทธที่ เรียวสึ สั่งสมมาอาจไม่เพียงพอ บางครั้งอาจต้องพึ่งพามนตร์คาถาที่ เรียวสึ เรียนรู้ทั้งชีวิต เพื่อจะช่วงชิงตัวและหัวใจ ออสร้อย กลับมาเป็นของเขาได้อีกครั้ง

หนังเล่าเรื่องในช่วงรัชสมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช [ ปลายราชวงศ์ปราสาททอง ] ที่เต็มไปด้วยชาวต่างชาติมากมายที่เข้ามาอาศัย และทำงานถวายบนแผ่นดิน อโยธยา ออกญาคชบาล [ ศรุต วิจิตรานนท์ ] ได้กระทำตามสัจจะที่ให้ไว้แก่ สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง [ ต้นราชวงศ์ปราสาททอง ] ว่าจะออกกวาดล้างตระกูลชาวญี่ปุ่น ยามาดะ ที่ถวายความจงรักภักดีมาตั้งแต่สมัย สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม [ ราชวงศ์สุโขทัย ] เพื่อหวังไม่ให้ก่อการกบฏ

จุดเด่นสำคัญ คือเรื่องของการหยิบเอาเกร็ดประวัติศาสตร์เล็กๆ น้อยๆ ที่มีบันทึกอยู่จริงมาต่อยอดได้อย่างน่าสนใจ อย่างเช่นเรื่องของชาวต่างชาติ ที่ติดต่ออาศัยมาตั้งแต่สมัย พระเจ้าทรงธรรม จนกลายเป็นชุมชนใหญ่ในแผ่นดิน พระนารายณ์ รวมทั้งตัวละครที่สร้างขึ้นจากบุคคลจริง เช่น ออกญาคชบาล ที่จะครองราชย์เป็น สมเด็จพระเพทราชา [ ต้นราชวงศ์บ้านพลูหลวง ] ส่วน ขวัญ บุตรชาย ก็หยิบเอาคาแรกเตอร์มาจาก เดื่อ ที่จะขึ้นครองราชย์เป็น สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 หรือ พระเจ้าเสือ ที่ครองราชย์ต่อจากผู้เป็นพ่อนั่นเอง

โดยรวมแล้ว สำหรับแฟนๆของ เจมส์ จิรายุ และ โบว์ เมลดา ก็น่าจะชื่นชอบการแสดงของทั้งคู่ เพราะโดยรวมๆ ก็ถือว่าเป็นหนังที่ดูเอาเพลิน ถือว่าหนังทำได้ตามมาตรฐานดีมาก อยากให้คนไทยสนับสนุนหนังไทยเยอะ ทีมผู้สร้างจะได้มีกำลังใจสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆออกมาให้ได้ชมกันอีก

ภาพยนต์แนว : แอ็คชั่น, คอมเมดี้, ดราม่า
ผู้กำกับ : ภวัต พนังคศิริ
นักแสดงนำ : เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข, โบว์เมลดา สุศรี, บิ๊ก ศรุต วิจิตรานนท์, ภีม ธนบดี

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว หนัง แอ็คชั่น

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิว Emergency Declaration ไฟลต์คลั่งฝ่านรกชีวะ

รีวิว Emergency Declaration ไฟลต์คลั่งฝ่านรกชีวะ เที่ยวบินพาณิชย์กลางน่านฟ้า ที่ถูกคนร้ายจู่โจมด้วยชีวภาพโดยไม่คาดคิด กำลังจะคร่าชีวิตคนทั้งลำ การดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด ท่ามกลางสถานการณ์ที่เหมือนไร้ทางออก ไร้แม้สนามบินให้ลงจอด ไม่มีทางหนี  ไม่มีทางออก งานนี้จะจบยังไง ระทึกจนทำให้ผู้ชมลุ้นจนนั่งไม่ติดเลยละ [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิว Emergency Declaration ไฟลต์คลั่งฝ่านรกชีวะ เรื่องราวหายนะครั้งใหญ่บนเที่ยวบินนรกจาก กรุงโซล สู่ ฮาวาย เมื่อหนึ่งในผู้โดยสารเกิดเสียชีวิตอย่างปริศนา ทำให้เกิดความโกลาหลไปทั่วทั้งลำ กัปตันจึงต้องประกาศเหตุฉุกเฉินและขอลงจอดกะทันหัน แต่การขอลงจอดครั้งนี้ยากกว่าที่คิด ด้วยความสูงและความเร็วที่ไม่สามารถควบคุมได้ จึงต้องเดิมพันด้วยความเป็น และความตายของลูกเรือ และผู้โดยสารทั้งลำ โดยไม่มีใครคาดคิดเลยว่า หายนะจากเที่ยวบินนี้จะทำให้โลกทั้งใบกลายเป็นนรก

การก่อการร้ายด้วยเชื้อโรค [ อาวุทชีวภาพแต่ไม่มีซอมบี้นะ ] ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกว่า เหมือนเรื่องจริงในช่วงโควิดนี้ได้เลย ดูไปก็คอยจับแมสที่ใส่ตลอดอินไปกับเรื่องมาก และจุดตรงนี้แหละที่ทำให้เหตุการณ์ต่างๆ ในเรื่องมันจึงดูสมเหตุสมผลไปหมด และเราสามารถจินตนาการได้โดยง่ายว่าเมื่อเกิดขึ้นเราจะรู้สึกยังไง มันยิ่งทำให้ลุ้นตามเข้าไปอีก บอกได้เลยว่าหลังจากดูจบแล้ว ทำให้คิดว่าโควิดจะกลับมาาอีกยังไงยังงั้น [ บอกเลยว่าอุตสาหกรรมหนังของเกาหลี ไปไกลมากๆ หันมองกลับมาที่ไทย วนลูปอยู่ที่ ตลก ผี รัก นักเรียน ]

ถือว่าเป็นหนังหายนะที่ดูแล้วโคตรสนุกลุ้นระทึก ไปกับตัวหนังตลอดทั้งเรื่อง หนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังที่ดูเพลินสุดๆ ที่มีครบทุกอารมณ์เลย แล้วมีสิ่งที่น่าสนใจเยอะมากไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องของหนัง ที่โคตรเข้มข้นที่แบบแม่นยำทุกจังหวะ ที่ทำให้เราได้เห็นถึงสัญชาตญาณดิบของมนุษย์ ที่อยู่ภายใต้จิตใจที่โคตรจะน่ากลัวแถม สะเทือนอารมณ์แบบสุดๆ หนังมีประเด็นการเมือง ภาวะความเป็นผู้นำ สอดเข้ามาตลอดทั้งเรื่อง ทำให้หนังดูสมจริงมากยิ่งขึ้นไป แถมยังมีเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ ที่เราก็สามารถเทียบเคียงกับเหตุการณ์จริงได้ ไม่ใช่หนังที่คนเกาหลีเท่านั้นจะเข้าใจ แต่เป็นหนังที่เราในฐานะคนนอกก็อินไปด้วยได้เลย

หลังจากดูหนังจบ ก็อดคิดถึงหนังไทยไม่ได้ เกาหลีเขาเดินทางมาไกลมากแล้วจากอดีต ซึ่งเขาก็เดินมาตลอด พัฒนาวงการหนังของเขาตลอด ถ้าถามว่าประเทศเราจะสามารถเป็นอย่างเขาได้ไหม บอกได้เลยว่าได้ แต่เราต้องเริ่มจากบทที่ดีก่อน แม้ประเทศเราจะมีแต่หนังตลก หรือ หนังผี แต่ถ้าเราเริ่มจากบทที่ดี วันนึงหนังตลกของเราก็จะกลายเป็นหนังที่ดีในสายตาชาวโลกได้เหมือนกัน [ หนังไทยส่วยใหญ่ที่กล้าฉีกแนว แต่บทมันหลวม คนเลยไม่ค่อยชอบ อย่ากเห็นหนังไทย ไปไกลเหมือน เกาหลี จีน ญี่ปุ่น ฝากคนไทย สนับสนุนหนังไทยด้วยกันนะครับ ]

ผู้กำกับ : ฮัน แจ-ริม
นำแสดงโดย : SONG KANG-HO, LEE BYUNG-HUN, JEON DO-YEON

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว ภาพยนตร์

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง fullmetal alchemist

รีวิวหนัง fullmetal alchemist หนังไลฟ์แอ็คชั่น คนแสดงที่สร้างจากการ์ตูนญี่ปุ่น เพื่อสาวกเน็ตฟลิกซ์ โดยเฉพาะ จากมังงะชื่อดังอย่าง Fullmetal Alchemist แขนกลคนแปรธาตุ ที่ต้องบอกเลยว่า เป็นอีกเรื่องที่ แฟนมังงะรอคอย และให้ความสนใจกับแฟนๆ มากทีเดียว [ ม่สปอยนะ ]

รีวิวหนัง fullmetal alchemist เอ็ดเวิร์ด และ อัลฟองเซ เอลริค สองพี่น้องตระกูล เอลริค ต้องสูญเสียแม่ที่รักไปอย่างกะทันหันด้วยโรคระบาด ทั้งคู่จึงตัดสินใจใช้วิชาแปรธาตุในการ ชุบชีวิตมนุษย์ ซึ่งถือเป็นวิชาต้องห้ามของการเล่นแร่แปรธาตุ เพื่อคืนชีวิตให้กับแม่ของตน แต่ด้วยสัจจะของโลกแล้ว ไม่สามารถสร้างชีวิตขึ้นมากจากความว่างเปล่าได้ เอ็ด และ อัล ต้องแลกด้วยร่างกาย เอ็ด แลกด้วยขา อัล แลกด้วยร่างกายทั้งหมด เมื่อกลับขึ้นมากจากประตูสัจจะ เอ็ด พบว่าร่างของน้องชายหายไปทั้งหมด จึงแลกด้วยแขน และดึงวิญญาณของน้องชาย มาผนึกไว้ในชุดเกราะด้วย ตราวงแหวนเลือด

พันเอก รอย มัสแตง แห่งกองทัพทราบเรื่องเห็นว่าเอ็ดมีฝีมือ ถึงขนาดสามารถผนึกวิญญาณได้ จึงเสนอให้เอ็ดเข้าเป็น นักเล่นแร่แปรธาตุของทางการ เพื่อที่ เอ็ด จะได้รับสิทธิต่างๆจากทางการ และเป็นการสะดวกยิ่งขึ้นในการหาวิธีกลับเป็นเหมือนเดิม เอ็ด ได้ตอบตกลงเข้านักเล่นแร่แปรธาตุของทางการ ได้ฉายาว่า นักเล่นแร่แปรธาตุเหล็กไหล จากการที่เขาสามารถใช้วิชาแปรธาตุ ได้โดยไม่ต้องใช้วงแหวนแปรธาตุ และเริ่มออกตามหา ศิลานักปราชญ์ เป็นศิลาวิเศษณ์ที่ทำให้สามารถใช้พลังการแปรธาตุ ที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์การแลกเปลี่ยน

หนังสร้างความแปลกใจให้เราหลายอย่าง ตั้งแต่เห็นเทรลเลอร์ก็นึกว่าจะเข้าโรง เช่นเดียวกับหนังจากมังงะเรื่องอื่น แต่ว่ากลับกลายเป็นว่าลง เน็ตฟลิกซ์ มาให้เราดูเลยละ ด้าน CG ของหนังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ติดความเป็นการ์ตูนเยอะไปหน่อย [ เพราะสร้างจาก การ์ตูนนี่หว่า ] จะเน้นความสมจริง ในส่วนคอสตูมแฟนซีของตัวร้ายทั้งหลาย ที่ทำออกมาได้ดีเข้ากับนักแสดง คอสเพลย์จากฉบับมังงะแปะเลย ดูแล้วให้ความรู้สึกว่าดูมังงะเลยละ ทำให้หนังติดอารมณ์การ์ตูนตลอด ความดุดันกดดันแบบหนังแอ็คชั่นมาเต็ม บอกเลยว่าแฟนมังไม่ควรพลาดแน่นอน ดูได้แล้วบน Netflix

นักแสดงนำ : เรียวสุเกะ ยามาดะ, ทซึบาสะ ฮอนดะ, ดีน ฟูจิโอกะ
ภาพยนต์แนว : แอ็คชั่น ผจญภัย, ไซไฟแฟนตาซี,
ผู้กำกับ : ฟูมิฮิโกะ โซริ

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวซีรี่ส์ The Sandman

รีวิวซีรี่ส์ The Sandman พบกับการท่องโลกแห่งแฟนตาซีสุดล้ำ ไปพร้อมกันกับพวกเขา The Sandman สร้างมาจากหนังสือการ์ตูน ซึ่งเป็นของค่าย DC โดยเป็นซีรี่ย์ประเภท แฟนตาซี ลึกลับ โดยได้มีนักแสดงนำหลักของเรื่องอย่าง ทอม สเตอร์ริดจ์ ที่จะเข้ามารับบท เจ้าแห่งความฝัน [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวซีรี่ส์ The Sandman เรื่องราวเกี่ยวกับเทพแห่งความฝันที่ถูกเรียกว่า มอร์เฟียส วันหนึ่งเขากำลังจะจัดการกับลูกน้องของเขา แต่ปรากฏว่าโดนคาถาจากผู้ร่ายเวทมนตร์ในบ้านหลังหนึ่ง พร้อมถูกจับกักขังเอาไว้เป็นเวลา 100 ปี ข้าวของอุปกรณ์ของเขาถูกชายผู้ร่ายคาถาขโมยไปจนหมด แล้วถูกขโมยไปอีกทีนึง เทพแห่งความฝันไม่ยอมปริปากพูดกับใครเลยสักคน ขณะอยู่ในที่กักขังที่เป็นแก้วกระจกอย่างดี ทั้งผู้ร่ายคาถาและลูกชายของผู้ร่ายคาถามาพูดโน้มน้าวใจ หาข้อเสนอมาร้อยแปดพันเก้า

เทพแห่งความฝันก็นิ่งเฉยไม่โต้ตอบอะไรทั้งนั้น จนมาวันหนึ่งเทพแห่งความฝันได้รับการช่วยเหลือจากชายคนหนึ่ง ที่อยู่ในบ้านหลังนั้น แต่เขาจะออกมาได้จริงๆหรือเปล่า เขาจะมีชีวิตต่อไปได้อย่างไร เพราะของถูกขโมยไปหมดแล้ว ของเหล่านั้นคือพลังส่วนหนึ่งของเขา เรื่องราวของเทพแห่งความฝันจะเป็นเช่นไรต่อ ต้องไปติดตามกันได้ที่ NETFLIX

มอร์เฟียส ราชาและผู้คุมโลกแห่งความฝัน เป็นหนึ่งในเจ็ดของเหล่า ENDLESS ซึ่งเป็นเจ้าแห่งฝันร้ายที่สร้างขึ้นโดย มอร์เฟียส พร้อมกับ ลูซิเฟอร์ เป็นปีศาจที่ครองอาณาจักรนรก มอร์เฟียส จะต้องออกเดินทางไปยังโลกต่างๆเพื่อที่จะกลับไปแก้ไขความผิดพลาด ที่ตนเองเคยก่อเอาไว้ จากนั้นเขาจึงต้องหาทางเอาชนะศตรูเพื่อที่จะทำให้ตนเองฟื้นฟูลำดับแห่งจักรวาล ทั้งในควาฝันและความเป็นจริงและครั้งนี้ มอร์เฟียส ได้พบกับเพื่อนและศัตรูทั้งหน้าเก่า และหน้าใหม่ในจักรวาลและโลกมนุษย์ [ พล็อตเรื่องสุดล้ำดูสนุก CG สุดอลังการ สมจริงสุดๆ ]

ต้องบอกเลยว่าเป็นซีรี่ส์อีกเรื่อง ที่น่าดูมากๆ แนะนำให้ลองดู งานฟอร์มยักษ์ระดับนี้ยังไงก็ไม่ควรพลาด ส่วนใครจะชอบมากน้อยก็แล้วแต่ความชอบกับซีรี่ส์แนวนี้ [ ส่วนตัวแอดชอบมากๆ ออกแนวซูปเปอร์ฮีโร่ ] ต้องบอกว่าแต่ละตอนมีความเข้มข้น เอกลักษณ์เฉพาะตัว แก่นหลักของเรื่องที่จะเล่าในแต่ละตอน ซึ่งแฟนนิยายแนวแฟนตาซีน่าจะติดได้ไม่ยากเลย แถมขนดาราดังมาเพียบ ห้ามพลาดเด็ดขาดขอบอก ดูได้แล้วบน Netflix

ซีรี่ส์แนว : ผจญภัย ,แฟนตาซี ,สยองขวัญ
กำกับโดย :NEIL GAIMAN

นักแสดงนำ : ทอม สเตอร์ริดจ์,เกวนโดลีน คริสตี้,วิเวียน อาเจียมปง,BOYD HOLBROOK,CHARLES DANCE,อาซิม เชาดรี

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว แอ็คชั่น ผจญภัย สยองขวัญ

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวซีรี่ส์ Stranger Things Season 4

รีวิวซีรี่ส์ Stranger Things Season 4 กลับมาอีกครั้งของซีซั่น 4 ซีรี่ย์แนวสยองขวัญ ไซไฟ สำหรับซีซั่นนี้ มาพร้อมกับนักแสดงนำทีมเดิมครบชุด และตัวละครใหม่ ทางผู้สร้างยังได้เปิดเผยว่า จะมีซีซั่น 5 ตามกันมาอีกด้วย พร้อมให้แฟนๆได้สนุกกับความมันส์ กันอย่างต่อเนื่องด้วยแน่นอน [ งานนี้แอดรอเลย ]

รีวิวซีรี่ส์ Stranger Things Season 4 บอกเล่าเรื่องราวในปี ค.ศ. 1986 หกเดือนให้หลังจากเหตุการณ์ห้างสตาร์คอร์ท แอล ที่ไม่มีพลังแล้วย้ายไปอยู่แคลิฟอร์เนียพร้อมกับ จอยซ์ วิล และ โจนาธาน เธอเฝ้ารอการมาเยือนของไมค์ในช่วงวันหยุดฤดูใบไม้ผลิ แม็กซ์ ยังปวดใจเรื่อง บิลลี่ และตัดสินใจเลิกคบกับ ลูคัส ที่ตอนนี้เป็นตัวสำรองในทีมบาสของโรงเรียน คืนหนึ่งเกิดเหตุไม่คาดฝัน เชียร์ลีดเดอร์ในฮอว์กินส์ถูกฆาตกรรมด้วยวิธีแสนประหลาด

เอ็ดดี้ หัวหน้าชมรม เฮลไฟร์ ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร ดัสตินสืบจนพบว่าสาเหตุทั้งหมดเกิดมาจากเมืองฮอว์กินส์ ต้องคำสาปของปีศาจ เว็คนาร์ แม็กซ์ ถูก เว็คนาร์ เลือกให้เป็นเหยื่อคนต่อไป ดัสติน สตีฟ แนนซี่ โรบิน และ ลูคัส พยายามหาทางช่วยชีวิต แม็กซ์ ขณะเดียวกัน แอล เลือกกลับไปสถาบันวิจัยพลังงานเพื่อเรียกพลังคืน เตรียมสู้กับ เว็คนาร์ การกลับไปที่แล็บของ แอล ต้องปิดเป็นความลับเพื่อไม่ให้รัฐบาลรู้

เมื่อพลัดพรากจาก แอล ไมค์ วิล และ โจนาธาน พร้อมเพื่อนใหม่ อาร์ไกด์ ออกตามหา แอล จอยซ์ ได้รับจดหมายปริศนาและพบว่า ฮ็อปเปอร์ ยังไม่ตายเธอร่วมมือกับ เมอร์เรย์ ออกตามหาและช่วยชีวิต ฮ็อปเปอร์ จอยซ์ จะสามารถช่วย ฮ็อปเปอร์ ได้ไหม แอล จะได้พลังกลับคืนมาหรือไม่ ไมค์ และ วิล จะตามหา แอล เจอไหม ดัสติน และพวกจะช่วยชีวิต แม็กซ์ ได้หรือเปล่า ต้องไปติดตามกันได้ทาง NETFLIX

STRANGER THINGS 4 การกลับมาครั้งนี้ยิ่งใหญ่และอลังการณ์สุดยิ่งใหญ่จริงๆ และต้องบอกเลยว่าเป็นซีรีส์ที่ดีทีสุดก็ว่าได้ จากทาง NETFLIX หลังปล่อยแฟนๆรอมานานกว่า 3 ปี กลับมาครั้งนี้โตขึ้นกว่าเดิม สนุกขึ้นกว่าเดิม เดือดเลือดสาดกว่าเดิม แล้วก็ดูดีอลังการงานสร้างมากๆจนต้องตรบมือให้เลยละ ถือว่าภาคที่ 4 นี้ทำออกมาไม่ผิดหวังเลยจริงๆ การปูเชื่อมต่อเรื่องราวในภาคนี้กลับไปยังต้นกำเนิดได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ และนักแสดงทุกคนแสดงได้ดีทุกคน บททุกบท BALANCE ได้ลงตัวทุกคนจริงๆดูได้แล้วบน NETFLIX

ประเภท : สยองขวัญ วิทยาศาสตร์
วันที่เข้าฉาย :27 พฤษภาคม พ.ศ. 2565
นักแสดงนำ : วิโนน่า ไรเดอร์. เดวิด ฮาร์เบอร์, ฟินน์ โวล์ฟฮาร์ด, มิลลี่ บ็อบบี้ บราวน์, เกเท่น มาตาราซโซ ,CALEB MCLAUGHLIN, NOAH SCHNAPP ,ซาดี ซิงก์ ,นาตาเลีย ไดเยอร์

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

รีวิวหนัง The Long Walk บ่มีวันจาก

รีวิวหนัง The Long Walk บ่มีวันจาก ภาพยนตร์แนว ทริลเลอร์ ไซไฟ จากประเทศลาว เป็นหนังที่โด่งดังที่สุดในตอนนี้ หนังเปิดเรื่องมาพร้อมกับ วัฒนธรรมของลาวที่แท้จริง พร้อมกับปมปริศนาต่างๆ ที่ลึกลับ และยังนำทฤษฎีต่างๆ มาผสมผสานกับแนวไซไฟ ได้ดีมากเลยทีเดียว [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวหนัง The Long Walk บ่มีวันจาก

ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ห่างไกลจากความเจริญมาก แต่ทว่าหมู่บ้านแห่งนี้ ได้มีเรื่องราวที่เล่าขานว่า มีชายคนหนึ่งที่สามารถสือสารและติดต่อกับวิญาณได้ จากนั้นตำรวจท้องถิ่น ได้ต้องขอให้เขา ช่วยออกตามหาร่างหญิงสาว ของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่ศพของเธอได้หายตัวไปอย่างปริศนา ทำให้ชาวบ้านต้องออกตามหาศพนั้นเพื่อมาทำพิธีต่อไป จนไปถึงหูตำรวจคนหนึ่ง จากนั้นตำรวจคนนั้นจึงได้เขาไปขอความช่วยเหลือ จากคนในหมู่บ้าน

ซึ่งเป็นชายวัยกลางคนที่ชาวบ้านต่างนับถือ และมีความเชื่อว่าลุงคนนั้น สามารถพูดคุยหรือสื่อสารกับคนที่ตายไปแล้วได้ เพื่อให้วิญญาณเหล่าช่วยตามหาศพของหญิงสาว แต่ทว่าตำรวจคนนี้เมื่อเข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดีนี้ ทำให้เขาต้องพบเจอกับความสยองขวัญที่ชนขนลุก เมื่อเขาต้องพบกับสิ่งลี้ลับที่มีอายุมากกว่า 50 ปี เรื่องราวจะเป็นอย่างไร รับชมภาพยนตร์จากทาง NETFLIX

หนังยังมีกลิ่นอายของความเป็นไทยอยู่เล็กน้อย เพราะว่านำธรรมเนียมความเชื่อ แบบศาสนาพุทธมาผสมผสานอยู่เรียกได้ว่ามีกลิ่นอายความเป็นไทยมากพอสมในรูปแบบของชาวตะวันออกเฉียงใต้ หรือภาคอีสานนั้นเอง โดยตามความเชื่อแล้ว บางคนก็ว่าโลกหลังความตายนั้น เปรียบเสมือนมีศาลพิพากษา ที่จะแยกแยะความดีและความชั่ว หลังจากที่ตายไป แต่เรื่องนี้บอกเลยว่าเนื้อเรื่องมีเรื่องราวที่ซับซ้อน พร้อมปมปริศนาที่พร้อมพาทุกคนไปค้นหาความจริงพร้อมกัน [ ต้องยอมรับว่า พล็อตหนังทำออกมาได้ดีมากๆ ] รับชมได้บน NETFLIX

ภาพยนต์แนว :ดราม่า,ระทึกขวัญ
กำกับโดย :แมตตี้ โด
นักแสดงนำ :ญาณ วุฒิ จันทลุง ศี วิลูนา เพชรมณี ป .สีลัตษา นุตนภา สร้อยดารา

ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่ รีวิว  Netflix

ติดตามแฟนเพจได้ที่ FB : Blusterfilms

1 3 4 5 6 7 19